:::     :::

การลงทุนภายใต้ความเสี่ยงของ "ค้างคาวมหากาญจน์"

วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม 2564 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
1,684
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ทุกการลงทุนคือความเสี่ยง คำนี้คงใช้ได้ดีกับ "ค้างคาวมหากาญจน์" เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ทีมน้องใหม่ในศึก M-150 แชมเปี้ยนส์ชิพ ฤดูกาลนี้

โดย เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ทะยานจาก ไทยลีก 3 ขึ้นมาเล่นในลีกพระรองในฤดูกาลล่าสุด ด้วยการเป็นรองแชมป์ประเทศไทย ส่วนแชมป์ตกเป็นของ ลำพูน วอริเออร์ เจ้าบุญทุ่มแห่งภาคเหนือนั่นเอง 

ซึ่งก่อนเปิดฤดูกาลทั้ง 2 ทีมล้วนสร้างความฮือฮาในตลาดซื้อขายนักเตะชนิดที่กลบกระแสบรรดาทีมดังในลีกสูงสุดเลยทีเดียว


ทางบอร์ดบริหารของ “ค้างคาวมหากาญจน์” หมายมั่นปั้นมือว่าจะถีบส่งทีมเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดให้ได้ เมื่อมีเป้าหมายชัดเจน พวกเขาจึงสอยสตาร์ดังไม่ว่าจะเป็น “ซูเปอร์ตี๋” สินทวีชัย หทัยรัตนกุล มือกาววัยดึกมาเฝ้าเสาในฐานะปราการด่านสุดท้าย

ถัดมาแนวรับพวกเขากระชากนักเตะต่างชาติประสบการณ์สูงไม่ว่าจะเป็น อาทยอม ฟิลิปโปสยาน แนวรับอุซเบกิสถาน และมาร์ติน สตูเบิล แบ็คจอมลุย มาคอยป้องกันหลังบ้าน 

ขณะที่แดนกลางก็ได้จอมขยัน ธัชนนท์ นคราวงศ์ รวมทั้ง จิตปัญญา ทิสุด ดาวเตะเท้าชั่งทอง 

ส่วนแนวรุกเรียกว่าทำเอาแฟนบอลร้องเสียงหลง เมื่อได้ทั้ง แฮร์ริสัน ไคออน, เลอันโดร อัสซัมเซา และโจนาธาน เฮส เข้ามาผนึกกำลังกัน แม้บางคนจะได้ตัวมาแบบไม่เสียค่าตัว แต่ค่าแรงนี่ต้องบอกว่าทีมไทยลีก 1 ยังต้องยอม 


ว่ากันว่าทีมใดเจอขีปนาวุธเหล่านี้ล้วนออกอาการขาสั่นแน่ เพราะชื่อชั้นและฝีเท้าได้รับการยอมรับจากคอบอลไทยว่าเป็น “ของจริง” แน่นอน 

ส่วนกุนซือก็มี จเด็จ มีลาภ ที่มากด้วยประสบการณ์คุมทัพ ไม่แปลกที่พวกเขาจะได้รับการยกให้เป็นหนึ่งใน 3 ตองอูที่คว้าตั๋วไปเล่นในศึกรีโว่ ไทยลีก ฤดูกาลหน้าแน่นอน

ทว่าเมื่อรูดม่านเปิดฤดูกาลฝันหวานมีอันต้องสะดุดตื่น เมื่อ เมืองกาญจน์ ไม่ได้ทำผลงานได้ร้อนแรงตามที่หวัง หลังผ่านมา 6 เกมแรก พวกเขาชนะเพียงแค่เกมเดียว ในการเปิดบ้านเฉือน อยุธยา ยูไนเต็ด ไป 2-1 

ส่วนที่เหลือซอยออกเป็นผลเสมอ 1 นัด และแพ้ ไป 4 นัด ทำให้ตอนนี้จากตัวเต็งจ๋าที่จะเลื่อนชั้น หล่นตุ๊บมาอยู่ท้ายตารางอันดับ 16 มีเพียง 4 แต้ม จนทำให้ “มาสเซอร์จเด็จ” กระเด็นตกเก้าอี้กุนซือใหญ่ ก่อนจะไปรับบทมือขวาของ “มาโน่ โพลกิ้ง” ในทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ในเวลาไม่ทันข้ามคืน


ขณะที่ตัวรุกมีเพียง แฮร์ริสัน ไคออน ที่ฝากผีฝากไข้ได้ เมื่อยิงไป 5 ตุง จาก 6 นัด ส่วน “อัสซ่า” กดไป 1 ตุง ด้าน “เฮส” กระสุนยังด้าน ยิงไม่ได้เลย

เมื่อเจาะไปดูถึงปัญหาของ “เมืองกาญจน์” ต้องบอกว่าสภาพร่างกายนักเตะไม่ได้มีความเหมาะสมกับลีกพระรองแม้แต่นิดเดียว

อย่าลืมว่าฟุตบอลลีกล่างของประเทศไทยปัจจุบัน แม้จะพัฒนาจากอดีตไปมาก แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปคือทุกทีมไม่มียั้ง ใส่กันเต็มร้อยทุกดอก 

ไม่ว่าจะเป็นการไล่บอลชนิดกัดไม่ปล่อย การเข้าสกัดที่หนักหน่วง และการบีบพื้นที่กันตลอด 90 นาที แทบไม่ได้หยุดพัก ต่างจากบอลลีกสูงสุดที่ยังมีบางช่วงเวลาที่นักเตะได้ผ่อนคลายกับจังหวะเกมได้ 

ที่สำคัญนักเตะต่างชาติที่ทางทีมซื้อมาล้วนเลยจุดสุดยอดมาแล้วทั้งสิ้น และสถาพร่างกายแทบไม่จะเหลือคราบยอดนักเตะ 

ดูได้จากรูปร่างแต่ละคนเข้าขั้นอวบ เมื่อเจอบอลที่ใช้พละกำลังสูงทำให้ไม่สามารถยืนระยะได้ จนฟอร์มแกว่งอย่างที่เห็น 

นอกจากนี้นักเตะเหล่านี้ไม่เคยเล่นลีกพระรองมาก่อน ทำให้จังหวะเกมต่างๆ ดูไม่ลงล็อก แถมการทุ่มเงินซื้อคว้านักเตะดังมาร่วมทีม ยังเป็นดาบสองคมให้คู่ต่อสู้ต้องการที่จะเอาชนะมากขึ้น 


จุดนี้แม้แต่ “มาสเซอร์จเด็จ” ยังยอมรับเลยว่านักเตะที่มีอยู่แล้วแม้จะชื่อชั้นระดับอ๋องก็แต่ แต่ด้อยประสบการณ์ในลีกพระรอง และทุกทีมที่เจอกับพวกเขาล้วนต้องการชนะและสู้ยิบตา 

นอกจากนี้ยังมีเสียงกระซิบแว่วออกมาว่าพวกเขากำลังเจอปัญหาด้านการเงิน ซึ่งมีส่วนไม่น้อยที่ทำให้ฟอร์มการเล่นไม่เอาอ่าวแบบนี้ 

อย่าลืมว่านอกจากปัจจัยในสนามแล้ว ปัจจัยนอกสนาม โดยเฉพาะเรื่องเงินๆ ทองๆ มีผลต่อการแข่งขันจริงๆ 

ถึงตรงนี้ต้องบอกว่าทีมต้องหาจุดเปลี่ยนโดยเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการกลับมาคว้าชัยชนะให้ได้และต่อเนื่องที่สุด เพื่อโกยแต้มหนีโซนตกชั้นให้ได้ 

ส่วนในเลก 2 ค่อยไปผ่องถ่ายนักเตะที่ฟอร์มดร็อปออกไป และหาคนที่ใช้ที่อัดแน่นด้วยพลังกำลังเข้ามาเสริมทัพ เพราะหายังฝืนใช้นักเตะชุดนี้เป็นหลัก คงยากจะฟื้นคืนชีพได้ 


ขณะที่ทีมไหนจะลองของทุ่มเงินซื้อนักเตะแพงๆ มาร่วมทีมในอนาคตต้องคิดตรองให้ลึกซึ้งและดูธรรมชาติชองฟุตบอลลีกนั้นๆ ให้ดี 

ยิ่งในยุคที่การเงินของแต่ละสโมสรฝืดเคือง บางทีการให้โอกาสนักเตะไทยได้พิสูจน์ตัวเองก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย 

ที่สำคัญต้องอย่างลืมสร้างนักเตะเยาวชนขึ้นมาด้วย เพื่อสร้างความหลากหลายและสร้างความยั่งยืนให้กับสโมสรในอนาคต 

ถึงตรงนี้ยังเชื่อว่าทีมงานบอร์ดบริหารของ “เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด” ไม่ต้องการทำทีมเล่นๆ และทุ่มเทเต็มร้อย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเจอจุดเปลี่ยนของฤดูกาลและคืนฟอร์ม เร่งเก็บแต้มให้เยอะ ๆ เพื่อสร้างสีสัน รวมทั้งคว้าตั๋วไปเล่นลีกสูงสุดดั่งใจหวังสักที

ส่วนการลงทุนที่ล้มเหลว หวังว่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีให้ทีมงานได้เรียนรู้กันไป เพราะชีวิตนี้ไม่มีใครไม่เคยทำผิดพลาดหรอกครับ


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด