:::     :::

ไม่น่าแพ้

วันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม 2564 คอลัมน์ สิงห์สนามจริง โดย ยักษ์เดนส์
1,114
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ความพ่ายแพ้ให้กับ อาร์เซน่อล ถือว่าส่งผลกระทบต่อการลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์ของทีมโดยตรง เพราะเท่ากับว่าสองเกมสุดท้ายของฤดูมีโอกาสที่ทีมจะหลุดวงโคจรได้เหมือนกัน

แม้ว่าความได้เปรียบยังอยู่ในมือของ "สิงห์บลูส์" เอง แต่ด้วยการที่ทีมมีโปรแกรมสำคัญในเกมชิงถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรออยู่ นักเตะอาจจะมีพะวงได้

ต่างจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เข้าป้ายคว้าแชมป์ไปแล้วสามารถสลับสับเปลี่ยนผู้เล่นได้ตามต้องการเพื่อความฟิตสูงสุดในเกมวันที่ 29 พฤษภาคม

4 คะแนนที่นำหน้า ลิเวอร์พูล และ 6 แต้มที่มากกว่า เวสต์แฮม ที่แข่งน้อยกว่า 1 เกมทั้งคู่ เท่ากับว่าอีกสองนัดสุดท้ายที่ต้องเปิดบ้านเจอกับ เลสเตอร์ ซิตี้ และ ไปเยือน แอสตัน วิลล่า ต้องเน้นต่อ โดยเฉพาะเกมกับ "สุนัขจิ้งจอก" ที่ต้องการชัยชนะเพื่อที่จะได้ผ่อนคลายได้บ้างในนัดสุดท้าย

ถือเป็นช่วงเวลาที่เข้มข้นของทีมมากจริงๆ


การจัดทีม

โธมัส ทูเคิ่ล เปลี่ยนทีมจากเกมที่บุกชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึง 7 ตำแหน่ง ซึ่งเข้าใจได้เพราะทีมมีเกมสำคัญในวันเสาร์นี้ที่จะชิงถ้วยเอฟเอ คัพกับ เลสเตอร์ ซิตี้ รออยู่

เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, รีซ เจมส์, บิลลี่ กิลมอร์ และ คริสเตียน พูลิซิช คือสามแข้งที่ได้ลงเล่นต่อ ส่วนอีก 8 คนเปลี่ยนหน้าไปโดย เมสัน เมาท์, จอร์จินโญ่, ติอาโก้ ซิลวา และ เบน ชิลเวลล์ คือ 4 แข้งหลักที่ได้พักในเกมที่เอติฮัด สเตเดี้ยมกลับมาลงเล่นตัวจริงอีกครั้ง ร่วมกับ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า, คูร์ท ซูม่า และ ไค ฮาแวร์ตซ์

ในรายของมือกาวทีมชาติสเปนทาง โธมัส ทูเคิ่ล ให้เหตุผลว่าจะได้ลงทำหน้าที่ในเกมชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ทำให้เกมนี้จึงได้ลงทำหน้าที่เพื่อที่จะสัมผัสเกมต่อเนื่องหน่อย


ผิดพลาดจนเสียหาย

เกม "ลอนดอน ดาร์บี้" ไม่เคยมีงานที่ง่ายอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเจอกับคู่แข่งที่แข็งแกร่ง หรือแม้ทีมรองบ่อน ก็ล้วนแล้วแต่เป็นงานหนักทั้งสิ้น

อาร์เซน่อล ถือเป็นคู่ปรับทีมสำคัญที่ครองความยิ่งใหญ่ร่วมกันมาตลอดช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าช่วงหลังจะตกลงไปเยอะก็ตามที แต่ยามเจอกันเมื่อเป็รศึกแห่งศักดิ์ศรีย่อมไม่มีใครยอมใคร

ช่วงต้นเกมไม่มีอะไรหวือหวา แต่นาทีที่ 11 เชลซี น่าจะได้ประตูขึ้นนำจังหวะที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ ฉกบอลตัดหน้า ปาโบล มารี ก่อนกระชากเกือบครึ่งสนามแล้วสับไกในเขตโทษแต่กลับยิงข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย


หลังจากนั้น 5 นาทีให้หลัง "สิงห์บลูส์" ก็มาผิดพลาดเองจนเสียประตจังหวะที่ จอร์จินโญ่ จ่ายบอลคืนหลังไม่ดูว่า เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ไปยืนรอคนละทางบอลกลิ้งเข้าหาประตู มือกาวชาวสเปนสปีดสุดตัวไปปัดเอาไว้ได้ แต่บอลมาเข้าทาง ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง ไหลเข้ากลางให้ เอมิล สมิธ โรว์ ตวัดยิงเข้าประตูไป

