12 วิสุดท้าย กับ 1 คะแนนที่ล้ำค่า
สกอร์อาจจบลง 1-1 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน แต่เป็น “1 คะแนน” ที่ไม่เท่ากัน
สำหรับทีมไทย นี่คือ 1 แต้มอันล้ำค่า ต่อชีวิตในการลุ้นไปต่อรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่สำหรับ โมร็อกโก คือ 1 คะแนนที่สุดเจ็บปวด
แชมป์จากทวีปแอฟริกา เหนือกว่าทีมไทยทุกอย่าง ทั้งสปีดบอล ความสามารถ โอกาสทำประตู ตลอด 39 นาที 48 วินาที
ทว่า 12 วินาทีสุดท้ายของเกมก่อนออดสนามดัง ประตูของ จิรวัมน์ สอนวิเชียร รีเซ็ตทุกอย่าง 3 คะแนนที่โอบกอดมาหลุดจากอ้อมแขน เหลือเพียง 1
เคานท์ดาวน์เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ถูกเลื่อนออกไปเป็นแมตช์หน้า
อย่างไรก็ตามส่วนหนึ่งต้องชมหัวจิตหัวใจ ทีมชาติไทย ที่ไม่ยอมแพ้ยันวินาทีสุดท้าย
ทั้งที่เอาเข้าจริง หากว่ากันแบบตรง ๆ พวกเขาไม่สมควรมีคะแนนในนัดนี้ด้วยซ้ำ
ไล่ตั้งแต่การกดดันตัวเอง เล่นไม่เป็นธรรมชาติ เหมือนที่ “โค้ชหมี” รักษ์พล สายเนตรงาม เฮดโค้ชได้กล่าวไว้หลังเกม เกมรุกติด ๆ ขัด ๆ แทบไม่สามารถกดดันคู่ต่อสู้ได้ หรือจะบอกว่าสร้างโอกาสลุ้นประตูได้น้อยกว่านัดเจอ โปรตุเกส ด้วยซ้ำ
ความต่างของเกมนี้คือ พละกำลัง และความสามารถเฉพาะตัว แม้อันดับโลกจะห่างกันเพียง 2 อันดับ ทว่าเรากลับเป็นรองเขาอย่างมากมาย บอล 1-1 นักเตะโมร็อกโก กล้าจี้ใส่ผู้เล่นไทยแบบไม่เกรงกลัวเลย พวกเขามั่นใจในทักษะ กล้าลุย กล้าเล่น
ขาดอย่างเดียวคือ “ความเฉียบขาด”
บ่อยครั้งที่เลี้ยงกินตัวผู้เล่นไทย หรือสร้างโอกาสนับ 10 ครั้ง ทว่าพื้นที่สุดท้ายกลับจบ “ไม่คม” เอง ทำให้ทีมไทยที่ยืนก้มหน้าหลังพิงเชือกยังพอมีหวัง ไม่ถึงกับยอมปล่อยจอย และได้โอกาสสอยคืน ก็สร้างบาดแผลใหญ่ได้ ใน 12 วินาทีสุดท้าย
อีกสิ่งที่ควรชื่นชมคือ “ความเยือกเย็น” ของ “โค้ชหมี”
เฮดโค้ชทีมชาติไทยไม่รีบเร่งเล่นพาวเวอร์เพลย์ เขามองว่ารูปเกมขณะนั้นยังพอฟัดคู่แข่งไหว บอกเด็กค่อย ๆ หาจังหวะนวดไป เน้นการออกบอลให้ไว ไม่เก็บไว้กับตัวนาน อีกทั้งคู่แข่งเพรสซิ่งขึ้นมาสูง ทำให้ไม่มีโอกาสได้ตั้งเกมตามถนัด จึงไม่มีความจำเป็นต้องเสี่ยงใช้พาวเวอร์เพลย์ให้หลังบ้านโล่งโจ้ง ล่อเป้าให้เสียประตูเพิ่ม
จนนาฬิกานับถอยหลังเข้าสู่ 3 นาทีสุดท้าย ค่อยทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ส่ง จิรวัฒน์ ไปเล่นพาวเวอร์เพลย์
เอาเข้าจริงเกมรับ โมร็อกโก รับมือกับพาวเวอร์เพลย์ทีมไทยได้ดีเลยด้วยซ้ำ เพราะแทบไม่มีช่องให้ไทยได้ยิง หากแต่ความผิดพลาดเพียงวาบเดียว ส่งให้เขาโดนลงโทษอย่างเจ็บปวด
โมร็อกโก มี 4 คะแนนจาก 2 เกม โอกาสเข้ารอบพวกเขายังสดใส หากมีผลการแข่งขันที่ดีกับ โปรตุเกส แชมป์กลุ่มในเกมสุดท้าย ถึงแพ้หากสกอร์ไม่มาก ก็น่าจะเพียงพอให้ได้ไปต่อรอบ 16 ทีมได้ในฐานะรองแชมป์ หรือทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด
ขณะที่ทีมไทย ชอยส์เดียวคือการรัวชนะบ๊วยกลุ่มอย่าง หมู่เกาะโซโลมอน ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้มี 4 คะแนน ลุ้นเข้ารอบเป็นอันดับ 2 หรือ อันดับ 3 ที่ดีที่สุดต่อไป
ยังไม่ต้องมองถึงขั้นเข้าอันดับไหน ไปเจอใครดีกว่า เอาแค่ชนะให้ได้ก่อน
ที่สำคัญต้องไม่กดดันตัวเองเหมือนแมตช์นี้ด้วย