ทำให้พวกเขาดึง อดีตทีมชาติไทย, แข้งดาวรุ่ง จนถึงกเตะต่างชาติที่ผ่านไทยลีก 1 มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ณรงค์ จันทร์เสวก, วัฒนา พลายนุ่ม, ดัสกร ทองเหลา, สุทธินันท์ พุกหอม, จูเนียร์ โลเปส, บุญยเกียรติ วงค์ษาแจ่ม, สุพจน์ วงษ์หอย, วิทยา มูลวงศ์, มงคล ทศไกร, ริคาร์โด้ ซานโตส, กีรติ เขียวสมบัติ, จักรี ปันคำ, กษิดิศ กาฬสินธุ์ ฯลฯ

จนสามารถสร้างประวัติศาสตร์ของสโมสร ด้วยการเก็บชัยชนะ 5 เกมแรกนับตั้งแต่เปิดไทยลีก 3 ด้วยผลงาน ชนะ อุตรดิตถ์ ศักดิ์สยาม 2-0 (ห), ชนะ นครแม่สอด ยูไนเต็ด 2-0 (ห), ชนะ แม่โจ้ ยูไนเต็ด 3-1 (ห) ชนะ สี่แคว ซิตี้ 4-1 (ย) และชนะ เชียงราย ล้านนา 2-0 (ห) เก็บไป 15 คะแนนเต็ม ขึ้นนำโด่งเป็นจ่าฝูง

วันนี้เรามาถอดรหัสกันดูว่า เหตุผลที่ทำให้ฟอร์มของพวกเขาเปรี้ยงปร้างขนาดนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการวางแผน หรือการทำทีมอย่างไรให้ออกมายอดเยี่ยมเช่นนี้

1. ผู้บริหารทุ่มทุน

หลังจบซีซั่นในไทยลีก 2 เมื่อฤดูกาล 2021/2022 พวกเขาต้องตกชั้นมาเล่นในลีกระดับภูมิภาค ซึ่งเกิดกระแสข่าวต่าง ๆ ออกมาอย่างมากมายเกี่ยวกับสถานการณ์ของ อุทัยธานี เอฟซี ว่าจะมีการทิ้งทีมกลางคัน และอาจจะมีการปรับเปลี่ยนผู้บริหาร

 แต่ “บอสเบนซ์” วราวุฒ ปั้นงาม ผู้บริหารของสโมสร ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ไม่มีทางทำแบบนั้นอย่างแน่นอน และเมื่อจบซีซั่นก็เดินหน้าสร้างทีมสำหรับฤดูกาลหน้าต่อทันที โดยสิ่งแรกที่ทีมต้องทำนั้นคือการพยายามหานักเตะฝีเท้าดีเข้ามาเสริมทีม 

 ทำให้เราได้เห็นแข้งดีกรีอดีตทีมชาติไทย ทั้ง ดัสกร ทองเหลา, มงคล ทศไกร, สุทธินันท์ พุกหอม, วัฒนา พลายนุ่ม หรือแม้แต่ กีรติ เขียวสมบัติ ตบเท้ามาร่วมทีมอย่างคึกคัก แถมค่าเหนื่อยยังแต่ระดับ 6 หลัก นี่แหละที่ทำให้ "ช้างป่าห้วยขาแข้ง" กลายเป็นทีมจอมทุ่มของไทยลีก 3 โซนเหนือไปโดยปริยาย

2. ความมั่นใจที่มีต่อ "น้าเทิด"

การคัมแบ็คมาคุม อุทัยธานี เอฟซี รอบสองของ "น้าเทิด "เทิดศักดิ์ ใจมั่น ต้องบอกว่าเป็นการคล้อยตามข้อแรก ที่ผู้บริหารของสโมสรต้องการคนเหมาะสม กับการทุ่มทุนสร้างแบบนี้ จึงดึงอดีตกองกลางทีมชาติไทย คนนี้ กลับมากุมบังเหียนอีกครั้ง

ในไทยลีก 2 เมื่อปีก่อน เจ้าตัวเข้ามาคุมทีมตั้งแต่เลกแรก แต่มีช่วงที่ขอลาออกจากตำแหน่งเฮดโค้ช หลังจบเกมที่พาทีมเปิดบ้านแพ้ เกษตรศาสตร์ เอฟซี 0-1 เพื่อรับผิดชอบผลงานที่ไม่ชนะทีมใดเลยตลอด 7 เกม อย่างไรก็ตามผู้บริหารไม่ยอม และทำทีมมาตลอดจนจบเลก

เมื่อเข้าเลกสอง มาซายูกิ มิอุระ กุนซือชาวญี่ปุ่น เข้ามารับตำแหน่ง แล้วดัน "น้าเทิด" ไปเป็นผู้อำนวยการสโมสร ก่อนดึง "โค้ชแดง" ทรงยศ กลิ่นศรีสุข เข้ามาเป็นเฮดโค้ช เมื่อตกลงมาไทยลีก 3 ก็กลับมาเป็นหน้าที่ของ "น้าเทิด" อีกครั้งด้วยความมั่นใจของผู้บริหารสโมสรที่มีให้

3. โปรเจคต์สร้างทีมระยะยาว

สิ่งที่ผู้บริหารของสโมสรต้องการสร้างทีมไม่ใช่แค่จะทุ่มเม็ดเงินกับตัวผู้เล่นหรือโค้ชเท่านั้น แต่พวกเขาเองก็ยังมีความใส่ใจในทุกด้าน เริ่มจาก การสร้างหมู่บ้าน ซึ่งเป็นแบบบ้านเดี่ยว ให้กับนักเตะได้อยู่กัน 4-5 คน ต่อหนึ่งหลัง โดยมีด้วยการหลายหลัง

จากนั้นก็อยู่ในช่วงสร้างสนามซ้อมจำนวน 3 สนาม ซึ่งหญ้าที่ใช้จะเป็นหญ้าจากผู้ที่ทำสนามกอล์ฟอัลไพน์ จนได้มาทำสนามกีฬากลาง จ.อุทัยธานี การันตีเรื่องความสวยงาม และระบบระบายน้ำที่ยอดเยี่ยม ตลอดจนการสร้างสนามแข่งใหม่เป็น "ฟุตบอล สเตเดี้ยม" ที่ไม่มีลู่วิ่ง

ที่สำคัญยังสร้างอคาเดมีของตัวเองขึ้นมา โดยวาง ณัฐกิตติ์ บุตรสิงห์ เป็นแกนหลัก เพื่อต่อยอดในอนาคต ก่อนจะปล่อยยืมตัวให้ อูนิโอน อดาร์เบ้ ทีมระดับดิวิชั่น 4 สเปน ใช้งาน เพื่อเก็บประสบการณ์ร่วมกับ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ดาวรุ่งของชลบุรี เอฟซี

4. เป้าหมายกลับสู่ไทยลีก2 ทันที

ด้วยทั้งหมดที่พูดมาข้างต้น ปฏิเสธไม่ได้กับเป้าหมายเดียวที่พลพรรค "ช้างป่าห้วยขาแข้ง" จะต้องตอบโจทย์ให้ได้ และทุกคนกำลังโฟกัสกับสิ่งดังกล่าว นั่นคือ การเป็น 1-3 ทีม ไปเล่นในลีกพระรองซีซั่นหน้า หรือกลับไปที่จุดที่พวกเขาเคยยืนมาก่อน

ขณะเดียวกันการได้ "น้าเทิด" กลับมาคุมทีมคำรบสอง และเริ่มทำงานตั้งแต่การปรีซีซั่น พร้อมกับหาตัวผู้เล่นด้วยตัวเอง อย่าง ชิโกซี เอ็มบ้า ที่เคยค้าแข้งกับทีม เอ็มเอสเค ซิลินา ในลีกรองของสโลวาเกีย, สลาเวีย โซเฟีย ในลีกบัลแกเรีย และ เมอริท เอวายเอสเค ในลีกไซปรัส 

ตลอด 4 เกมที่ผ่านมา ลีลาการเล่นที่เหนือชั้นของเขา ทำให้ก้าวขึ้นมาเป็นดาวซัลโวของทีมในเวลานี้ และหากสามารถกลับไปในไทยลีก2 ได้ ดาวยิงไนจีเรียรายนี้ มีโอกาสอาละวาดให้แฟนบอลได้ทึ่งกันอย่างแน่นอน

5. ยกมาตรฐานในภาคเหนือ

นับเป็นอีกหนึ่งโซนในไทยลีก 3 ที่มีการเสริมตัวกันแบบน่าดูชม หลังจากคู่แข่งอย่าง พิษณุโลก เอฟซี ดึงอดีตคู่หู ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต อย่าง กิลแบร์โต้ มาเชน่า เข้ามากระชากลากเลื้อย หรืออีกหลายทีมที่ดึงผู้เล่นจากไทยลีก 1-2 ไปช่วย

อุทัยธานี เอฟซี เอง ก็ต้องการยกระดับของไทยลีก3 ด้วยการเสริมทัพผู้เล่นฝีเท้าดีเข้ามา แน่นอนว่าจะช่วยให้คู่แข่งที่มาเจอกับพวกเขา ไม่ว่าจะเล่นในบ้านหรือออกมาเยือน ต้องทำการบ้านอย่างหนักทีเดียว เพราะดีกรีและประสบการณ์ของแข้ง "ช้างป่าห้วยขาแข้ง" นั้นล้วนไม่ธรรมดา ถือว่าเป็นการช่วยพัฒนาฟุตบอลระดับไทยลีก 3 โซนเหนือ อีกทางหนึ่ง

ยิ่งการเจอกับอดีตบรรดาแข้งทีมชาติไทย หรือนักเตะที่เคยผ่านเวทีลีกสุงสุดมา จะช่วยให้ผู้เล่นรายอื่นๆ ได้ยกระดับมาตรฐานของพวกเขาไปอีกทางหนึ่งด้วย