และก็เป็น เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ที่เซฟในช่วงดวลเป้าช่วยให้ทีมเฮเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ หลังจากรอบที่แล้วกับ แอสตัน วิลล่า ก็เซฟช่วยให้ทีมคว้าชัยมา

         นัดนี้ถือเป็นเกมที่ออกรสทีเดียวทั้งทางฝั่งเจ้าบ้านและผู้มาเยือนซึ่งต่างก็ได้ลุ้นประตูกันอย่างสนุกก่อนจะลงเอยด้วยการเสมอกันไปใน 90 นาที

         รอการจับสลากในวันเสาร์ว่าคู่แข่งในรอบ 8 ทีมสุดท้ายจะเป็นใคร

การจัดทีม

         โธมัส ทูเคิ่ล เปลี่ยนทีม 6 ตำแหน่งจากเกมพรีเมียร์ลีกล่าสุดที่เปิดบ้านถล่ม นอริช ซิตี้ 7-0 โดยทีมชุดนี้คล้ายคลึงกับในรอบที่แล้วที่ผ่าน แอสตัน วิลล่า มา

         เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ได้ลงเฝ้าเสา ส่วนเซนเตอร์ เทรเวอห์ ชาโลบาห์ ลงเล่นต่อโดยเปลี่ยนคู่ขามาเป็น มาล็อง ซาร์ กับ รีซ เจมส์ ส่วนวิง-แบ็กขวาถอย คัลลั่ม ฮัดสัน-โอกดอย ลงมายืนหลังเกมที่แล้วขึ้นไปเล่นเกมรุก ทางซ้าน มาร์กอส อลอนโซ่ ได้ลงทำหน้าที่

         ตรงกลาง ซาอูล ญีเกซ ได้ลงยืนกับ มาเตโอ โควาซิช ส่วนแนวรุก รอสส์ บาร์คลี่ย์ ได้ลงเล่นร่วมกับ ฮาคิม ซิเย็ค ส่วนกองหน้ายังเป็น ไค ฮาแวร์ตซ์ เหมือนเดิม

การเริ่มต้นที่ดีของ ซาอูล

         หลังช่วงที่ผ่านมายังไม่ได้แสดงฟอร์มผลงานที่ดีเท่าไรนัก ซาอูล ญีเกซ ออกสตาร์ทเกมนี้พร้อมความมุ่งมั่นอย่างที่เป็นมา และก็ทำได้น่าสนใจเลย

         เพียงแค่ครึ่งนาทีแรกของเกม เซาธ์แฮมป์ตัน ก็ได้โอกาสสับไกก่อนจาก สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง แต่ทางมิดฟิลด์ชาวสเปนก็มาบล็อกไว้ได้ ซึ่งแม้มันจะไม่ได้การันตีว่าจะเป็นประตูแต่จังหวะบอลออกจากเท้าก็ถือว่าน่าจะได้ลุ้นไม่น้อย

        ถึงนาทีที่ 6 เป็นอีกครั้งที่ ซาอูล ญีเกซ ได้โหม่งลูกเตะมุมแต่ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ ปัดออกหลังได้เยี่ยม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ก็เซฟลูกยิงของ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย มาแล้ว

         นาทีที่ 16 "สิงห์บลูส์" ได้ลุ้นอีกครั้งจังหวะที่ ไค ฮาแวร์ต กระชากบอลจากทางซ้ายตัวเข้ากลางก่อนปั่นด้วยขวาบอลพุ่งหลุดเสาออกไปนิดเดียว

         ครึ่งชั่วโมงของเกม "นักบุญ" ตอบโต้และได้ลุ้นจังหวะที่ ไคล์ วอล์คเกอร์ ปีเตอร์ส พาบอลแหวกลุยเข้าเขตโทษด้านขวาแม้โดน มาล็อง ซาร์ เบียดล้มแต่ยังสะกิดบอลติด รีซ เจมส์ เข้าทาง สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง ยิงแฉลบ เทรเวอห์ ชาโลบาห์ บอลเข้ากรอบแต่ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ล้มตัวรับไว้ได้

ออกนำก่อนพักครึ่ง-โดนตีเสมอต้นครึ่งหลัง

         เกมของ เชลซี ต้องบอกว่าไม่ได้เหนือผู้มาเยือนมากมาย แม้ว่าจะครองบอลได้มากกว่าแต่โอกาสพังประตูก็ไม่ได้จะแจ้งอะไรมากมายนักแม้จะมีโอกาสไม่น้อยก็ตาม

         แต่ก่อนหมดเวลาหนึ่งนาทีทีมก็มาขึ้นนำจากจังหวะต่อเนื่องที่ มาร์กอส อลอนโซ่ หลุดมาทาซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางโดนสกัดออกหลัง จากลูกเตะมุม ฮาคิม ซิเย็ค เปิดเข้ากลาง ไค ฮาแวร์ตซ์ เทคตัวขึ้นโหม่งสูงกว่าใครบอลเสียบเสาเป็น 1-0 เมื่อจบครึ่งแรก

         แต่หลังสตาร์ทครึ่งหลังไม่ถึง 2 นาทีทีมก็มาโดนตีเสมอจังหวะที่ ไคล์ วอล์คเกอร์ ปีเตอร์ส ทะลุเข้าเขตโทษด้านขวายิงติด เกปา อาร์รีซาบาลาก้า แต่บอลมันปลิ้นออกมา เช อดัมส์ ได้ยิงง่ายๆเข้าไปเป็น 1-1 

         เชลซี เองก็เกือบขึ้นนำอีกครั้งไม่กี่อคึดใจให้หลัง คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ลุยมาทางขวาก่อนไหลเข้ากลางให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ แต่งเข้าซ้ายก่อนยิงติดเซฟ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ ก่อนเพื่อนมาช่วยเคลียร์เอาไว้ได้ ในขณะที่ "นักบุญ" เองก็เกือบนำอีกครั้งจังหวะสวนกลับที่ อดัม อาร์มสตรอง ได้ยิงแต่ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ก็ล้มตัวปัดไว้ได้

สกอร์ไม่ขยับ-ตัดสินที่จุดโทษ

         โธมัส ทูเคิ่ล ขยับเปลี่ยนตัวสองคนหลังผ่านครึ่งทางของครึ่งหลัง เมสัน เมาท์ และ เบน ชิลเวลล์ ลงเล่นแทน ฮาคิม ซิเย็ค กับ รอสส์ บาร์คลี่ย์ 

         "สิงห์บลูส์" บุกได้ลุ้นมากกว่าทั้งจังหวะยิงของ ซาอูล ญีเกซ ที่หลุดกรอบไปนิดเดียวรวมถึงลูกยิงที่ติดเซฟ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ และลูกโหม่งของ มาร์กอส อลอนโซ่ ที่โหม่งไม่ผ่านมือนายทวารนักบุญ

         ช่วงทดเจ็บทาง เซาธ์แฮมป์ตัน เกือบได้ประตูชัยสองหนซ้อนจากลูกเตะมุมที่ ลีอานโก้ และ โมฮาเหม็ด ซาลิซู ได้โหม่งแต่ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ก็เซฟช่วยชีวิตทีมเอาไว้ ทำให้ต้องไปตัดสินที่การดวลจุดโทษ

         การดวลจุดโทษมีจุดให้ตื่นเต้นเช่นกันหลังจากที่คนแรกทั้งสองฝั่งอย่าง อดัม อาร์มสตรอง และ มาร์กอส อลอนโซ่ ไม่พลาด แต่คนที่สองอย่าง ธีโอ วัลค็อตต์ ที่พลาดก่อนแต่ เมสัน เมาท์ ก็ซัดติดเซฟของ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ ที่ปัดได้เยี่ยมแม้ว่าจะยิงได้ดีแล้วก็ตาม

         คนที่สามของทั้งสองฝั่งทั้ง เชน ลอง และ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ไม่พลาดเช่นกัน แต่มาถึงคนที่ 4 วิลเลี่ยม สมอลล์โบเน่ ของทีมเยือนยิงข้ามคานก่อนที่ เบน ชิลเวลล์ จะไม่พลาดให้ทีมขึ้นนำ

         แม้ โอริโอล โรเมว จะซัดตีเสมอแต่คนสุดท้ายของ เชลซี อย่าง รีซ เจมส์ ก็ไม่พลาดยิงปิดท้ายให้ทีมชนะ 4-3 ผ่านเข้ารอบต่อไป

เกมถัดไป

         เชลซี จะบุกไปเยือน เศรษฐีใหม่อย่าง นิวคาสเซิ่ล ที่เพิ่งปลด สตีฟ บรูซ ออกจากตำแหน่งไปในวันเสาร์ ตามด้วยการไปเยือน มัลโม่ ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกช่วงกลางสัปดาห์