:::     :::

ฮาคิม มาสตูร์ จากเทพ YouTube สู่คนตกงาน

วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน 2564 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
1,507
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ประตูแรกในอาชีพค้าแข้งของดาวเตะโมร็อกโกนั้นยอดเยี่ยมมาก น่าเสียดายที่มันอาจเป็นเพียงลูกเดียวของเขา

    ประตูแรกในการเล่นระดับอาชีพของ ฮาคิม มาสตูร์ เปี่ยมไปด้วยทักษะ สิบนาทีของเกม เขาทะลุเข้าเขตโทษด้านซ้ายอย่างไหลลื่นหลังได้รับบอลทะลุช่องอันยอดเยี่ยมจากเพื่อนร่วมทีม ก่อนจะจับมันอย่างนิ่มนวล และยิงเล่นทางผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าเสาไกลจากระยะ 8 หลา

    มันเป็นประตูที่คุ้มค่าต่อการเปิดดูใน YouTube ไม่ใช่แค่ดูเพื่อความเพลิดเพลินเท่านั้น แต่เพราะมันเป็นเอกลักษณ์ และมันก็ยังเป็นเพียงประตูเดียวที่ มาสตูร์ ทำได้ในอาชีพค้าแข้งอีกด้วย

    กระนั้น มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นในถิ่นซาน ซิโร่ อย่างที่ใครหลายคนคาดหวัง เมื่อเขาเซ็นสัญญษกับ เอซี มิลาน เมื่อตอนอายุ 14 ปี และยังมีชื่อบนม้านั่งสำรองทีมชุดใหญ่ด้วยวัยแค่ 15 ปี โดยตอนนั้นมันดูเหมือนว่าเขาจะทำลายสถิติทุกอย่างของ เปาโล มัลดินี่ ลงได้แบบสบายๆ

    แต่ลูกนั้นมันเกิดขึ้นต่อหน้าสนามที่ว่างเปล่าในศึกเซเรีย ซี ในเกมระหว่าง ซามเบเนเด็ตเตเซ่ ปะทะ คาร์ปิ ต้นสังกัดของ มาสตูร์ เมื่อเดือนมกราคม ปี 2021

    อย่างไรก็ตาม เมื่อจบฤดูกาลลง มาสตูร์ ที่เคยถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 25 ของดาวรุ่งน่าจับตามองที่สุดในปี 2016 กลับถูกปล่อยตัว และยังคงไร้สังกัดจนถึงตอนนี้บนวัย 23 ปี

    ย้อนกลับไป มันช่างเป็นความรู้สึกที่แตกต่างกันเหลือเกิน เมื่อ มิลาน จัดการซื้อ มาสตูร์ มาจาก เรจจิน่า ในปี 2012 ด้วยค่าตัว 500,000 ยูโร หลังจากได้เห็นวิดีโอของเขาที่ยิงได้ในเกมเยาวชนจนกลายเป็นไวรัล

    มาสตูร์ เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลคนแรกๆ ที่มีไฮไลท์บน YouTube ด้วยคลิปที่โชว์ให้เห็นถึงเทคนิค และทักษะพร้อมกับเพลงที่สูบฉีด ขณะที่เว็บไซต์ โกล ก็เคยยกให้เขาเป็นนักเตะอายุ 14 ปี ที่ดีที่สุดในโลก เมื่อปี 2012 ด้วย

    หลังย้ายไป มิลาน ได้ไม่นาน มาสตูร์ ก็ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ เนย์มาร์ ในเรื่องของทักษะบนโลกออนไลน์ ในขณะที่มีคนรับชมมากกว่า 10 ล้านครั้งเลยทีเดียว

    สไตล์การเล่นของเขาทำให้เขาได้รับสมญานามว่า 'แฟนตาซิสต้า' ในวงการฟุตบอลอิตาลี ซึ่งก็คือนักเตะที่มีสกิลสุดยอด และสามารถเล่นได้ทุกบทบาทในเกมรุก มีความสามารถทั้งการจ่ายบอล เลี้ยงบอล จนถูกยกไปเปรียบเทียบกับดาวดังอย่าง เวสลี่ย์ สไนเดอร์, โรนัลดินโญ่ และแน่นอนว่ากับ เนย์มาร์

    สำหรับเกมสุดท้ายของฤดูกาล 2013-14 ในเซเรีย อา คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ เทรนเนอร์ มิลาน ในเวลานั้นได้ใส่ชื่อ มาสตูร์ ไว้ที่ม้านั่งสำรองนัดพบ ซาสซูโอโล่ แต่นั่นก็เป็นสิ่งใกล้เคียงที่สุดของเขากับทีมชุดใหญ่ของ ปีศาจแดงดำ

    ด้วยชื่อเสียงอันโด่งดังของเขาในเวลานั้นทำให้ มาสตูร์ ได้ประเดิมทีมชาติโมร็อกโกชุดใหญ่ ตอนอายุแค่ 16 ปี

    มาสตูร์ เกิดในอิตาลี และรับใช้ทีมชาติเยาวชนทัพ อัซซูรี่ มาจนถึงระดับอายุต่ำกว่า 16 ปี ทว่าจากการที่เขามีพ่อแม่เป็นชาวโมร็อกโก ทำให้เขาผูกผันกับประเทศในแอฟริกาเหนือมากกว่า

    มันเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน ปี 2015 เมื่อดาวเตะวัย 16 ปี มีชื่อบนม้านั่งสำรองในเกมที่ โมร็อกโก เอาชนะ ไลบิเรีย 1-0 โดยเขาได้ลงสนามมาในนาทีสุดท้าย ซึ่งนั่นก็เป็นเพียงเกมเดียวจนถึงตอนนี้

    ตอนที่อนาคตของ มาสตูร์ ยังเป็นที่จับตามองอยู่ เขาน่าจะดันขึ้นไปอยู่ในทีมชุดใหญ่ของ มิลาน ในซีซั่น 2014-15 เมื่อเหล่านักเตะตัวหลักต้องโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานมากมาย แต่ ฟิลิปโป้ อินซากี้ เทรนเนอร์ของทีมในเวลานั้นดูเหมือนจะสงสัยเกี่ยวกับความพร้อมของแข้งวัยรุ่นคนนี้

    ตั้งแต่ซัมเมอร์ ปี 2015 เป็นต้นมา มิลาน ก็เริ่มส่ง มาสตูร์ ออกไปเล่นที่อื่นแบบยืมตัว และความสงสัยของ อินซากี้ ก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าถูกต้อง เมื่อเขาต้องดิ้นรนอย่างมากกับโอกาสลงสนามในแต่ละปี

    ที่ มาลาก้า เขาได้ลงเล่นไปแค่เกมเดียวในปี 2015-16 ขณะที่กับ พีอีซี ซโวลล์ ในปีถัดมาก็ได้ลงสนามแค่ 6 นัด

    ในขณะที่ มาสตูร์ ไม่ได้ใกล้เคียงกับความคาดหวังของ มิลาน เลย สโมสรเองก็เริ่มห่างหายไปจากเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งคิดเวลารวม 7 ปี โดยพวกเขามีปัญหาด้านการเงิน ผู่เล่นที่ต่ำกว่ามาตรฐาน และการเปลี่ยนเทรนเนอร์ไปเรื่อยๆ

    เซดอร์ฟ ถูกแทนที่โดน อินซากี้ ซึ่งก็ถูก เจนนาโร่ กัตตูโซ่ มาเสียบต่ออีกทอดนึง และนั่นมันไม่ได้ดีสำหรับ มาสตูร์ เอาเสียเลย

    "ช่วงเวลาเราได้คุยกันเยอะมาก ผมขู่เขาเพราะเขามีชื่อเสียงในการทำคลิปวิดีโอมากกว่าการเล่นในสนาม แต่เขาจะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว เพราะผมบอกว่าผมจะเลาะฟันเขาออก!" กัตตูโซ่ กล่าว

    "ขบวนรถไฟผ่านไปแล้ว แต่เขายังอายุไม่ถึง 50 ปีนี่ เขาเพิ่งหลัก 20 ปี และผมคิดว่าเขาต้องคิดถึงความผิดพลาดของเขา"

    "เขาต้องเล่นอย่างสม่ำเสมอ เพราะเราจะเห็นได้เลยว่าเขาสูญเสียความเฉียมคมในเกมไปแล้ว แต่ผมสังเกตุเห็นการปรับปรุงบางอย่าง"

    แต่ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงใดๆ มันก็คงไม่เพียงพอ และ มาสตูร์ ก็ถูก มิลาน ปล่อยตัวในซัมเมอร์ ปี 2018

    หลังจากไม่กี่เดือนที่ไร้ความสุขกับ ลาเมีย สโมสรในกรีซ เขาก็กลับมาอยู่กับทีมในลีกล่างอย่าง เรจจิน่า และก็ถูกปล่อยยืมต่อไปอยู่กับ คาร์ปิ จนกระทั่งจบฤดูกาลที่แล้ว

    กับ คาร์ปิ ในปี 2021 เขาได้ลงสนามด้วยจำนวนตัวเลขสองหลักต่อหนึ่งซีซั่นเป็นครั้งแรกในอาชีพ และแน่นอนว่ายังทำประตูได้ยอดเยี่ยมอีกด้วย แต่นั่นก็ไม่พอที่จะทำให้ เรจจิน่า มอบสัญญาใหม่ให้กับเขา

    จนถึงตอนนี้มันก็ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าพรสวรรค์ของ มาสตูร์ มันน่าเสียดายที่เราจะเห็นแต่ในโลกออนไลน์เท่านั้น


    พาสต้า


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด