:::     :::

ถอดประวัติแม่ทัพไทยลีก 2 (ตอนแรก)

วันเสาร์ที่ 07 สิงหาคม 2564 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
1,205
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ได้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น และมีการแพร่กระจายไปในทุกพื้นที่ ทำให้ บ.ไทยลีก จำกัด ตัดสินใจเลื่อนเปิดฉากไทยลีก 1-2 ออกไป เดิมที่จะเป็นฤดูกาลในวันที่ 13 สิงหาคม ไปเป็น วันที่ 3-4 กันยายน 2564

เอาเป็นว่าเรายังมีเวลามากพอที่จะเสพข้อมูลต่างๆก่อนที่ลีกจะกลับมาเปิดอีกครั้ง ซึ่งวันนี้เราอยากจะนำเสนอ 9 กุนซือในไทยลีก 2 ว่าจะมีใครกันบ้าง และประวัติของแต่ละคนน่าสนใจขนาดไหน

 

จักรกริช บุญคำ (ราชประชา)

 หลังเริ่มต้นเส้นทางอาชีพกับ โอสถสภา ก่อนย้ายไป การท่าเรือไทย เอฟซี, บีอีซี เทโรศาสน, สุพรรณบุรี เอฟซี, แพร่ ยูไนเต็ด และ ขอนแก่น เอฟซี เคยคว้าแชมป์ ควีนส์คัพ 3 สมัย, ถ้วย ก. 2 สมัย, โตโยต้า ลีกคัพ 1 สมัย รวมทั้งติดทีมชาติไทย จากนั้น "โค้ชเจ" ได้เริ่มเทิร์นโปรการเป็นกุนซือแห่งทัพ "เดอะ ทีเร็กซ์"

 ก่อนที่ปลายปี 2020 จะก้าวมาคุมทีม ราชประชา พร้อมกับ รุ่งโรจน์ สว่างศรี อดีตตำนานเพลงแข้ง บีจี ปทุม ยูนเต็ด และผันตัวเองไปทำทีมอะคาเดมี่ให้กับ  "เดอะ แรบบิท" ซึ่งทั้งสองคนช่วยกันพาทัพ "ตราชฏา" คว้าตั๋วใบสุดท้าย หรือเป็นทีมที่ 3 ในการก้าวมาเล่นไทยลีก 2 ซีซั่นนี้

 ในตอนแรกทั้งคู่จะต้องเป็นผู้ช่วยของ "โค้ชโอ่ง" ดุสิต เฉลิมแสน ที่ลงมาคุมทีมดังกล่าวด้วยซ้ำ แต่เมื่อเขามีความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะไปทำทีม การท่าเรือ เอฟซี ทำให้ ราชประชา ตัดสินใจตั้ง จักรกริช บุญคำ และ รุ่งโรจน์ สว่างศรี กลับมากุมบังเหียนลุยลีกพระรอง


จเด็จ มีลาภ (เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด)

 นี่คือประสบการณ์ใหม่ของ "เซอร์เด็จ" จเด็จ มีลาภ หลังจากตอบรับไปคุมทีม เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด แทนที่ "โค้ชโป้ง" กฤษณ์ สิงห์ปรีชา ซึ่งตอนนั้นเป็นแชมป์ ไทยลีก 3 โซนตะวันตก ไปแล้ว ซึ่งเขายอมรับว่าไม่เคยไปกุมบังเหียนทีมระดับภูมิภาคมาก่อน และไม่ค่อยมีข้อมูลเรื่องตัวผู้เล่นด้วยซ้ำ

 แต่ด้วยความสามารถที่ผ่านประสบการณ์ระดับสูงมานาน ผสานกับนักเตะคุณภาพที่มีอยู่ในทีม ทำให้เขาพาทีมเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2 แม้ว่าจะจบด้วยการเป็นรองแชมป์รอบระดับประเทศ ด้วยการแพ้ต่อ ลำพูน วอริเออร์ แต่เมื่อเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกพระรอง ทีมก็เดินหน้าเสริมทัพด้วยนักเตะระดับพรีเมี่ยมเข้ามาอย่างมากมาย นำโดย 3 กองหน้าแซมบ้าอย่าง โจนาธาน เฮส, เลอันโดร อัสซัมเซา และ แฮร์ริสัน ไคออน

 ด้วยประสบการณ์ที่เคยคุมทีมอย่าง ชลบุรี เอฟซี, พัทยา ยูไนเต็ด , ชัยนาท ฮอร์นบิล , วัวชน ยูไนเต็ด , พีทีที ระยอง และ การท่าเรือ เอฟซี ตลอดจนการการันตีฝีมือด้วยการจบ โปร ไลเซนส์ รุ่นแรกของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย มั่นใจว่า ไม่มีใครกล้าตัด "ค้างคาวมหากาฬ" ออกจากสารบบการลุ้นแชมป์ไทยลีก 2 ลงได้เช่นกัน


จงสฤษดิ์ วุฒิช่วย (ลำพูน วอริเออร์)

 นับจากที่ "บอสตาล" พงษ์ศิริ ฐาราชวงศ์ศึก เข้ามาเป็นประธานสโมสร ลำพูน วอริเออร์ และมีความตั้งใจที่อยากจะให้ทีมบ้านเกิดทีมนี้เลื่อนชั้นให้ได้ เขาจึงแต่งตั้งกุนซือที่มีประสบการณ์ในลีกภูมิภาคแบบข้นคลั่กอย่าง "โค้ชปอด์น" จงสฤษดิ์ วุฒิช่วย เข้ามาคุมทีม

 ด้วยโปร์ไฟล์ที่เคยพาสามสโมสรคว้าสามแชมป์ ลีกภูมิภาค ไล่ตั้งแต่ เชียงราย ยูไนเต็ด, เชียงใหม่ เอฟซี และ ตรัง เอฟซี ทำให้เขารู้วิธีการในการไล่ล่าความสำเร็จกับ "ราชันโคขาว" ซึ่งก็เป็นจริง เพราะทีมสามารถคว้าแชมป์โซนเหนือ ก่อนมาเถลิงบัลลังก์รอบประเทศ

 การได้รางวัล THAI LEAGUE 3 COACH OF THE YEAR 2020 หรือรางวัลหัวหน้าผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยมไทยลีก 3 คือ เครื่องการันตีฝีมือของเขาที่สามารถพาทีมก้าวมาเล่นไทยลีก 2 หนแรกของการก่อตั้งสโมสรครบรอบ 10 ปี ได้เป็นอย่างดี


แฟร์นานโด ซาเลส (อุดรธานี เอฟซี) 

 หลังรอดพ้นจากการตกชั้นสำเร็จ เรียกว่า อุดรธานี เอฟซี ได้ทำการเปลี่ยนแปลงเยอะพอสมควร เพราะได้แยกทางกับกุนซือคนเก่าอย่าง ยอร์ค ปีเตอร์ สเตนบรุนเนอร์ ก่อนที่จะมาแต่งตั้ง แฟร์นานโด ซาเลส กุนซือเลือดแซมบ้าเข้ามาคุมทีม

 เขาเองก็มีประสบการณ์ในวงการลูกหนังไทยไม่น้อย เพราะเคยทำ ยโสธร เอฟซี ปี 2017 และ เกษตรศาสตร์ เอฟซี ปี 2018 ก่อนที่จะไปเป็นผู้ช่วยโค้ชทีมดังในเกาหลีใต้อย่าง อุลซาน ฮุนได ชุดอายุไม่เกิน 20 และ 23 ปี