ลูกนี้ จอร์จินโญ่ ต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ ไม่ใช่แค่การจ่ายบอลไม่ดูเท่านั้น ในจังหวะที่บอลกำลังไปหน้าประตูตัวเองช่วงที่ เกปา วิ่งสุดตัวเพื่อปัดบอล มิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลีกลับยืนดูอยู่เป็นเวลานาน ถ้าพยายามลงไปช่วยตั้งแต่ทีแรกมั่นใจได้เลยว่าคู่แข่งจะไม่ได้สับไกแน่

หลังเสียประตู เชลซี เปิดเกมลุยแหลกแทบจะกดอยู่ข้างเดียวและน่าตีเสมอได้ขังหวะที่ ไค ฮาเวิร์ตซ์ ผ่านบอลมาให้ เมสัน เมาท์ ยิงด้วยซ้ายในเขตโทษติดเซฟ แบร์นด์ เลโน่ หลังจากนั้นก็ยังบุกแทบจะข้างเดียวแต่ก็ยังขาดๆเกินๆอยู่

      

ครึ่งหลังที่เหนื่อยยาก

เชลซี ออกสตาร์ทครึ่งหลังด้วยการขยับเปลี่ยนตัวทันทีโดยเอา คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ลงเล่นแทน บิลลี่ กิลมอร์ เพื่อเพิ่มมิติในการเล่นเกมรุกให้มากขึ้น

เกมยังเป็นเจ้าบ้านที่ครองบอลเดินหน้าเข้าใส่จังหวะเข้าทำแทบไม่ได้โอกาสลุ้นประตู การจ่ายบอลในพื้นที่สุดท้ายยังคงขาดความแม่นยำกระทั่งนาทีที่ 61 ทีมทีมมาส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้จากจังหวะเตะมุม เมสัน เมาท์ เปิดเข้ากลาง ไค ฮาแวร์ตซ์ ขึ้นโหม่งโดนไม่ดีบอลเลยมาเสาไหล คริสเตียน พูลิซิช เอาตัวชนบอลเข้าประตู แต่เป็นลูกล้ำหน้าชัดเจน

หลังจากนั้นไม่กี่นาที โอลิวิเยร์ ชีรูด์ ถูกส่งลงเล่นแทน ไค ฮาแวร์ตซ์ แต่ก็ยังไม่ช่วยอะไรเท่าไรนักจนต้องเอา ฮาคิม ซิเย็ค ลงเล่นแทน เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เพื่อเน้นรุกเต็มที่

        

โอกาสตีเสมอ

เชลซี น่าตีเสมอได้ในช่วงท้ายที่ ฮาคิม ซิเย็ค เปิดบอลเข้าเขตโทษ คูร์ท ซูม่า ได้โหม่ง แบร์นด์ เลโน่ พุ่งสุดตัวปัดปลายนิ้วบอลไปชนคาน โอลิวิเยร์ ชีรูด์ ตามไปซ้ำดาบสองด้วยขวาบอลยังไปชนคานอีก

จากโอกาสที่มากมายในเกมนี้ รวมถึงรูปเกมที่เหนือกว่าคู่แข่งต้องบอกว่า เชลซี แพ้ อย่างน่าเจ็บใจทั้งความผิดพลาดส่วนตัวและโชคที่หาไม่ได้จากเกมนี้

ความพ่ายแพ้นัดนี้ยังทำให้ทีมแพ้ให้กับทีม "ปืนใหญ่" แบบเหย้า-เยือนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2003/04 และยังเป็นการแพ้คารังในการเจอกันเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีอีกด้วย

        

สิ่งที่รออยู่

การปรับทัพในเกมนี้ไม่ได้เป็นที่ข้องใจของแฟนบอลนักเพราะทีมมีโปรแกรมชิงแชมป์เอฟเอ คัพกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในเกมวันเสาร์ ซึ่งต้องบอกว่ามีความสำคัญมากกว่าเกมนี้อยู่

เพราะด้วยสถานการณ์ในลีกถึงแพ้ทุกอย่างยังอยู่ในมือของตัวเอง และยังอาจจะพลาดได้อยู่ด้วย ทำให้เกมในสุดสัปดาห์นี้ที่มีเดิมพันเป็นแชมป์บอลถ้วยมีความสำคัญมากจริงๆ

หลังจากการเข้าชิงชนะเลิศปีที่แล้วแต่พบกับความผิดหวัง ทีมมีโอกาสแก้ตัวในครั้งนี้ และมันนอาจจะเป็นโทรฟี่แรกของ โธมัส ทูเคิ่ล ด้วย


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด