:::     :::

"การเผชิญหน้าที่สต็อกโฮล์ม" Daley Blind

วันเสาร์ที่ 04 กันยายน 2564 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
4,087
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นี่คือเรื่องราวของ ดาลีย์ บลินด์ ชายผู้ต้องเผชิญหน้ากับAjax ทีมเก่าที่เขาเชียร์ ในรอบชิงยูโรปาสมัยเล่นให้แมนยู คืนนั้นเกิดอะไรขึ้น และเขาจะทำเช่นไร นี่คือข้อความจากปากโดยตรงของบลินด์ที่เล่าให้เราฟัง ผ่านคอลัมน์ UTD Unscripted ถึงเรื่องราวในตอนนั้น และต่อจากนี้คือถ้อยคำของเขา

หลายปีก่อนผมคิดว่ายูโรปาลีกสำคัญมากขึ้นเยอะสำหรับทีมใหญ่ เพราะมันเป็นโอกาสที่จะทำให้ได้สิทธิ์เล่นแชมเปี้ยนส์ลีก ดังนั้นมันจึงไม่ได้ถูกมองเพียงแค่ว่าเป็นถ้วยรองอย่างเดียวอีกต่อไป ความสำคัญของมันมากขึ้น

แน่นอน ถ้วยนี้ในฤดูกาล2016/17 มันเป็นสถานการณ์ที่ "ต้องชนะ" เท่านั้นสำหรับทุกคนที่ยูไนเต็ด

กว่าจะเข้าถึงรอบชิงยูโรปาลีกได้นั้นมันเป็นเส้นทางที่ยาวมากๆ เพราะทีมเยอะกว่าในแชมเปี้ยนส์ลีก และบางทีรอบคัดเลือกมันก็เริ่มต้นทันทีภายในไม่กี่สัปดาห์ หลังจากซีซั่นที่แล้วเพิ่งจะจบลง ดังนั้นมันจึงต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมากในการผ่านมาแต่ละรอบ ซึ่งบางทีมันก็ต้องมีหวังพึ่งดวงบ้าง ยกตัวอย่างเช่นเราเกือบที่จะตกรอบแล้วในนาทีสุดท้ายรอบรองชนะเลิศในเกมกับเซลต้า บีโก้ พวกเขาพลาดโอกาสทองในช่วงเวลาทดเจ็บ

แต่ในตอนท้ายแล้ว บางทีเราก็ต้องการให้โชคมันเข้าข้างบ้างเพื่อที่จะชนะผ่านไปให้ได้

หลังเดินออกมาจากสนามในคืนนั้นผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้ไปเล่นรอบชิงที่สต็อกโฮล์ม จากนั้นเราก็ได้ทราบว่าเราจะต้องเจอกับอาแจ็กซ์ ซึ่งจริงๆผมรู้อยู่แล้วแหละว่ามันอาจจะเป็นอาแจ็กซ์หรือไม่ก็ลียง และสาบานเลยว่าผมทำใจไม่ถูกว่าจะรู้สึกยังไงดี เพราะรู้ว่ามันจะเป็นเกมที่ไม่เหมือนเกมอื่นทั่วไปสำหรับผม

ผมตามเชียร์อาแจ็กซ์อยู่เสมอตลอดเวลา

การจะต้องเจอกับพวกเขาอาจจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวก็ได้ที่ผมจะไม่ได้ซัพพอร์ตพวกเขา ดังนั้นมันจึงแปลกๆที่ต้องรู้สึกว่ามันเป็นเกมพิเศษอย่างมากสำหรับใครบางคน ซึ่งกับคุณพ่อของผมก็เช่นเดียวกัน ผมคิดว่าเขาน่าจะเชียร์ผมมากกว่าเชียร์อาแจ็กซ์ในเกมนี้เกมเดียว ผมหวังว่าอย่างน้อยมันจะเป็นงั้นนะ!

ผมรู้จักกับนักเตะอาแจ็กซ์บางคนตอนที่ผมยังอยู่กับสโมสร และรู้จักอีกหลายๆคนจากทีมชาติฮอลแลนด์ แต่หลังจากวันที่แข่งรอบรองชนะเลิศเสร็จ พวกเราก็ไม่ได้มาพูดคุยอะไรกันมากมายเกี่ยวกับรอบชิงที่จะเกิดขึ้น เราต่างพาเงียบสนิท ไม่คุยอะไรกันเยอะแยะเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะว่าไม่มีใครอยากให้มันยุ่งวุ่นวายหรือพาซวยขึ้นมา

ส่วนผมเองรู้สึกในใจชัดเจนมากๆว่า ถ้าเราแพ้รอบชิง ผมคงไม่สามารถกลับไปกรุงอัมสเตอร์ดัมได้ตลอดชีวิตแหงๆ

สำหรับผมแล้ว นั่นทำให้มันเป็นยิ่งกว่า "เกมที่จำเป็นต้องชนะเท่านั้น" ซะอีก

มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และเราก็รู้ดี เพราะว่ามันเป็นอาแจ็กซ์ชุดที่มีพรสวรรค์มาก ทุกๆคนล้วนแล้วแต่ตั้งใจ ทุกๆคนรู้ดีว่าอะไรที่เป็นปัญหา ถ้วยยุโรปและพื้นที่แชมเปี้ยนส์ลีก ส่วนตัวผมแล้วผมโฟกัสที่เกมเหล่านั้นอย่างมาก

ผมพยายามศึกษาการเล่นของแคสเปอร์ ดอลเบิร์ก ที่ตอนนั้นกำลังฟอร์มดอย่างมาก เพื่อนของผมบอกว่า พวกเขาไม่กล้าทักมาพูดคุยกับผมเลยในวันก่อนเกม พวกเขาก็พยายามแล้วแต่ว่าผมอยู่ในสมาธิของตัวเองและไม่ต้องการจะยุ่งเกี่ยวกับสิ่งใดทั้งนั้นนอกจากคิดเกี่ยวกับเรื่องของดอลเบิร์ก ผมคิดว่านั่นคือการทำเพื่อทีม ที่จะต้องคิดคำนึงถึงคู่ต่อสู้

ทุกๆคนมีสมาธิมากในรอบชิง มันเป็นเกมที่สำคัญที่สุดหลังจากที่ผ่านฤดูกาลอันยาวนานมา เพราะว่าเราหมดภารกิจกับเกมพรีเมียร์ลีกแล้ว และเราต้องการจะไปคว้าชัยชนะที่สต็อกโฮล์มเพื่อที่จะการันตีการได้เล่นแชมเปี้ยนส์ลีกของทีมเราในฤดูกาลหน้า

ทุกๆคนตระหนักดีถึงเรื่องนั้น และผู้จัดการของเราอย่างโจเซ่ มูรินโญ่ก็ทำให้ทุกๆคนเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งนั้น สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ตอนที่ลงเล่นให้กับมูรินโญ่ก็คือ เขาจะเตรียมตัวอย่างดีเสมอเพื่อพาทีมเก็บผลการแข่งขันที่ดีให้ได้ และในทางแทคติกเราก็พร้อมเช่นกัน

เรามีตัวเจ็บไปหลายคนเลย แต่ทุกๆคนก็พร้อม ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเองดี ผู้จัดการทีมชี้แจงแทคติกของเขาให้ทุกคนรู้ชัดเจนว่า อาแจ็กซ์มักจะพยายามเซ็ตบอลขึ้นมาเสมอ แล้วก็พยายามจะเล่นเพรสซิ่งตลอดเวลา ดังนั้นเราจะไม่ต่อบอลขึ้นไปและเน้นวางบอลยาวไปให้กับเฟลไลนี่ที่เป็นตัวเป้าหมายแทน

ถ้าคุณได้ดูอาแจ็กซ์เล่นมาตลอดในรายการปีนั้น พวกเขายิงประตูได้เยอะมากจากการเพรสซิ่งและชิงบอลได้ในแดนคู่แข่ง แต่เราไม่เจอปัญหาอะไรกับสิ่งเหล่านี้เลยด้วยการไม่ใช้ตั้งบอลจากแดนหลัง แล้วเปลี่ยนเป็นวางบอลไดเร็คต์ขึ้นหน้าไปเลย

บางทีคุณจำเป็นต้องปรับการเล่นบ้าง และผมคิดว่ามันใช้งานได้ดีเลย

เอาตรงๆเลยนะ มันไม่ใช่วิธีเล่นฟุตบอลของผม ผมชอบต่อบอลจากแดนหลังมากกว่า และก็ครองบอลเป็นเวลานาน มันไม่ใช่แนวทางที่ผมเติบโตขึ้นมาจากการเล่นที่อาแจ็กซ์ แต่ถ้าทำแล้วชนะรอบชิงผมก็ไม่มีปัญหานะ! ถ้าต้องใช้วิธีการที่แตกต่างออกไปเพื่อที่จะให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ผมก็พร้อมที่จะทำได้ทั้งนั้น เราซ้อมกันมาแล้ว ทุกๆคนในทีมรู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ทุกคนเข้าใจตรงกันทั้งหมด

แต่คืนสุดท้ายก่อนบินไปสวีเดน ก็มีเหตุระเบิดที่แมนเชสเตอร์อารีน่าเกิดขึ้น..

ผมอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุที่อารีน่าแค่ประมาณเดินห้านาทีถึง ดังนั้นมันจึงโคตรใกล้มากๆ โคตรเฉียด ในกรณีนี้สำหรับผมให้คุณลองจินตนาการถึงเพื่อนร่วมทีมของผมที่เป็นคนแมนเชสเตอร์ดู คนที่มีสายสัมพันธ์กับเมืองนี้ มันกระทบกับทีมจริงๆ ในช่วงเวลานั้นเรื่องฟุตบอลดูเล็กน้อยไปเลย จากนั้นนักเตะจากทีมอื่นๆทั้งหลาย, นักเตะของซิตี้ และทีมอื่นๆนอกจากเมืองแมนเชสเตอร์ ทุกๆคนร่วมใจกันออกมาส่งแรงใจซัพพอร์ตให้เหตุการณ์นี้

มีบางสิ่งบางอย่างระหว่างพวกเราในฐานะนักฟุตบอลที่ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเมืองนี้ เพื่อนำความสุขของผู้คนกลับมา และมอบกำลังใจให้เขาในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนั้น

เหตุสะดุดเช่นนี้อาจจะเป็นทั้งสิ่งที่ทำให้คุณแย่ลง หรือไม่ก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้คุณได้ และแน่นอนว่ามีคนที่รู้สึกกระทบกระเทือนใจในเรื่องนี้ แต่เราทั้งหมดก็ใช้มันเป็นพลังให้พวกเรา

แฟนบอลมากมายของเราที่สนาม หลายๆคนในนั้นอาจจะมีคนรู้จักของพวกเขาที่อยู่ที่อารีน่านั้นด้วย ดังนั้นเราจึงต้องการลงไปแสดงให้พวกเขาและคนทั้งโลกได้รับรู้ว่าเราต้องการจะทำสิ่งนี้เพื่อพวกเขาให้สำเร็จมากเพียงใด และก็มอบความสุขให้พวกเขาด้วยการชนะบอลถ้วยยุโรปในรอบชิงชนะเลิศให้ได้

นั่นคืออย่างน้อยที่สุดเท่าที่พอจะทำให้พวกเขาได้ในฐานะนักฟุตบอลช่วงเวลานั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องที่มาจากแมนเชสเตอร์ มันคือค่ำคืนที่พิเศษจริงๆ

เราเล่นกันอย่างเน้นแทคติกมากๆ เราไม่รู้สึกว่าอาแจ็กซ์จะยิงเราได้เลย ทุกๆคนอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องอย่างมาก โดยเฉพาะแนวรับ ผมลงคู่กลางร่วมกับคู่หูอย่าง คริส สมอลลิ่ง ที่เล่นด้วยกันอย่างมีความสุขเสมอ เรามีการประสานงานที่ดีในช่วงซีซั่นก่อนหน้านี้ในยุคหลุยส์ ฟาน กัล และเราก็ทำได้ดีในรอบชิง

ถ้าไปย้อนดูเกมในวันนั้นคุณจะเห็นเลยว่าเราเล่นกันได้อย่างมีสมาธิและเป็นมืออาชีพมากๆ เราไม่โยนโอกาสทิ้งขว้าง และเราทำให้อาแจ็กซ์รู้สึกได้ว่า ทีมที่จะชนะในคืนนั้นดูเหมือนมีโอกาสที่จะเป็นข้างเราอย่างเดียว เราแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน

แผนการใช้มารูยานเป็นเป้าหมายนั้นใช้ได้ผลดี เขาชิงบอลชนะทุกจังหวะ แผงมิดฟิลด์เราแข็งแกร่งอย่างมากเพราะการมีป็อกบาด้วยเช่นกัน ผมคิดว่าเกมรับของเราแน่นจริงๆ เราอาจจะเปิดพื้นที่ให้เขาขึ้นมาบ้างประมาณนึงเท่าที่พอจะวางใจได้ จากนั้นเราก็ตามวิ่งไล่พวกเขาไปทุกหนทุกแห่ง พวกเขาหาวิธีเจาะเราไม่ได้ และเราก็เล่นเกมหนักในเชิงphysicalมากกว่าปกติ

ประตูแรกผมคิิดว่าการทุ่มเข้ามามันกดดันได้ดีมากๆ และเมื่อเก็บบอลได้ ปอลก็ลองยิงซึ่งบอลมันมีแฉลบเปลี่ยนทิศทาง ดังนั้นมันเลยมีโชคเล็กๆด้วย แต่ว่าเราไม่ได้จะคร่ำครวญอะไรถึงมันนะ

ในยุคนั้น เวลาเรายิงประตูแรกขึ้นนำก่อน น้อยทีมนักที่จะไล่ตามตีเสมอหรือยิงเราคืนได้ เราเล่นกันได้แน่นอนมากๆตอนที่นำ 1-0 และประตูที่สองก็มาตอนครึ่งหลังในจังหวะดีสุดๆที่เล่นงานอาแจ็กซ์ได้ดี มันทำลายความเชื่อของพวกเขาที่ว่าจะสามารถกลับลงมาพลิกเกมในครึ่งหลังได้นั้น ให้สูญสิ้นไปในทันที


เรายิงทั้งสองประตูในจังหวะดีที่สุดและสามารถคุมเกมเอาไว้ได้ เราเล่นกันอย่างมีวินัยมากจนทำให้มันดูเหมือนเป็นการชนะได้ง่ายๆแม้จะเป็นรอบชิงถ้วยยุโรปก็ตาม

มันเป็นช่วงเวลาที่ผมภูมิใจมากเมื่อกรรมการเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน ทีมอย่างยูไนเต็ดนั้นต้องอยู่ในระดับสูงสุดเสมอ เขาควรจะอยู่ในแชมเปี้ยนส์ลีก แต่ถ้ามาเล่นในยูโรปาคุณก็ต้องพิชิตมันให้ได้

สำหรับผมแล้ว มีนักเตะไม่มากนักที่จะชนะได้ในรอบชิงบอลยุโรป เพราะฉะนั้นผมเลยภูมิใจอย่างมากกับสิ่งที่ผมทำได้ มันเป็นโทรฟี่เดียวที่ยูไนเต็ดไม่เคยได้มาก่อนเลย และมีไม่กี่สโมสรเท่านั้นที่จะมีถ้วยครบทุกรายการ ผมเลยภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวนี้

แน่นอนว่าตอนนี้ผมค้าแข้งอยู่บนเส้นทางกับอาแจ็กซ์ ผมย้ายกลับมาร่วมทีมเป็นปีๆแล้วหลังจากผ่านนัดชิงยูโรปาลีกมา มันชัดเจนว่าการพ่ายแพ้ให้กับยูไนเต็ดเป็นประสบการณ์ที่สำคัญให้กับสโมสร ในซีซั่น 2016/17 พวกเขาได้วางรากฐานสำหรับปีต่อๆไปเอาไว้

ผมรู้สึกเหมือนกับว่า การได้เข้าถึงรอบชิงยูโรปาลีกนั้น มันคือการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเจอกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกของฤดูกาล 2018/19

เพราะนักเตะหลายๆคนที่เคยได้ลงสนามเจอกับยูไนเต็ดในรอบชิงคืนนั้นอย่างเช่น มัทไธจ์ เดอ ลิกต์, อันเดร โอนาน่า, แฟรงกี้ เดอ ยอง และอีกหลายๆคนนั้นยังเด็กมากๆ ผมพูดคุยกับพวกเขาหลังจากนั้น ซึ่งพวกเขาก็ยอมรับว่าประหม่าเล็กน้อย เพราะพวกเราคือแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอันยิ่งใหญ่ และมันเป็นรอบชิงที่แตกต่างออกไป

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตได้หลังจากกลับมาอยู่ที่อาแจ็กซ์นี้คือ ในยามลงเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกเจอกับทีมใหญ่ระดับเรอัล มาดริด และ ยูเวนตุส พวกเขาไม่กลัวใครทั้งนั้น เพราะว่ามีประสบการณ์แบบนั้นมาแล้ว และมันช่วยพวกเขาได้อย่างมาก การพัฒนาเกิดขึ้นทั้งในภาคของทีม และ พัฒนาในด้านฝีเท้าส่วนตัวของนักเตะแต่ละคน

ในฤดูกาล 2016/17 อาแจ็กซ์นั้นดีมากๆ แต่ว่ายังขาดอยู่อีกประมาณ 5% สุดท้าย ..

5% ของความเชื่อที่ว่าคุณจะสามารถเอาชนะได้ในรอบชิงชนะเลิศ เพราะฉะนั้นแล้วประสบการณ์ในวันนั้นมันจึงเป็นสิ่งที่เติมเต็มได้อย่างดีสำหรับพวกเขา

เกมกับยูไนเต็ดสำคัญมากๆกับนักเตะเหล่านั้น และผลของมันทำให้พวกเขาเกือบจะเข้าถึงรอบชิงแชมเปี้ยนส์ลีกในปี 2019 เกือบมากจริงๆ ทุกๆอย่างมันมาหมดแล้วในซีซั่นนั้น แต่ก็เสียท่าให้กับสเปอร์ส ในวินาทีสุดท้ายของรอบรองชนะเลิศ

Ajax 2018/19 ตบยูเวนตุสที่มีคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตกรอบ8ทีมสุดท้าย ในขณะที่ยูไนเต็ดแพ้บาร์ซ่าตกรอบเดียวกันนี้

แต่อย่างไรก็ตาม ทีมนี้เล่นด้วยเกมของตัวเองเสมอ เชื่อมั่นในสไตล์ของตัวเองที่มี และนั่นก็ยังเป็นสิ่งที่เราทำอยู่จนถึงทุกวันนี้ในเกมยูโรปาลีกของฤดูกาล

มีไม่กี่ทีมหรอกที่อยากจะเจอเราตอนนี้ ใครจะรู้ล่ะ บางทีเราอาจจะมีโอกาสเจอยูไนเต็ดก็ได้ในซีซั่นนี้

-Daley Blind-

ด้านบนทั้งหมดนี้ คือเรื่องราวทั้งหมดจากปากของ ดาลีย์ บลินด์ โดยตรง ที่มอบเอาไว้ให้กับแมนยูไนเต็ด ในคอลัมน์ UTD Unscripted เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2021 ก่อนลงเตะรอบ 16 ทีมสุดท้ายในยูโรปาลีกซีซั่นที่ผ่านมา ฤดูกาล 2020/21

แม้อาแจ็กซ์ของบลินด์จะผ่าน ยังบอยส์ มาได้ แต่สุดท้ายก็ต้องแพ้ให้กับ โรม่า ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์รวม 3-2 ก่อนที่โรม่าจะมาโดนแมนยูไนเต็ดเอาชนะในรอบรองด้วยสกอร์รวม 8-5 และเราก็เข้าไปแพ้บียาร์เรอัลในรอบชิงชนะเลิศท้ายที่สุด

ส่วนใน UCL ฤดูกาล 2021/22 นี้ อาแจ็กซ์อยู่กลุ่ม C ร่วมกับ สปอร์ติ้ง ดอร์ทมุนด์ เบซิคตัส ซึ่งมีโอกาสที่พวกเขาจะผ่านเข้ารอบได้ ด้วยนักเตะหลายๆคนที่เรารู้จักกันดีที่ยังอยู่กับทีม

ไม่ว่าจะเป็น โอนาน่า, เซบาสเตียน อัลแลร์, ตาเกลียฟิโก้, ดูซาน ทาดิช, ดาวิด เนเรส, ไรอัน กราเวนเบิร์ช มิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย18, เอ็ดสัน อัลวาเรซ มิดฟิลด์ตัวรับวัยขบเผาะ23ปีที่แมนยูน่ามาสอดส่อง(ซะบ้าง), สตีเฟน เบิร์กเฮาส์ ปีกตัวเก๋าที่เซ็นมาจากคู่อริอย่างเฟเยนูร์ด เป็นต้น รวมถึงดาลีย์ บลินด์ ในวัยที่เพิ่งจะ 31ปี และฤดูกาลนี้เขาถูกปรับมาเล่นเป็นแบ็คซ้ายให้กับทีมแล้วเรียบร้อย

ดูจากตัวผู้เล่นก็มีโอกาสที่จะเบียดสปอร์ติ้ง กับ เบซิคตัส เข้ารอบมาพร้อมกับดอร์ทมุนด์ได้ไม่ยาก

คำพูดที่บลินด์บอกว่าอาจจะมีโอกาสได้เจอกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนั้น อาจจะเกิดขึ้นจริงก็ได้ในปีนี้

บนสังเวียนใหม่ที่ยิ่งใหญ่และสมศักดิ์ศรีสำหรับทั้งคู่ ..

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

-ศาลาผี-

Reference

https://www.manutd.com/en/news/detail/utd-unscripted-daley-blind-on-europa-league-win-in-stockholm

https://www.transfermarkt.com/ajax-amsterdam/startseite/verein/610

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด