ผลการแข่งขันจากเกมนี้ให้ "สิงห์บลูส์" จากที่จำเป็นจ่าฝูงของตาราง กลายเป็นว่าตอนนี้พวกเขาต้องตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูงห่าง 4 คะแนน และ ลิเวอร์พูล ทีมอันดับสอง 3 คะแนนไปแล้ว

         หนำซ้ำเกมรับที่เคยเหนียวแน่นนั้นกลับกลายเป็นโดนเจาะตาข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยที่ 6 เกมหลังทีมเสียประตูทุกนัด รวมแล้วโดนสอยไปถึง 11 ประตู

         แถมทีมยังมีปัญหานักเตะเจ็บมาตลอดช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา และล่าสุดที่มีแข้งติดโควิดถึง 4 ราย ซึ่งล้วนเป็นแข้งตัวหลักทั้งหมด

         การเป็นทีมใหญ่ถูกมองว่ามีนักเตะที่สามารถดันขึ้นมาใช้งานได้มากกว่าสโมสรเล็ก แต่มันก็ส่งผลให้เห็นว่าคนที่ลงมาพร้อมกันทีเดียวหลายๆคนนั้นส่งผลต่อการเล่นของทีมอย่างเห็นได้ชัด

         และนั่นเป็นที่มาของผลงานที่ตกลงไปของทีมในช่วงหลังนั่นแหละ

การจัดทีม

         เชลซี เจอข่าวร้ายก่อนเกมเมื่อไม่มีทั้ง โรเมลู ลูกากู, ทิโม แวร์เนอร์, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย และ เบน ชิลเวลล์ ที่ตรวจเจอผลเป็นบวกต้องกักตัว ในขณะที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ กับ มาเตโอ โควาซิช มีอาการบาดเจ็บ

         นั่นทำให้ทาง โธมัส ทูเคิ่ล ต้องมีการปรับแนวรุกอย่างหนักด้วยการดัน คริสเตียน พูลิซิช ขึ้นไปยืนหน้าเป้าโดมี ฮาคิม ซิเย็ค กับ เมสัน เมาท์ คอยช่วย โดยมี รีซ เจมส์, รูเบน ลอฟตัส-ชีค, จอร์จินโญ่ และ มารฺกอส อลอนโซ่ ทำหน้าที่กองกลาง

         สามประสานเกมรับมี อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ติอาโก้ ซิลวา และ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ส่วนผู้รักษาประตู เอดูอาร์ เมนดี้ทำหน้าที่

เริ่มต้นรุกตามสไตล์

         เชลซี เปิดฉากด้วยการบุกเข้าใส่อย่างที่เราได้เห็นกันมาตลอดฤดูกาล และทีมก็น่าได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่ 6 นาทีแรกจังหวะที่ จอร์จินโญ่ จ่ายบอลทะลุช่องอย่างสวยให้ รีซ เจมส์ หลุดเข้าเขตโทษด้านขวาแต่จังหวะยิงพยายามหนีตัว จอร์แดน พิคฟอร์ด มากเกินไปสุดท้ายบอลไม่เข้ากรอบซะงั้น

         อีกหนึ่งนาทีให้หลังทีมน่าได้ประตูอีกครั้งคราวนี้ รีซ เจมส์ ไหลบอลเข้าเขตโทษด้านขวาให้ เมสัน เมาท์ วิ่งมาแปด้วยขวาเล่นทางไปเสาสองบอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียว

         เกมยังเป็นเจ้าบ้านที่บุกได้น้ำได้เนื้อมากกว่าและเป็นอีกครั้งที่ได้ลุ้นนาทีที่ 11 เมื่อทาง ฮาคิม ซิเย็ค กระชากบอลหลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายก่อนตบเข้ากลาง คริสเตียน พูลิซิช ไขว้ยิงแต่น้ำหนักไม่ได้ จอร์แดน พิคฟอร์ด รับเข้ามือไป ตามด้วยจังหวะยิงของ ซิเย็ค ในเขตโทษด้านซ้ายบอลก็หลุดเสาสองออกไปอีก

         ตามด้วยนาทีที่ 16 จากฟรีคิกเกือบ 30 หลาที่ รีซ เจมส์ ปั่นด้วยขวาซึ่ง จอร์แดน พิคฟอร์ด บินปัดออกหลังไปอีก นับเป็นการออกสตาร์ที่ดุดันทีเดียว โอกาสลุ้นประตู 4 ครั้งในเวลาเพียง 1 ใน 4 ของครึ่งแรก เพียงแต่ยังไม่อาจส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้

ความพยายามที่ยังไร้ผล

         ตลอดครึ่งแรกของเกมทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล ปูพรมบดเข้าใส่ เอฟเวอร์ตัน อย่างหนัก ซึ่งทางผู้มาเยือนที่เล่นเกมรับเกือบตลอดเริ่มใช้เกมหนักเข้าสู่เพื่อหยุดเกมรุกของ เชลซี ให้ได้

         ลูกยิงไกลนอกกรอบของ รีซ เจมส์ ก็ได้ลุ้นในนาทีที่ 17 แต่บอลพุ่งข้ามคานออกไป แต่ถ้าถอยไปมากกว่านี้อีกสัก 2-3 หลาอาจได้ลุ้นประตูเลยเพราะบอลมันมุดลงมาช้าไปหน่อย

         จากเกมนั้นเกมก็ยังเป็นของ เชลซี และก็น่าได้ประตูอย่างที่สุดนาทีที่ 36 เมื่อ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ จ่าบบอลเข้าเขตโทษ มาร์กอส อลอนโซ่ วิ่งเข้าหาบอลแต่ปล่อยให้ เมสัน เมาท์ เกี่ยวไปยิงจ่อๆแต่ติดขาของ จอร์แดน พิคฟอร์ด อย่างน่าเสียดาย

ครึ่งหลังที่ไม่แตกต่าง

         ออกสตาร์ทหลังพักเบรก เชลซี ครองบอลบุกแทบจะข้างเดียวถึง 80 เปอร์เซ็นต์และจำนวนการยิงที่เหนือกว่าไม่เปลี่ยนแปลงแต่ทาง เอฟเวอร์ตัน ก็ตั้งรับอย่างแข็งขัน

         โอกาสสองครั้งซ้อนหลังผ่านไป 5 นาที เมสัน เมาท์ ปั่นด้วยขวานอกกรอบติดผู้เล่นทีมเยือนที่พยายามบล็อคบอลยังเข้ากรอบแต่ จอร์ดอน พิคฟอร์ด ก็ยังโชว์ซูเปอร์เซฟปัดเอาไว้ได้ ส่วนจังหวะต่อเนื่องลูกเตะมุม รูเบน ลอฟตัส-ชีค โหม่งข้ามคานออกไป

         เชลซี ขยับเปลี่ยนตัวสองคนรวดเอา ซาอูล ญีเกซ กับ รอสส์ บาร์คลี่ย์ ลงเล่นแทน มาร์กอส อลอนโซ่ กับ รูเบน ลอฟตัส-ชีค ในนาทีที่ 65 ของเกม

เจาะตาข่ายสำเร็จ

         หลังจากความพยายามมาตลอดทั้งเกม เชลซี ก็มาพังประตูขึ้นนำจนได้นาทีที่ 70 รีซ เจมส์ ไหลบอลเข้าเขตโทษด้านขวาให้ เมสัน เมาท์ ซัดมุมแคบผ่าน จอร์แดน พิคฟอร์ด เข้าไปจนได้

การตอบโต้กลับของทอฟฟี่

         เกมที่ดูไม่มีอะไรของ เอฟเวอร์ตัน กลับมามีอะไรในทันที และแค่ 4 นาทีหลังเสียประตูทีมก็มาได้ประตูตีเสมอได้จากฟรีคิกริมเขตโทษฝั่งซ้าย แอนโธนี่ย์ กอร์ดอน เปิดลึกไปเสาสอง จาร์แร็ด แบรนธ์เวต แหย่ขาส่งบอลผ่านมือ เอดูอาร์ เมนดี้ เข้าประตูไป

         เชลซี เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายเอาชนะ เทรโวห์ ชาโลบาห์ ลงเล่นแทน เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย ซึ่งทีมก็พยายามบุกแต่สุดท้ายเจาะไม่เข้า จบลงด้วยการได้คะแนนเดียวอีกครั้ง

เกมถัดไป

         โธมัส ทูเคิ่ล จะนำทีมบุกไปเยือน วูล์ฟแฮมป์ตัน ในวันอาทิตย์นี้ ตามด้วยการไปเยือน เบรนท์ฟอร์ด ในศึกคาราบาว คัพรอบก่อนรองชนะเลิศ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอดูว่าปัญหาการระบาดของไวรัสโควิดจะส่งผลให้เกมเลื่อนออกไปรึเปล่า