 โดยแกนหลักของทีมอย่าง ประกิต ดีพร้อม อดีตกองกลางทีมชาติไทย ชุดแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014, 2016 ก็ยังอยู่เป็นลูกพี่ให้น้องๆ ในทีม ต้องมารอดูกันว่าการคัมแบ็คสู่แดนสยามหนที่สามของ แฟร์นานโด ซาเลส จะทำผลงานได้ดีเพียงใด


พนิพล เกิดแย้ม (เกษตรศาสตร์ เอฟซี)

 ในช่วงเลกสองผลงานของ เกษตรศาสตร์ เอฟซี ดำเนินไปอย่างยอดเยี่ยม และหลังจากเกมเปิดบ้านเอาชนะ ลำปาง เอฟซี 1-0 พวกเขาได้ตั้ง "โค้ชตู่" พนิพล เกิดแย้ม ผู้อำนวยการอะคาเดมี่ของสโมสร เข้ารับตำแหน่งกุนซือคนใหม่ของทีม แทนที่ วริศ บุญศรีพิทยานนท์

 ถือว่าเป็นการคัมแบ็คกลับมาสู่ทีมที่เคยเป็นสถาบันที่เขาร่ำเรียมมาก่อนอีกครั้ง และยังให้โอกาสในการเป็นกุนซือแบบเต็มตัว จนเคยพาทีมเป็นแชมป์โซนกรุงเทพฯปริมณฑล ในไทยลีก 3 มาแล้ว เมื่อปี 2011 (เวลานั้นยังใช้ชื่อว่า เอไอเอสลีก ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2) 

 เฮดโค้ช เอ ไลเซนส์ คนนี้ นอกจากจะพาทีมอยู่รอดในไทยลีก 2 แล้ว ยังให้โอกาสกับนักเตะหลายคน แถมปีนี้ผู้บริหาร "นาคามรกต" ก็เปิดโอกาสให้เสริมทัพอย่างน่าดูชม แต่จะสามารถพาทีมไปสู่่เป้าหมายในการเพลย์ออฟได้หรือไม่ 34 เกมจากนี้จะเป็นคำตอบที่น่าติดตาม


ดาเมียน เบลลอง (MOF ศุลกากร ยูไนเต็ด)

 เขาเป็นที่รู้จักอย่างมากในเมืองไทย หลังจากหิ้วสตั๊ดมาเล่นกับ สระบุรี เอฟซี ก่อนที่จะได้เทิร์นโปรในการคุมทีมกับ แกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2019 พาทีมจบในฐานะรองแชมป์ไทยลีก 3 โซนล่าง ก่อนเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ T2

 จากทีมที่เคยได้ชื่อว่าไม่น่าจะมีลุ้นอะไร แถมน่าจะอยู่ในกลุ่มท้ายตารางของไทยลีก 2 แต่ ดาเมียน เบลลอง ไม่สนใจคำพูดเช่นนั้น เขากลับพา แกรนด์ อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด ทะยานไปจบอันดับ 8 ของตาราง และห่างพื้นที่เพลย์ออฟเพียงแค่ 4 แต้มเท่านั้น

 นั่นจึงเป็นคำตอบที่ดีพอของ เอ็มโอเอฟ ศุลกากร ยูไนเต็ด ที่จัดการคว้ากุนซือชาวสวิตเซอร์แลนด์ เข้าร่วมทีมอย่างเป็นทางการ ซึ่งเขาเองก็วางเป้าหมายที่อยากจะพาทีมจบในอันดับท็อปเท็นของตารางให้จงได้


สุกฤษฎิ์ โยธี (ลำปาง เอฟซี)

 ผลงานที่จับต้องได้ในการพา อุดร ยูไนเต็ด เข้าไปเล่นในรอบเพลย์ออฟ ชิงตั๋วใบที่สาม ของการเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2 แต่สุดท้ายก็ต้องปราชัยให้กับ ราชประชา ไปแบบน่าเจ็บใจ และนี่เองที่ทำให้ ลำปาง เอฟซี ดึงตัวมาคุมทีม หลังได้กลุ่มทุนของ หนองบัว พิชญ เข้ามาบริหาร พร้อมกับดึงนักเตะจาก อุดร ยูไนเต็ด ตามมาสมทบอีกชุดใหญ่

 "โค้ชต้น"สุกฤษฎิ์ โยธี เป็นกุนซือที่จบ บี ไลเซนส์ รุ่นเดียวกับ "โค้ชโชค" โชคทวี พรหมรัตน์ ผู้พาทีมชาติไทย คว้าแชมป์ซีเกมส์ 2015 และพา การท่าเรือ เอฟซี ได้แชมป์ เอฟเอ คัพ 2019 มาครองอย่างยิ่งใหญ่

 ด้วยรูปแบบการทำทีมสไตล์ "บุก ทุบ แทง" หรือ "เดินหน้าฆ่าลูกเดียว" จึงน่าสนใจเหลือเกินว่า ปีนี้เป้าหมายจบ 1-6 หรือเข้าไปเล่น เพลย์ออฟ ชิงตั๋วเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดของเมืองไทยในฤดูกาลหน้า เขาจะสามารถทำได้หรือไม่


มิซูโอะ คัตโตะ (ราชนาวี)

 แม้ "โค้ชหนุ่ย" เฉลิมวุฒิ สง่าพล จะพาทีมจบในกลางตาราง และเป็นทีมเดียวที่ยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้กับทีมแชมป์อย่างหนองบัว พิชญ เอฟซี แต่ ราชนาวี ก็ได้ตัดสินใจแต่งตั้ง มิซูโอะ คัตโตะ กุนซือชาวญี่ปุ่นวัย 41 ปี ดีกรีระดับเอเอฟซีโปร ไลเซนส์ เข้ามารับงานคุมทีมอย่างเป็นทางการ  

 ด้วยความสามารถที่ผู้บริหารของ "ตะหานน้ำ" มองเห็นว่า เคยทำงานในเครือข่ายกับ อากิระ นิชิโนะ อดีตกุนซือทีมชาติไทย แถมยังมีประสบการณ์กับ  ชลบุรี เอฟซี ในปี 2012-2014 , หนองบัว พิชญ เอฟซี ปี 2019 , สมุทรปราการ ซิตี้ ปี 2019-2021 

 นั่นทำให้ ราชนาวี ตัดสินใจไม่ยากที่จะทาบทามเทรนเนอร์แดนปลาดิบคนนี้เข้ามาสู่ทีม สำหรับการลงสู้ศึกไทยลีก 2 ฤดูกาล 2021/2022


มาซายูกิ มิอุระ (ขอนแก่น เอฟซี)

 การลาออกของ สมชาย มากมูล จากการคุมกองทัพ "เดอะ ทีเร็กซ์" ทำให้หลายสำนักมองไปที่กุนซือคนใหม่ ที่จะเข้ามาทำทีมลุยในไทยลีก 2 ฤดูกาล 2021/2022 และก็ไม่มีการพลิกโผแต่อย่างใด

 อาจจะเพราะด้วยคอนเนคชั่นของ ขอนแก่น เอฟซี ที่ทำไว้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในซีซั่นนี้ ไม่เพียงแต่ได้นักเตะจาก "ปราสาทสายฟ้า" มาร่วมทีมหลายคน พวกเขายังได้ มาซายูกิ มิอุระ กลับมาคุมทีมอีกครั้ง หลังเคยร่วมงานกันในปี 2016

 แม้จะมีประสบการณ์ที่ไม่น่าจดจำกับ อุทัยธานี เอฟซี ในฤดูกาลที่ผ่านมา ในการคุมทีมระยะสั้น แต่การคัมแบ็คมาสู่ถิ่นไดโนเสาร์หนนี้ ก็น่าติดตามว่าเขาเองจะงัดกลยุทธ์ใด ออกมาใช้ในครานี้กัน


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด