:::     :::

6 คีย์แมนแห่งทัพ "ช้างศึก ยู23"

วันเสาร์ที่ 06 พฤศจิกายน 2564 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
1,155
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
มาเก็บตกควันหลงกันอีกสักรอบ สำหรับศึก เอเอฟซี ยู 23 แชมเปี้ยนส์ชิพ รอบคัดเลือก กลุ่ม เจ ที่ได้รูดม่านปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นอันว่าทีมชาติไทย จบด้วยการเป็นอันดับ 2 ของสาย ทำให้ตรงตามเป้าหมายสามารถผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ด้วยการเป็นอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 4 จาก 10 กลุ่ม

ซึ่งทีมที่ผ่านเข้ารอบได้สำเร็จทั้งสิ้น 16 ทีม ประกอบไปด้วย อุซเบกิสถาน (เจ้าภาพ), กาตาร์ แชมป์กลุ่มเอ, อิหร่าน แชมป์กลุ่มบี, อิรัก แชมป์กลุ่มซี, คูเวต แชมป์กลุ่มดี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แชมป์กลุ่ม อี, จอร์แดน แชมป์กลุ่มเอฟ, ออสเตรเลีย แชมป์กลุ่ม จี, เกาหลีใต้ แชมป์กลุ่มเอช, เวียดนาม แชมป์กลุ่มไอ, มาเลเซีย แชมป์กลุ่มเจ, ญี่ปุ่น แชมป์กลุ่ม เค รวมถึง ทีมชาติไทย, ซาอุดิอาระเบีย, เติร์กเมนิสถาน และ คีร์กิสถาน ในฐานะ 4 ทีมที่จบอันดับ 2 ที่ดีที่สุด

 อย่างไรก็ตามในขุมกำลังที่ "โค้ชโย่ง"วรวุธ ศรีมะฆะ ได้นำไปนั้น มี 6 นักเตะที่เปล่งประกายเอามากๆ ส่วนจะมีใครบ้าง และจะตรงใจแฟนบอลหรือไม่ ลองมาดูกันเลย


โจนาธาน เข็มดี (โอบี โอเดนเซ่)

ถูกกล่าวถึงมากเป็นอันดับ 1 ในทัวร์นาเมนต์นี้ สามารถแจ้งเกิดได้แบบทุกคนต้องยอมรับ สำหรับปราการหลังวัยเพียงแค่ 19 ปี ที่เพิ่งได้รับสัญญา 2 ปี จาก โอบี โอเดนเซ่ ชุดใหญ่ หมาดๆ ก่อนที่จะมาเล่นในศึก ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ณ ประเทศมองโกเลีย

ด้วยความสูงระดับเกิน 190 เซนติเมตร แต่กลับปราดเปรียว มีร่างกายที่บึกบึน กำยำ บาลานซ์ตัวเองได้เป็นอย่างดี แถมด้วยสปีดต้นที่จัดจ้าน ลูกสกัดที่แม่นยำ หนักหน่วง การตัดสินใจพื้นที่สุดท้ายที่เฉียบขาดเอามากๆ จนหลายคนยกให้เขาเป็นตัวละครเอกในรายการนี้

รวมไปถึงคาแร็คเตอร์ในสนามที่ดุดัน จริงจัง มีส่วนร่วมในทุกๆ อารมณ์ของทีม คอยกระตุ้นทุกคนในทีมอยู่ตลอดเวลา นอกสนามก็ยังเป็นเด็กที่น่ารัก อัธยาศัยดี พร้อมเอ็นจอยกับทั้งเพื่อนร่วมทีมและสตาฟฟ์ ในทุกๆ กิจกรรม

ต้องมาดูกันต่อไปว่า "ช้างศึก" ชุดใหญ่ จะเรียกเขาไปลุย เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ภายใต้การคุมทีมของ มาโน่ โพลกิ้ง หรือไม่ 


ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร (เลสเตอร์ ซิตี้)

หลังทำผลงานกับทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ได้อย่างน่าพอใจ แม้ว่าจะตกรอบฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง แต่ "กัน" ก็ยังได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนบอลไม่น้อย ก่อนเดินทางกลับไปซ้อมในทีมชุดใหญ่ของ เลสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงพรีซีซั่น ร่วมกับสตาร์ดังของทีมอย่าง เจมี วาร์ดี้, เจมส์ แมดดิสัน, ยูริ ติเลอมองส์ ฯลฯ

ด้วยการประสานงานของ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม ที่ต่อสายตรงไปถึงประธานสโมสร "จิ้งจอกสยาม" อย่าง "คุณต๊อบ" อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ทำให้ได้กองกลางรายนี้มาช่วยเติมเต็ม พร้อมกับมอบปลอกแขนการเป็นกัปตันทีมให้ทันที ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมามากกว่าใครในทีม

แม้เพิ่งหายบาดเจ็บมาไม่นาน แต่อดีตกัปตันทีมชาติฝรั่งเศส รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ก็ยังทำผลงานได้โดดเด่น ในการคุมเกมแดนกลางอย่างเต็มประสิทธิภาพ เล่นร่วมกับเพื่อนได้ดี วางตัวได้เยี่ยมจนทุกคนที่สัมผัสต่างชื่นชม ไม่เคยออกอาการอีโก้ที่จะ แสดงว่าว่าข้านั้นเจ๋ง ข้านั้นดังกว่าคนอื่น แม้แต่น้อย และที่น่าชื่นชมก็คือ ในเกมสุดท้ายที่เขาโดนผู้เล่นมาเลเซียไล่อัด กลับไม่แสดงปฏิกิริยาวิ่งไล่เตะเอาคืน แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพของเจ้าตัวอย่างแท้จริง

 

จักรกริช พาละพล (ขอนแก่น ยูไนเต็ด)

 ก่อนไปแข่งใครจะเชื่อว่าเขาจะกลายเป็นดาวซัลโวของทีม หลังจากทำไป 2 ประตู จาก 2 เกมแรก ที่สำคัญเขาไม่ใช่กองหน้า แต่เป็นตัวริมเส้น ที่คอยหาจังหวะสอดเข้ามาผลิตสกอร์ในเขตโทษ ตามแผนที่ "โค้ชโย่ง" วรวุธ ศรีมะฆะ กุนซือใหญ่ของทีมวางเอาไว้ ซึ่งมันก็ได้ผลจริงๆ

สไตล์ที่วิ่งสอดขึ้นไปหาที่ว่าง กระชากบอลไปด้วยความเร็วสูง เทคนิคการเล่นกับบอลที่พริ้วไหวไม่เบา รวมถึงจังหวะจบสกอร์ที่เฉียบคมใช้โอกาสไม่เปลือง เขาได้สร้างมูลค่าของตัวเองขึ้นมาอย่างมากมาย จนทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ให้ความสนใจที่อยากจะดึงเข้าไปร่วมทีม เพื่อลุยรายการ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ไปแล้วด้วยซ้ำ

"จีโอ้" เป็นลูกหลาน "เมืองบั้งไฟ" จ.ยโสธร เริ่มไล่ล่าความฝันของตัวเองบนเส้นทางลูกหนัง ด้วยการเข้าไปคัดตัวกับโรงเรียนราชวินิต บางแคปานขำ แม้ระหว่างเส้นทางจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เคยบาดเจ็บหนักถึงขั้นปอดฉีก แต่ก็สามารถกลับมาแจ้งเกิดได้กับ แกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด จนโยกมา ขอนแก่น ยูไนเต็ด ลุยไทยลีกฤดูกาลนี้ ดูแววแล้ว "จีโอ้" ยังพัฒนาได้อีกเยอะ เปรียบได้เสมือนเพชรที่รอการเจียระไนให้เลอค่ายิ่งๆ ขึ้นไป


อิรฟาน ดอเลาะ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

หลังการประกาศชื่อบางคนอาจคาดการณ์ว่า เขาน่าจะถูกจับไปเล่นแบ็คซ้าย เพื่อคอยสลับกับ จตุรพัช สัทธรรม แข้งดีกรีทีมชาติชุดใหญ่ จากการท่าเรือ เอฟซี เนื่องจากอดีตดาวเตะที่ลืมตาดูโลกในอำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ลงเล่นตำแหน่งดังกล่าวมาก่อน และสร้างชื่อให้เขาจนได้โยกมาเล่นให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

พอแข่งจริง แม้จะเริ่มต้นด้วยการไม่ได้ลงเล่นเลยในเกมแรกที่เสมอ มองโกเลีย เจ้าภาพ 1-1 จนเกือบจะครึ่งทางของเกมที่ 2 เขาได้โอกาสลงมาแทน พงษ์รวิช จันทวงษ์ ห้องเครื่องจาก เชียงใหม่ เอฟซี พร้อมกับสร้างผลงานการคุมแดนกลางที่ดูมีคลาส และการเล่นเกมรับที่ช่วยทีมได้เยอะ ทำให้เพื่อนร่วมทีมเล่นได้ง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ตำแหน่งนี้ "ปัง" เคยมีโอกาสพัฒนาตัวเองในช่วงที่ไปเล่นให้กับ อุทัยธานี เอฟซี เมื่อฤดูกาลก่อน รวมถึงเคยเล่นตำแหน่งนี้สมัยติดทีมชาติไทยยู-19 มาแล้ว ทำให้เขาสามารถใช้จุดเด่นในการเล่นเกมรับ แล้วเติมไปเป็นเกมรุก รวมทั้งการจ่ายบอลที่มีคลาส ไปจนถึงการเคลื่อนที่ การเชื่อมเกมกับเพื่อนในไลน์ต่างๆ ทำให้เกมลื่นไหลเนียนตาขึ้นเมื่อมีเขาอยู่ในทีม


อนุศักดิ์ ใจเพชร (สุโขทัย เอฟซี)

ทั้ง 3 เกมของทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ปรากฏว่า มีปัญหาตำแหน่งคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟที่ต้องใช้ลงเล่นร่วมกับ โจนาธาน เข็มดี เพราะพาร์ทเนอร์ของเขามีอันโชคร้ายได้รับบาดเจ็บไล่เรียงตั้งแต่ วันชาติ ชูสงค์ ปราการหลังตัวเก่งของ อุทัยธานี เอฟซี ที่กระดูกเท้าซ้ายแตก ต้องพักอย่างน้อย 3-6 เดือน

จนมาถึงเกมชนะ สปป.ลาว 3-0 อันโตนิโอ แสนใจรักษ์ แนวรับลูกครึ่งสวีดิชจาก ชลบุรี เอฟซี ก็มามีอาการเจ็บที่เอ็นไขว้เข่าด้านหน้า ต้องเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ยังไม่จบครึ่งแรก แต่คนที่ลงมาแทนเกมนั้น แล้วทำผลงานได้ยอดเยี่ยม จนมีชื่อเป็นตัวจริงในนัดที่ 3 ซึ่งเสมอ มาเลเซีย 0-0 ก็คือ "เจ้าไนท์" แห่ง สุโขทัย เอฟซี

ด้วยสไตล์การเล่นแบบบอลที่ชาญฉลาด คอยอ่านเกม ชิงเหลี่ยมความได้เปรียบก่อนแนวรุกคู่ต่อสู้ มีไหวพริบลูกล่อลูกชนที่ดี ทำให้อดีตแชมป์ฟุตบอล 7 คน กีฬา 7 สี กับ รร.สุรศักดิ์มนตรี ทำหน้าที่ในแผงแนวรับ ประสานงานกับ โจนาธาน เข็มดี ได้แบบไหลลื่นและลงตัว อาจจะบอกได้ว่าการไปชิงแชมป์เอเชียรอบสุดท้าย ถ้าทีมมีเขาติดไปด้วยสักคนก็คงจะอุ่นใจไม่น้อย


ธีรศักดิ์ เผยพิมาย (พราม แบงค็อก เอฟซี)

แม้จะไม่มีสกอร์ในรายการนี้ แต่ว่าหัวหอกจาก พราม แบงค็อก เอฟซี มีแนวทางการเล่นที่ถูกขนานนามว่าคล้าย ธีรศิลป์ แดงดา จนถูกยกให้เป็น "ธีรศิลป์2" ไปแล้ว หลังเข้ามามีชื่อเป็นหนึ่งใน 23 ขุนพล ติดทีมลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2022 รอบคัดเลือก ที่ประเทศมองโกเลียแบบเหนือความคาดหมายพอสมควร

"เจ้าต้น" ประเดิมสนามในสีเสื้อทัพช้างศึก U23 เกมแรกนัดที่เสมอกับ มองโกเลีย 1-1 ในฐานะตัวสำรอง ก่อนจะได้รับโอกาสจาก "โค้ชโย่ง" ส่งลงสนามเป็นตัวสำรองอีกครั้ง และทำแอสซิสต์ให้ จักรกริช พาละพล ยิง ก่อนช่วยกันเอาชนะ สปป.ลาว 3-0 ประเดิมสามคะแนนแรกในทัวร์นาเมนต์นี้ได้สำเร็จ

 นับว่าเป็นหนึ่งในขุมกำลังสำคัญ ที่ความโดดเด่นในบทบาทกองหน้าตัวเป้า เขามีการเก็บบอลที่ยอดเยี่ยม ครอบครองบอลได้ดี มีพิษสงไม่เบาในการเล่นแบบหันหลังให้ประตูแล้วพลิกเข้าหาจังหวะจบสกอร์ ซึ่งเวทีที่มองโกเลีย ทำให้ทุกคนได้ประจักษ์กับฟอร์มของเขาแล้ว และต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไอ้หนูรายนี้กำลังมีอนาคตที่ดีกับ "ช้างศึก"

เหลือเพียงการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้เขี้ยวยิ่งขึ้นไป เขาอาจจะเป็นคำตอบของโจทย์ที่ถูกถามกันมานาน สำหรับตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าทีมชาติไทยชุดใหญ่คนต่อไปก็เป็นได้


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด