นี่คือคำบอกเล่าจากการให้สัมภาษณ์พิเศษ กับแขกรับเชิญตอนพิเศษของ UTD Podcast ที่มักจะนำอดีตผู้เล่น หรือบุคคลสำคัญต่างๆมาพูดคุยกันในคอนเทนต์นี้ของสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ซึ่งต้องบอกว่า พอดแคสต์ครั้งนี้โคตรพิเศษ เพราะนี่คือครั้งที่นำเอา เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มานั่งคุยถึงเรื่องราวต่างๆมากมาย ซึ่งหลายๆเรื่องก็เป็นการเปิดเผยเพิ่มเติมในสิ่งที่แฟนผียังไม่รู้
มีหลายๆเรื่องที่น่าสนใจจากปากของป๋า เท่าที่เปิดเผยในคอนเทนต์นี้ของเว็บไซต์สโมสร
ซึ่งในช่วงสองปีที่ผ่านมาของ UTD Podcast ที่ได้สัมภาษณ์บุคคลสำคัญๆที่สุดของแมนยูไนเต็ดมานั้น เช่น เอริค คันโตน่า, ไบรอัน ร็อบสัน และ เวย์ รูนีย์ ล้วนแล้วแต่มาออกคอนเทนต์นี้กันหมดแล้ว แต่ตอนนี้ได้มีมาอีกหนึ่งคนที่เราต้องเถียงแล้วว่า ใครเจ๋งที่สุดและเป็นการมาออกที่ยิ่งใหญ่สุดๆ เนื่องจากว่าepisode ที่ 4 ของซีรีส์3 ในวันนี้นั้น ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นอดีตบอสในตำนานของเรา เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน!
ตลอดหนึ่งชั่วโมงกับ 15 นาที Sam Homewood, Helen Evans กับอดีตลูกทีมอย่าง David May พูดคุยกับผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุดรายนี้ ถึงเรื่องราวของประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษในหัวข้อต่างๆอย่างมากมายในวงกว้าง รวมถึงการคว้าแชมป์ในช่วง 26ปีครึ่งในโอลด์แทรฟฟอร์ดของเขาด้วย
เรื่องราวสัมภาษณ์นี้น่าจะเป็นสิ่งที่แฟนๆรอคอยจะฟังอยู่ และคุณจะไม่ผิดหวังกับการเล่าเรื่องราวจากขรัวเฒ่าระดับตำนานชาวสกอตต์รายนี้อย่างแน่นอน ถึงเรื่องราวที่น่าหลงใหลจากเบื้องลึกของการบริหารงาน ภายใต้สโมสรที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้
เซอร์อเล็กซ์ เน้นย้ำถึงความเคารพและชื่นชมที่มีในตัวคริสเตียโน่ โรนัลโด้ผู้กลับมาถิ่นอีกครั้ง หลังจาก12ปีผ่านไป และพูดคุยขยายความถึงเรื่องการย้ายทีมครั้งสำคัญของเอริค คันโตน่า ที่ย้ายจากลีดส์มาที่นี่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 1992
ป๋ายังแสดงความเห็นถึงเรื่อง VAR และเพิ่มเติมมุมมองเรื่องความจริงเกี่ยวกับการจะเซ็นสัญญานักเตะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องพอล แกสคอยน์ กับ เวสลีย์ สไนเดอร์
เรื่องแรกสุดเลยก็คือ สมัยยุคป๋าคุมทีม ช่วงนั้นหากพูดถึงเรื่อง "การซื้อตัว" ของแมนยูไนเต็ด เมื่อใดก็ตามที่กล่าวถึงเรื่องนี้ ชื่อๆหนึ่งซึ่งกลายเป็น "ตำนาน" (ฮา) ก็คือเรื่อง เวสลีย์ สไนเดอร์ นั่นเอง ที่มักจะขึ้นมาเป็นชื่อแรกๆเสมอ อย่างที่เรารู้ๆกันจากข่าว และที่พูดกันมาตลอดว่าเขาคือ ตำนานอีกคนของทีม(ในแง่ที่ว่าวได้ตัวอะนะครับ)
แต่เซอร์อเล็กซ์ออกมาพูดวันนี้แล้วว่า มิดฟิลด์ฮอลแลนด์รายนี้ ไม่เคยเป็นตัวเลือกแบบจริงๆจังๆของปีศาจแดงในการจะซื้อเข้ามาเลย แม้ว่าจะมีข่าวอย่างหนักต่อเนื่องเป็นเวลานานในช่วงนั้น
ซึ่งในยามที่อดีตนักเตะอินเตอร์, อาแจ็กซ์ และ เรอัล มาดริดรายนี้ มักจะถูกพูดถึงอย่างหนาหูตลอดเวลาเรื่องที่จะย้ายมาแมนยูไนเต็ด โดยเฉพาะหลังจากที่โจเซ่ มูรินโญ่ ย้ายออกจากทีมเนรัซซูรี่ออกมา
"โอเค ถ้าพูดถึงเรื่องสไนเดอร์นะ มันมีข่าวขึ้นมาหลายๆครั้ง แต่ผมจะบอกว่าจริงๆแล้วเราไม่เคยสนใจสไนเดอร์เลย ผมไม่รู้ว่าข่าวมันมาจากไหนนะ แต่พวกคุณได้ยินข่าวนี้เยอะมากๆ ทุกๆวันอาทิตย์ คนพูดคุยกันแต่ชื่อนี้ตลอดเวลา"
เซอร์อเล็กซ์ตอบกับ แซม โฮมวู้ด ระหว่างให้สัมภาษณ์Exclusive กับทาง UTD Podcast ใน episode ที่ได้ปล่อยให้ฟังแล้วทาง Official App เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
ป๋าบอกว่า การพยายามเซ็นนักเตะแล้ว "พลาด" ของเขานั้น ครั้งที่พลาดที่สุด ยังคงเป็นเรื่องของการจะซื้อ พอล แกสคอยน์ จากนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ซึ่งสุดท้ายแล้วแกซซ่าก็ย้ายไปสเปอร์ส แทนในปี 1988 ในยามที่ปีศาจแดงมองหานักเตะเพลเมคเกอร์ทักษะสูงมาเป็นตัวหลักให้ทีม
"เอาที่เป็นเรื่องจริงๆเลยนะ ต้องบอกว่า คนเดียวที่ติดค้างอยู่ในหัวผมมาตลอดคือเรื่อง แกสคอยน์ เขาโคตรมหัศจรรย์มากๆ ผมคิดว่าถ้าเราได้ตัวเขามา เขาจะต้องมีเส้นทางการเป็นนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่มากแน่ๆ ผมเชื่อแบบนั้นจริงๆ ซึ่งผมไม่ได้บอกนะว่าเขามีเส้นทางอาชีพที่แย่ แต่ถ้าเขามาอยู่ที่นี่ เขาจะมีอาชีพนักฟุตบอลที่ดีกว่านี้แน่นอนหากว่าย้ายมาอยู่กับเรา"
นึกภาพถ้ายุคนั้นได้แกสคอยน์มาจริงๆ แล้วมีก็องโต้เข้ามาเสริมทัพต่อ ไม่อยากจะคิดว่าปีศาจแดงจะโหดระดับไหน
"เรามีพวกจอร์ดี้ส์(มาจากถิ่นตะวันออกเฉียงเหนือ)ในทีมอยู่แล้วอย่างร็อบสัน บรูซ รวมถึง บ็อบบี้ ชาวร์ตัน ซึ่งเซอร์บ็อบบี้นี่แหละคือผู้แนะนำเขามา เพราะเขาคือคนที่ยอดเยี่ยมมากๆ และแม้แต่ แกรี่ พัลลิสเตอร์ เองก็ตาม ถึงเขาจะมาจากมิดเดิลสโบรซ์ และผมรู้ว่านับเป็นพวกจอร์ดี้ส ไม่ได้ แต่แกรี่ก็เป็นคนนึงที่เข้าใจวัฒนธรรมตรงนี้เป็นอย่างดี"
"พอลรับปากว่าจะเซ็นกับเรา และตอนนั้นผมพักผ่อนวันหยุดอยู่"
"อยู่ดีๆผมได้รับสายด่วนดังขึ้นมาบนโต๊ะ จากมาร์ติน เอ็ดเวิร์ดส ที่บอกว่า เขาไปเซ็นกับท็อตแน่มแล้ว เขาเซ็นเพราะว่า พวกเขาซื้อบ้านให้แม่ของพอลเป็นเงินแปดหมื่นปอนด์ ผมนี่แทบไม่อยากจะเชื่อเลย คุณก็รู้ว่าเขามหัศจรรย์แค่ไหน"
เดวิด เมย์ ที่ร่วมสัมภาษณ์ป๋าอยู่ ซึ่งก็คือหนึ่งในหลายนักเตะที่ป๋าเซ็นเข้ามาช่วงคุมทีมอยู่ที่นี่นั้น และป๋าก็พูดให้ฟังว่าสิ่งที่เขาชอบมากที่สุดในตัวอดีตลูกทีมรายนี้ คนที่เซ็นมาจากแบล็คเบิร์นอย่างเดวิด เมย์ เอาไว้ว่า
"ผมเซ็นเขามาด้วยสองเหตุผลนะ อย่างแรก เขาเป็นตัวจ่ายบอลที่ดีมาก และเขามีหนึ่งในคุณสมบัติเหล่านี้ อันนี้ไม่ได้เรื่องในเชิงตำหนินะ แต่เขากับแกเบรียล ไฮน์เซ่ เหมือนกันเป๊ะๆ"
"อย่างแรกเลยคือ สองคนนี้มันไล่เตะคู่ต่อสู้ได้ เข้าหนักๆ"
"แก็บบี้ก็เหมือนเขาเป๊ะ แต่ก็ ใช่ เขายังเป็นตัวจ่ายบอลที่ดีด้วย"
นอกจากนี้ในพอดแคสต์นี้นั้น ป๋ายังย้อนถึงเรื่องราวปี 1992 ที่กำลังมองหากองหน้าตัวกลางเข้ามาร่วมทีม ซึ่งสุดท้ายแล้วมันทำให้เขาได้ตัว เอริค คันโตน่า เข้ามา
ดิออน ดับลิน ถูกซื้อมาจากแคมบริดจ์ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์ก่อน และเริ่มต้นได้อย่างสวยงาม ทำประตูชัยให้สโมสรครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกด้วยการยิงไกลช่วงท้ายเกมใส่เซาธ์แธมพ์ตัน
แต่เพียงสองเกมหลังจากนั้น เมื่อปีศาจแดงเจอกับคริสตัล พาเลซ ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด, ดิออน ดับบลินกลับต้องประสบเหตุการณ์ "ขาหัก" ในวันนั้นที่เราชนะพาเลซไป 1-0
การที่มือเปล่ามาสามครั้งในลีก ทำให้ผู้จัดการทีมตัดสินใจที่จะต้องจัดการหากองหน้าคนใหม่เข้ามาให้ได้ ซึ่งเซอร์อเล็กซ์ยอมรับว่า เขามีพิจารณาทางเลือกอื่น ก่อนที่จะดึงตัวก็องโต้ มาจากลีดส์ได้สำเร็จ
ป๋ายืนยันว่า การเซ็นกองหน้าเด็กเก่ายุคปี 82-83 อย่าง ปีเตอร์ เบีียร์ดสลีย์ กลับเข้ามานั้น มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น ควบคู่ไปกับความสนใจในตัวอลัน เชียเรอร์ และ เดวิด เฮิร์สต์ ด้วย
เมื่อกล่าวถึงอาการบาดเจ็บของดับลิน ป๋าบอกเอาไว้ดังนี้
"ผมจำไทม์ไลน์ไม่ได้แล้วนะ แต่มันเป็นเกมที่ปารีส ผมอยู่กับมิเชล พลาตินี่ กับ เชราร์ อุลลิเย่ร์ และเกมนั้นคันโตน่าโดนแบน"
"มิเชลพูดกับผมว่า ผมควรจะเซ็นคันโตน่า แล้วผมก็ตอบกลับไปว่า เขาไม่ได้มีห่วงที่อยากเล่นอยู่ที่บ้านเกิดนั่นหรอกเหรอ? และมิเชลก็ตอบกลับมาว่า อเล็กซ์ คุณจะรักเขา เขาเป็นคนที่เยี่ยมมาก เขาแค่อยากเป็นคนที่ถูกใครสักคนต้องการ"
"เชราร์ก็พูดเหมือนกัน แต่ตอนนั้นเมื่อผมกลับมา เขา(ก็องโต้) เขาทดสอบฝีเท้ากับเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ กับ เทรเวอร์ ฟรานซิส อยู่เป็นเดือน เขาเล่นฟุตบอลในร่ม อะไรประมาณนั้นแหละ แต่เมื่อถึงสิ้นเดือน เห็นได้ชัดว่าเทรเวอร์ยื่นข้อเสนอให้เขาอยู่ต่อ แต่ก็องโต้บอกว่าไม่ ซึ่งเทรเวอร์เองสนิทกับโฮเวิร์ด (วิลคินสัน ผู้จัดการทีมลีดส์) และเขาก็โทรหาโฮเวิร์ด ที่สุดท้ายเซ็นสัญญาเขาไปทันที"
"ช่วงนั้น ลี แชปแมน กองหน้าลีดส์บาดเจ็บในเกมเจอกับพวกเราก่อนช่วงคริสมาสต์ เราเจอพวกเขาสามครั้งในเดือนเดียว และเกมที่เราอยากจะชนะ เราได้แค่เสมอ และมาชนะในเกมบอลถ้วยอื่นอีกสองถ้วยอย่าง ลีกคัพ กับ เอฟเอคัพ เพราะงั้นแหละทำไมเขาถึงเซ็นไปอยู่กับลีดส์"
เพราะลีดส์กำลังขาดกองหน้าพอดีนั่นเอง
"แข่งกับลีดส์เสร็จ ผมก็ไปอาบน้ำเหมือนตามปกติ แล้วพัลลี่ กับ บรูซซี่ ก็นั่งอยู่ในห้องน้ำ แล้วพูดคุยถึงเขา พวกเขาบอกว่า นักเตะคนนี้แม่งแข็งแกร่งมาก แล้วก็พูดถึงเขาต่อไป ซึ่งผมจำเรื่องนี้ติดอยู่ในหัว ดังนั้น เมื่อถึงซัมเมอร์ ที่ผมพยายามจะเซ็นอลัน เชียเรอร์ พยายามเซ็นเดวิด เฮิร์สต์ ผมอยู่ที่ออฟฟิศของประธานสโมสร(มาร์ติน เอ็ดเวิร์ดส) และแนะนำว่าเราควรจะเซ็น ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ ที่เคยย้ายไปอยู่เอฟเวอร์ตันมาแล้วครั้งนึงสมัยก่อน เราได้มีการคุยโทรศัพท์ เมื่อมีสายมาจาก Bill Fotherby จากลีดส์ว่า อยากได้ตัว เดนิส เออร์วินของเรา แล้วผมก็บอกว่า ไม่ได้ ไม่ขาย จากนั้นผมเขียนชื่อ 'Cantona' บนโต๊ะ"
"แล้วมาร์ตินก็ถามบิลกลับไปว่า 'แล้วถ้าทางนี้ถามว่า เราอยากได้เอริคของคุณบ้างล่ะ ขอซื้อได้ไหม?' บิลลังเลเล็กน้อย แล้วก็บอกว่า เดี๋ยวขอไปถามโฮเวิร์ดก่อน"
"และผมรู้.. ผมรู้"
"ราว 15 นาทีหลังจากนั้น บิลตอบมาว่า โอเค แล้วก็เริ่มพูดคุยราคากันทันที พวกเขาต้องการ 1.1ล้านปอนด์ แต่มาร์ตินต่อลงมาได้ 900,000 ปอนด์ และมันก็ตกลงกันไว้เช่นนั้น ผมจำเรื่องในวันรุ่งขึ้นได้ดี เพราะว่าเรามีจะเจอกับซิตี้ในเกมดาร์บี้แมตช์ และปีเตอร์ รีดกับผม ได้ตกลงกันว่าจะไปทานข้าวกับ บ็อบ แคส กับ โจ เมลลิ่ง จาก the Mail ในวันอาทิตย์ที่โรงแรม Portland
"ผมบอกเขา (ปีเตอร์ รีด) ว่า ผมก็อยากไปกินข้าวด้วยนะ แต่ขอโทษที เรื่องนี้รอไม่ได้ แต่เดี๋ยวผมจะกลับมา แล้วผมก็ไปเซ็นสัญญาเขา แล้วเขาจะได้ลงสนามเลยในวันเสาร์ ปีเตอร์ถามว่า ผมไปไหน ผมตอบว่า ผมเพิ่งไปเซ็นคันโตน่ามา เขาทำท่าเหมือนไม่เชื่อ อย่ามาหลอกกันซะให้ยากส์ ผมก็บอกไปตามตรงว่า คุณควรรับรู้นะถ้าผมบอก ผมไม่อยากปล่อยคุณงงอยู่คนเดียวที่นี่"
"ดังนั้น เขาจึงเป็นตัวสำรองในเกมเจอซิตี้ และลงมาแทนใครสักคนนึง ไบรอัน แมคแคลร์มั้งผมว่า เกมนั้นเหมือนจะเจ็บ และสุดท้าย เขาก็เป็นสุดยอดการเซ็นสัญญาจริงๆ
ในการให้สัมภาษณ์ของ Exclusive Interview จากคอนเทนต์ UTD Podcast อีพีนี้นั้น อีกหัวข้อใหญ่ๆก็คือ การพูดถึงความเคารพยกย่องและชื่นชมที่มีต่อตัวของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งเซอร์อเล็กซ์นั้นอยู่เป็นสักขีพยานคนหนึ่ง ท่ามกลางผู้คนมากมายที่รอชมการเปิดตัวอันน่าเหลือเชื่ออีกครั้งของ CR7 ในเกมเจอนิวคาสเซิล
และป๋าก็เปรียบเทียบการกลับมาครั้งนี้ของเขา กับมหาบุรุษผู้พิชิตมาทั่วทุกสารทิศอย่าง "จูเลียส ซีซาร์ ในยามที่จักพรรดิโรมันผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้ เคยเอ่ยวลี 'Veni, vidi, vici' (ซึ่งแปลว่า “I Came. I Saw. I Conquered” ผมไปมาแล้ว ผมเจอมาแล้ว และผมพิชิตมาแล้ว)
หลังจากที่ซีซาร์พาทีม เอ๊ย พาRoman Empire คว้าชัยชนะอย่างรวดเร็วและเด็ดขาดจากสมรภูมิZela เมื่อยุค 47 ปี ก่อนคริสตกาล
ส่วนหนึ่งของการพูดคุยที่น่าฟังในครั้งนี้จากผู้ดำเนินรายการทั้งสามกับเซอร์อเล็กซ์ บ่งบอกให้เห็นชัดเจนว่า ป๋าตื่นเต้นมากแค่ไหนที่ได้เห็นโรนัลโด้กลับมาใส่เสื้อสีแดงของเราอีกครั้ง และยิงประตูในบ้านของเราให้กับยูไนเต็ด
จูเลียส ซีซาร์ ผู้กลับมายังกรุงโรม
"มันมหัศจรรย์มาก สิ่งที่คุณเห็นในวันเสาร์นั้น มันเหมือนที่ซีซาร์ มาที่กรุงโรมอีกครั้งหลังจากคว้าชัยชนะกลับมา ฉันมาแล้ว ฉันเห็นมาทุกสิ่ง ฉันพิชิตมันมาแล้ว มันยอดเยี่ยมมาก"
"ผมจะบอกว่า สำหรับทุกๆคนที่เป็นแฟนแมนยู ซึ่งคงจะเป็นล้านๆคนนั้น คงจะไม่มีใครสงสัยใดๆทั้งสิ้น เหมือนอีกมากมายจากคนภายนอกนั่น มันคือเรื่องที่ว่า ตอนที่เขาอยู่ที่นี่สมัยยังละอ่อน เขาเรียนรู้กระบวนการต่างๆอย่างรวดเร็วมากๆ
"ผู้คนมากมายหาว่าเขาเป็นจอมพุ่ง และมันเป็นแค่จุดเล็กน้อยเท่านั้น เพราะหลังจากนั้น เขาก็โจมตีใส่กองหลัง สิ่งที่เขาต้องการก็คือเขาจะปั่นให้คนที่จะเข้ามาอัดเขาให้หัวทิ่ม เขาโจมตีด้วยความเร็วในระดับที่น่าเหลือเชื่อมากๆ ผมคิดว่าเขาเรียนรู้การเล่นของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ผมว่าเขาเกิดขึ้นมาจากความกระหาย"
"เขาอุทิศตัวเองทุกอย่างเพื่อจะเป็นหนึ่งให้ได้ ผมจำได้ว่าตอนนั้นจะเจอกับอาร์เซนอลวันเสาร์ และผมเปียกฝนที่แคริงตัน จากนั้นผมมองเห็นเขา ซึ่งก็อย่างที่รู้กันว่า เขามักจะอยู่ฝึกฝนต่อเสมอหลังซ้อมเสร็จ แล้วผมก็บอกไปว่า 'เข้ามาข้างใน พรุ่งนี้เรามีแข่ง มันเปียกแฉะเกินไป' แล้วผมก็วิ่งเข้ามาในออฟฟิศ แล้วมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง"
"คุณรู้ไหมเขาทำอะไร เขาไปเล่นต่ออยู่บนหญ้าเทียม ผมนี่ไม่รู้จะเถียงยังไงเลย เขาชนะผมราบคาบ"
เซอร์อเล็กซ์ ยอมรับความมุ่งมั่นที่จะโชว์พรสวรรค์ระดับโลกกับเรอัล มาดริด และเคารพต่อความดึงดูดใจของยอดทีมจากสเปน ต่อยอดชายหนุ่มผู้มีถิ่นกำเนิดมาจาก Madeira รายนี้
"เขามีความฝันอยู่ที่เรอัล มาดริด ผมไม่ขัดขวางเรื่องนั้นเลย หกปีในการอยู่ที่นี่สำหรับเด็กชายจากมาเดร่า เขามาก่อนจะถึงวันเกิดครบรอบ 18ปีซะอีก และเรามีเขาช่วยลงเล่นที่นี่อยู่หกปี ผมคิดว่าเราทำได้ดีที่สุดแล้ว และเขายังช่วยให้ผมได้รับโอกาสในการหาตัวแทนด้วย เราได้อันโตนิโอ วาเลนเซียมา และเขาก็ยอดเยี่ยม ดังนั้นเราก็ถือว่าโชคดีในเรื่องนั้น"
"ผมรู้ดี(เรื่องที่เขาจะไปได้ไกลแค่ไหน) แน่นอน ผมรู้อยู่แล้ว ตอนที่เขาไปถึงที่เวทีอย่างเรอัล มาดริด เอาแบบแฟร์ๆนะ พวกเขาคือสโมสรที่ผลิตนักเตะเวิร์ลด์คลาสมาทุกๆปี และคว้าแชมป์ยุโรปบ่อยมากๆ 13ครั้งหรือประมาณนั้น เพราะงั้นคุณก็ต้องให้เครดิตพวกเขา มันคือเวทียิ่งใหญ่ที่สุดยอดนักเตะต่างฝันอยากจะไปทั้งนั้น"
เรื่องความฝันของโรนัลโด้อยู่ที่เรอัล มาดริดนั้น ขนาดเซอร์อเล็กซ์ยังเคารพ และให้เกียรติทั้งตัวคริสเตียโน่ และราชันชุดขาวเลย ตัวผู้เขียนก็หวังว่า แฟนผีหลายๆคนจะเข้าใจถึงเหตุผล และช่วงโมเมนต์ดังกล่าวในอดีตที่โรนัลโด้อยากย้ายไปมาดริด อยากให้เข้าใจว่ามันคือความฝันของเขาจริงๆและเคารพการตัดสินใจของโรนัลโด้ ไม่มองว่าเขาทิ้งเราไป ซึ่งการย้ายทีมของโรนัลโด้ในทุกๆครั้ง มันก็ดีในทุกๆช่วงเวลาของชีวิตนักฟุตบอลของเขา เพียงแค่ต่างกรรมต่างวาระกันเท่านั้นเอง
และนี่คือเรื่องราวส่วนหนึ่งของการสัมภาษณ์พิเศษ จากวาระพิเศษที่ได้พูดคุยกับตำนานเบอร์หนึ่งของสโมสร ชายผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของความสำเร็จ และความเป็น "Manchester United" อย่างที่พวกเราแฟนบอลยุคปัจจุบันได้เชียร์กันอยู่ทุกวันนี้
นี่คือเรื่องราวของ "ปีศาจแดง" ตัวจริง
เรื่องราวของ "ตำนานตลอดกาล" ที่ไม่มีใครมาแทนได้
...เรื่องราวของ "Sir Alex Ferguson"
-ศาลาผี-
References
https://www.manutd.com/en/news/detail/sir-alex-sets-wesley-sneijder-record-straight-utd-podcast
https://www.manutd.com/en/news/detail/sir-alex-on-his-united-striker-hunt-in-1992-utd-podcast
https://www.manutd.com/en/news/detail/sir-alex-ferguson-elated-by-cristiano-ronaldo-man-utd-return
