อนาคตของ โรนัลคูมัน กลับมาอยู่ในวงสนทนาอีกครั้งหลังเกมเสมอ กรานาด้า 1-1 ด้วยฟอร์มและสไตล์การเล่นที่แฟนแฟนบาร์เซโลน่า รับไม่ได้ 

โจน ลาปอร์ต้า ประธานสโมสรออกแถลงการณ์ถึงประเด็นที่กำลังร้อนระอุว่า “บอร์ดบริหารรู้ดีว่าควรทำอะไรและเรากำลังจะแก้ไขมัน”

ประโยคดังกล่าวของ ลาปอร์ต้า ชี้ชวนให้คิดไปไกลและถูกตีความว่า คูมัน หมดอนาคตแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของเวลาเพียงเท่านั้น

“เงื่อนไขของเวลา” ตรงนี้ ถูกระบุว่า คูมัน จะยังได้คุมทีมในเกมกับ เลบันเต้ อย่างแน่นอน หลังจากนั้นสามารถมีการเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ 

อย่างไรก็ดี ตามมุมองส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่า คูมัน มีเวลามากกว่านั้น 

ประเมินถึงความเหมาะสมของช่วงเวลา มีความเป็นไปได้มากกว่าที่ คูมัน จะยังได้กุมบังเหียนต่อไปถึงเกมยูฟ่าแชมเปียนส์กับ เบนฟิก้า และบิ๊กแมตช์ ลา ลีกา กับ แอต.มาดริด ซึ่งจะเล่นในวันเสาร์ที่ 2 ตุลาคม 

หลังจากนั้น ลีกจะพักและเข้าสู่ช่วงโปรแกรมทีมชาติประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวดูจะเหมาะสมที่สุดในการเตรียมการเพราะ

1. บอร์ดมีเวลามากพอที่จะพิจราณาตัวเลือกต่างๆ ที่จะเข้ามาแทน คูมัน รวมถึงเจราจาเรื่องสัญญาว่าจ้าง 

2.ตัวแทนที่ถูกเลือกเข้ามามีเวลาในการเตรียมทีมก่อนจะเริ่มงานใหม่ 

กระนั้น ขอย้ำว่านี่คือช่วงเวลาที่เป็นไปได้ในกรณีที่ คูมัน โดนปลดนะครับ เนื่องจากถึงตรงนี้ถือว่ากุนซือดัตช์แม้จะอาการร่อแร่ในสายตาของแฟนๆ แต่ท่าทีของ ลาปอร์ต้า นั้นยังไม่ชัดเจน ซึ่งมองอย่างกลางๆ เขายังมีเปอร์เซนต์ได้ไปต่อ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น ก็จะกลายเป็นอีกเรื่องทันที 

ส่วนกรณีที่ไม่ได้ไปต่อ ซึ่งตอนนี้ดูว่ากระแสแรงไม่น้อย สื่อในสเปนเริ่มมีการกะเก็งกันแล้วว่าใครบ้างที่อยู่ในข่ายพิจราณาของ โจน ลาปอร์ต้า

          1. โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ 

ปัจจุบันคุมทีมชาติเบลเยี่ยม รวมทั้งนั่งกินตำแหน่งคณะกรรมการในสมาคมฟุตบอลเบลเยี่ยมอีกด้วย  ผลงานของเขาถือว่ายอดเยี่ยม เคยพา เบลเยี่ยม คว้าอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมปีศาจแดงแห่งยุโรป นอกจากนี้ยังนำทีมรั้งอันดับ 1 ของโลกในฟีฟ่าแร้งกิ้งนานถึง 3 ปี ส่วน ยูโร หนล่าสุดพาทีมไปถึงรอบควอเตอร์ไฟนั่ล  

สำหรับ มาร์ติเนซ ถือเป็นเทรนเนอร์ที่ บาร์ซ่า ชื่นชอบอยู่เป็นทุนเดิม มีข่าวพัวพันมาโดยตลอด เขามีสัญญากับ เบลเยี่ยม ถึงปี 2022 ซึ่งทำให้ไม่ใช่เรื่องยากที่จะยกเลิกสัญญาออกมา เพราะไม่ใช่เงินก้อนใหญ่ 

จุดแข็ง มาร์ติเนซ มีสไตล์การเล่นที่เน้นเกมรุกเป็นหลัก มีผลงานที่ค่อนข้างดีมาตลอดช่วง 4 ปีหลัง ทั้งยังเป็นคนกาตาลัน  แต่จุดด้อย อาจอยู่ที่เขาไม่เคยทำงานในสเปนเลยตั้งแต่รับงานคุมทีมมา 15 ปี ประสบการณ์ส่วนใหญ่ของเขาอยู่ที่อังกฤษ และการคุม เบลเยี่ยม 

มาร์ติเนซ มีคิวนำเบลเยี่ยมลงเล่นในเนชั่นส์ คัพ ระหว่างวันที่ 6-10 ตุลาคม ซึ่งจะเป็นการเล่นในรอบรองฯกับ ฝรั่งเศส นั่นคือช่วงเวลาอย่างน้อยๆที่ บาร์ซ่า ต้องรอ (หากอยากได้)

จากกระแสเวลานี้ มาร์ติเนซ มาแรงและถูกยกให้เป็นต็งหนึ่งในสายตาของนักข่าว แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกุนซือเบลเยี่ยม 

การพา เบลเยี่ยม ตะลุยฟุตบอลโลกที่ กาตาร์ ในเดือนธันวาคม 2022 นับว่าเป็นสิ่งท้าทายอยู่ไม่น้อย คงน่าเสียดายที่เขาต้องพลาดโอกาสนี้ ทั้งๆที่อดใจรออีกแค่ 1 ปีเศษๆ 

มีความเป็นไปไที่ มาร์ติเนซ จะปฏิเสธข้อเสนอ เขาอาจแฮปปี้กว่าที่จะก้าวลงจากตำแหน่งหลังทัวร์นาเมนท์ฟุตบอลโลก อีกทั้งการรับงานคุม บาร์เซโลน่า ในเวลานี้ นับเป็นเรื่องเสี่ยงอย่างมาก 

ประการแรก เขาแทบไม่มีเวลาเตรียมตัว ประการสองเขาไม่สามารถซื้อนักเตะที่ต้องการได้ ประการสุดท้าย เขาจะต้องทำให้ทีมดีขึ้นและกลับมาลุ้นแชมป์ในทันที ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากเอามากๆกับขุมกำลังในเวลานี้   

2.ชาบี เอร์นานเดซ 

ชาบี คือคนที่ บาร์เซโลนิสต้า อยากให้มารับงานคุมทีมมากที่สุด จากผลโหวตทั้งสิ้น 45 % เหนือกุนซือทุกคน และความจริงก็คือเขาเป็นที่ต้องการของแฟนๆก่อนหน้าที่ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว จะตัดสินใจเลือก โรนัลด์ คูมัน เสียอีก 

จุดแข็งของ ชาบี คือเขามีตำนานร่วมกับสโมสร เขาคือไอดอลของนักเตะรุ่นหลัง อยู่ในยุคที่ทีมรุ่งเรืองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ทุกคนต่างมองว่า ชาบี มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเข้ามานำ บาร์เซโลน่า ก้าวข้ามวิกฤตในครั้งนี้ เพราะรู้ตื้นลึกหนาบางของสโมสร รู้จักโครงสร้าง และเข้าใจปรัชญาของสโมสรเป็นอย่างดี

          ปัจจุบัน ชาบี คุม อัล ซาด ในกาตาร์ ซึ่งได้นำเอาสไตล์การเล่นในแบบฉบับเดียวกับ บาร์ซ่า ไปถ่ายทอดจนได้รับเสียงชื่นชม 

อย่างไรก็ดี ชาบี เคยแสดงความลังเลในการรับงานคุม บาร์ซ่า เนื่องจากเขาไม่มั่นใจในโครงสร้างบริหารยุคของ บาร์โตเมว ซึ่งเจ้าตัวเคยพูดว่าต้องการอำนาจเต็มในการคุมทีม และไม่ยอมรับการแทรกแซงใดๆ 

แม้ปัจจุบันบาร์ซ่าจะเปลี่ยนถ่ายขั้วอำนาจจาก บาร์โตเมว มาเป็น ลาปอร์ต้า แล้วก็ตาม แต่ปัญหาตรงนี้อาจหมดไปหรือยังคงอยู่ เรายังไม่คาดเดาความคิดของ ชาบี ได้ 

ชาบี แสดงความชัดเจนมาตลอดว่าเขาต้องการเป็นเทรนเนอร์บาร์เซโลน่าในสักวัน แต่ก็ชัดเจนอีกเช่นกันว่าเขาจะมาในวันที่เขาพร้อมเท่านั้น 

แม้ ชาบี จะรู้จักและเห็นคุณค่าในตัวนักเตะจาก ลา มาเซีย แต่เสี่ยงไม่น้อยที่เขาจะเข้ามารับงานต่อจาก คูมัน และทำทีมที่ไม่ใช่ทีมของเขามาตั้งแต่ต้น และต้องปั้นมันให้ดีขึ้นอย่างที่แฟนบอลคาดหวัง 

นอกจากนี้อีกหนึ่งอุปสรรคก็คือต้นสังกัดปัจจุบันของเขา ซึ่งเวลานี้ยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนว่าจะเอาอย่างไร แต่แว่วข่าวมาว่าก็ไม่ค่อยจะเต็มใจนัก 

3.อันโตนิโอ คอนเต้

กุนซืออิตาเลี่ยนมีคาแรกเตอร์ของผู้ชนะอย่างเต็มเปี่ยม เขาคว้าสคูเด็ตโต้กับ ยูเวนตุส 3 สมับ และพา เชลซี เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกสมัย ก่อนที่จะกลับมาทำงานกับ อินเตอร์ มิลาน และพาทีมคว้าสคูเด็ตโต้ได้อีกครั้ง 

จากผลงานอาจพูดได้ว่า คอนเต้ การันตีความสำเร็จให้กับทุกทีมที่เขารับงาน หากแต่เงื่อนไขสำคัญก็คือสโมสรจะต้องมีงบประมาณในการซื้อนักเตะที่เขาต้องการเข้ามา 

คอนเต้ ไม่ใช่คนที่สร้างคาแรกเตอร์ความเป็นผู้ชนะให้กับนักเตะในทีม หากแต่เขานำคนที่มีคาแรกเตอร์ในแบบเดียวกับเขาเข้ามาสู่ทีม ไม่ว่าจะเป็นสมัยคุม เชลซี หรือ อินเตอร์ มิลาน คอนเต้ จะเรียกร้องให้บอร์ดซื้อนัหกเตะในแบบที่เขาต้องการเข้ามาเพื่อสร้างทีม 

เขาพละจาก อินเตอร์ มิลาน ทันทีที่บอร์ดงูใหญ่แจ้งว่าไม่มีงบประมาณให้ช็อปปิ้ง และต้องขายสตาร์บางรายออกไป 

คอนเต้ ไม่ต่างอะไรจากลูกระเบิด แม้คนจะชื่นชมเรื่องคาแรกเตอร์ที่แข็งแกร่ง แต่นั่นก็หมายถึงการไม่ยอมใครเช่นกัน ซึ่งน่าคิดว่าในทีม บาร์ซ่า จะเป็นแบบใด หาก คอนเต้ พร้อมบวกกับทุกคน 

อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้น้อยมากที่ คอนเต้ จะตอบรับ เพราะ บาร์ซ่า ไม่มีเงินให้เขาใช้ซื้อนักเตะ ซึ่ง คอนเต้ จะไม่เสียเวลาไปกับการปั้นนักเตะเเน่

4.ฟิลิป โคคู

อดีตมิดฟิลด์บาร์ซ่ายุค 2000 อยู่กับทีม 6 ฤดูกาล (1998-2004) ลงเล่น 205 นัด ยิง 31  ประตู 

ผลงานที่โดดเด่นของ โคคู คือการนำ พีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น คว้าแชมป์ลีกดัตช์ 3 สมัย (2014–15, 2015–16, 2017–18) แต่หลังจากพีคสุดกับ พีเอสวี แล้ว เส้นทางการคุมทีมก็เริ่มดร็อปลง การคุม เฟเนบาห์เช่ กับ ดาร์บี้ เคาน์ตี้  ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก 

ข้อดีของ โคคู คือเขารู้สึก บาร์เซโลน่า รู้จักนักเตะฮอลแลนด์ในทีมชุดปัจจุบัน อีกทั้งเขายังว่างงาน นับแต่แยกทางกับ ดาร์บี้ เมื่อปีที่แล้ว แต่เรื่องของผลงานไม่อาจการันตีใดๆได้ หาก ลาปอร์ต้า เลือก โคคู เข้ามาก็ต้องยอมรับว่าเขาใจถึงเอามากๆ หรือไม่ก็เห็นอะไรบางอย่างในตัว โคคู ที่เชื่อว่าเขาสามารถกลายเป็น เป๊บ คนที่ 2 ได้

5.อันเดรีย ปีร์โล่ 

ปีร์โล่ ยังว่างงานหลังแยกทางกับ ยูเวนตุส เมื่อ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผลงานของเขากับทีมม้าลายแห่งตูรินถือว่าไม่น่าประทับใจนัก ทีมพลาดแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา และต้องลุ้นถึงนัดสุดท้ายเพื่อการันตีโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีก ส่วนในรายการแชมเปี้ยนส์ลีก โดย ปอร์โต้ เขี่ยตกรอบ 16 ทีมด้วยกฏอะเวย์โกล 

จุดแข็ง น่าจะอยู่ที่ชื่อเสียงสมัยค้าแข้งของเขา ส่วนที่เหลือก็เป็นไฟในการทำงานตามสไตล์กุนซือรุ่นใหม่ แต่เขาไม่รู้จัก บาร์ซ่า มากนัก และยังขาดประสบการณ์ ซึ่งคงเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์ไม่แพ้ในกรณีของ โคคู หากว่า ลาปอร์ต้า จะเลือก ปีร์โล่ เข้ามาทำงานในถิ่น คัมป์ นู 

6. เซร์จี้ บาร์ฆวน 

เพิ่งได้รับแต่งตั้งให้เข้ามาคุมทีม บาร์ซ่า เบ ในฤดกาลนี้แทน การ์เซีย ปิเมียนต้า ที่ถูก ลาปอร์ต้า ปลดออกไป ผลงานยังไม่มีอะไรจับต้องได้ ยังขาดประสบการณ์ แต่ข้อได้เปรียบคือเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของ บาร์ซ่า อย่างแท้จริง 

อย่างไรก็ตาม คาดกันว่า บาร์ฆวน ไม่น่าจะเป็นตัวเลือกที่ถูกหยิบขึ้นมาพิจราณาในกรณีที่ คูมัน โดนปลดออกจากตำแหน่ง 

เจมส์ ลา ลีกา