ฟิล บาร์ดสลีย์ อดีตแบ็คขวาลูกหม้อของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์กับคอนเทนต์ UTD Podcast ของสโมสร กับเรื่องราวในอดีตหลายๆอย่างกับสถานที่แห่งนี้ ซึ่งรวมถึงตำนานคู่มวยอันลือลั่นพอๆกับวันที่เขาทราย แกเล็กซี่ ต่อยชิงแชมป์จนถนนเมืองไทยโล่งสงัดยังกะป่าช้า
ตำนานโหดที่บาร์ดสลีย์ ชกเวย์น รูนีย์ จนสุกรโลกันตร์ลงไปวัดพื้น!
Phil Bardsley ในวัย 36 ปี ยังคงลงสนามให้กับเบิร์นลีย์ได้อย่างแข็งแกร่ง และเคยลงเล่นให้ปีศาจแดงไป 18 นัด ช่วงระหว่างปี 2003 ถึง 2008 จากนั้นก็ย้ายไปเล่นให้กับซันเดอร์แลนด์, สโต๊คซิตี้ ก่อนที่จะไปอยู่ในชายคาเทิร์ฟมัวร์ ของเบิร์นลีย์ เมื่อเกือบสี่ปีที่ผ่านมา
เขาเล่าให้ฟังเรื่องราวตลอดเส้นทางอาชีพของเขา และการได้ลงสนามเดบิวต์ที่เล่นร่วมกับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และการปะทะกับมาร์คัส แรชฟอร์ด ในฤดูกาล 2018/19 จนแรชชี่โดนใบแดงไล่ออกจากสนามในเกมนั้น ถือว่ายังคงDNAแบ็คจอมดุแบบปีศาจแดงไว้ตั้งแต่สมัยเป็นดาวรุ่งขึ้นมาแทนแกรี่ใหม่ๆ จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังคงเล่นอย่างดุเดือดไม่ต่างจากตอนวัยรุ่น
หนึ่งในเรื่องราวที่บาร์ดสลีย์ย้อนความไป คือเหตุการณ์ที่เขากับเวย์น รูนีย์ ต่อยมวยกันในปี 2015 ซึ่งกลายเป็นข่าวพาดหัวในหน้าหนังสือพิมพ์ จนกระทั่งต่อมา เหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นท่าดีใจที่เป็นตำนานอีกท่านึงในหลายปีต่อมา
ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อทั้งคู่ใช้ช่วงว่างงาน ไปนั่งดื่มด้วยกันเล็กน้อยที่ผับ ก่อนที่จะกลับไปยังบ้านของเวย์น
"ผมพาพี่น้องและคนอีกสองสามคนที่เขารู้จักไปด้วย แล้วเราก็กลับมายังบ้าน"
"เราดื่มกันมา หัวเราะกันลั่น เล่นกีต้าร์ แล้วอยู่ดีๆก็มีคนหยิบนวมต่อยมวยโผล่ขึ้นมา ผมคิดในใจว่า ที่นี่แม่งเล่นอะไรกันเนี่ย"
"พี่น้องของผมจึงก้าวออกมา แล้วดวลกับวาซซ่า ซึ่งทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเขาชอบดูมวย เขาชอบการทำลายล้าง ผมก็เลยบอกประมาณว่า เอานวมมา กูเอง"
"แล้วเขาก็เข้ามารัวหมัดใส่ ตัวก็โคตรใหญ่ แข็งแรง เราก็แลกหมัดกัน มันเป็นการไฝว้กันของเด็กCroxteth เจอกับเด็กSalford ด้วยศักดิ์ศรีเพราะงั้นถอยไม่ได้!"
การซ้อมมวยกันก็เร่งดีกรีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเวย์น โดนหมัดน็อคเข้าไป
"เขาโดนแค่หมัดแย็บเอง ออกมาชกแค่ไม่กี่วินาที แล้วก็ร่วงลงไป เราก็ตกใจกันว่าเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย"
"เราไม่รู้จะทำยังไงต่อ แพนิคมากๆ แล้วไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ด้วย พวกเราคิดในใจว่า ถ้าเขาไม่ลืมตาขึ้นมาจะทำไงวะเนี่ย โทรตามรถพยาบาลไม่ได้ด้วยไม่มีสัญญาณ โคตรตกใจเลย"
"แต่สุดท้ายเขาลุกขึ้นมา เดินไปที่อ่างล้างหน้า ผมปากแตกแผลใหญ่ เลือดเปรอะไปหมด ส่วนเขาเลือดออกจมูกเล็กน้อย แล้วเราก็มองหน้ากัน และฮาก๊ากออกมา"
ค่อนข้างชัดเจนว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องขำๆกันระหว่างเพื่อน แต่ว่าคลิปก็แพร่กระจายไปในโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็ว
"ผมไม่ได้นึกอะไรถึงเรื่องนี้เลย ด้วยความสัตย์จริง แต่ผมคิดว่าเพื่อนของเราคนนึงคงส่งคลิปให้เพื่อนเขาแบบไม่ได้คิดอะไร กว่าที่จะรู้ก็คือทำอะไรไม่ได้แล้ว แล้วคนก็มีเรื่องสนุกๆกันให้ดูในวันหยุด จากคลิปซ้อมมวยของผมกับวาซซ่า"
หมัดอเวจีถล่มสุกรโลกันตร์ ฟิล บาร์ดสลีย์ แย็บซ้ายถากๆ ก่อนเฮียหมูจะหงายหลังตึงลงไปในจังหวะโคตรซิทคอม
ข่าวนี้มาแดงเอาในช่วงเช้าที่แมนยูไนเต็ดจะลงเล่นเกมเหย้า เปิดบ้านต้อนรับ Tottenham Hotspur ซึ่งตอนนั้นเป็นศึกสำคัญที่จะแย่งตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกกัน
ยูไนเต็ดนำห่างทีมจากลอนดอนเหนือด้วยสกอร์ 3-0 ในช่วงพักครึ่ง ซึ่งมีประตูของรูนีย์ด้วย และอดีตดาวเตะเบอร์10ของเรารายนี้ก็ทำท่าดีใจเก๋ๆออกมา ซึ่งทำให้ Bardo ดีใจมาก
"ผมไม่รู้มาก่อนเลยเรื่องท่าดีใจนั่น พอเขาทำท่านั้นออกมา ผมดีใจจริงๆนะ ตอนที่เห็นนั่นผมกำลังอยู่ที่บ้านอยู่"
"มันเด่นมากๆ แล้วมันก็แย่งซีนไปทั้งหมดเลย ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่ควรต้องทำ สุดท้ายแล้วเราก็เป็นนักฟุตบอลมืออาชีพทั้งคู่ และมันแค่การพลั้งมือกันเฉยๆในคืนดังกล่าวเท่านั้นเอง"
"มันออกจะฮากันซะมากกว่า เราเมากันมาเล็กน้อย แล้วก็พลั้งมือออกไป แต่อย่างน้อยเหตุการณ์มันก็เกิดขึ้นในสถานที่ที่เป็นส่วนตัว ไม่ได้เล่นกันในที่สาธารณะ"
นอกจากเรื่อง "ต่อยกับเฮียหมู" แล้ว ฟิล บาร์ดสลีย์ ยังเล่าถึงเรื่องราวที่ทำให้ "แพะหลั่งเลือด" ในการสู้กับอีกหนึ่งตำนานของทีมและเป็น GOAT ของโลกอย่าง "คริสเตียโน่ โรนัลโด้" กับเหตุที่โรนัลโด้ต้องเลือดออกอีกราย
"ผมได้เดบิวต์ตอนอายุ 18 กับเวสต์บรอม" ฟิลเล่าถึงการลงสนามครั้งแรกในปี 2003
"เราแพ้ 2-0 ซึ่งน่าผิดหวังมากๆ แต่มันก็เป็นเกมที่ดีพอแล้วสำหรับผม เพราะโรนัลโด้ เล่นอยู่ด้านหน้าผม มันเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากๆ ช่วงห้านาทีแรกผมจำได้ว่าแบ็คซ้ายของพวกเขาได้บอลในแดนตัวเอง และผมวิ่งผ่านโรนัลโด้เข้าไปอัดใส่มันดื้อๆเลย"
"โรนัลโด้หันมามองแล้วพูดว่า มึงทำอะไรเนี่ย?"
สิ่งที่Bardoมองเห็น คือแผ่นหลังของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ระยะประชิด
"ก็ผมตื่นเต้นมาก แล้วอยากจะสร้างผลงานให้มันน่าประทับใจแค่นั้นแหละ เขาคงคิดในใจแหละว่า ใครปล่อยไอ้บ้านี่ลงมาฟะ"
หลังจากได้เดบิวต์แล้ว บาร์ดสลีย์ได้ถูกปล่อยไปยืมตัวกับ Royal Antwerp, Burnley, Rangers, Aston Villa และ Sheffield United ก่อนที่จะย้ายออกไปอยู่ Sunderland ในปี 2008 จากนั้นไป Stoke City ปี2014 ก่อนจะมาอยู่ทีมปัจจุบันที่ Burnley เมื่อสามปีที่แล้ว
"เราต่างมีเส้นทางเดินที่แตกต่างกัน วิถีที่แตกต่างกัน สำหรับผม การออกจากยูไนเต็ด สิ่งสำคัญที่สุดคือการได้มีอาชีพที่อยู่ในระดับสูงสุดซึ่งก็คือพรีเมียร์ลีก และผมภูมิใจที่ได้พูดว่า ทุกวันนี้ผมก็ยังลงเล่นในพรีเมียร์ลีกอยู่ ส่วนคริสเตียโน่ เขาออกไปเพื่อที่จะประสบความสำเร็จ เขาคือที่สุดของที่สุดอยู่แล้ว ผมไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากมาย"
แม้สองคนนี้จะไม่ได้ลงสนามด้วยกันมากนัก แต่ Bardsley กับ Ronaldo ใช้เวลาฝึกซ้อมด้วยการอยู่ตลอด และทั้งคู่เคยทำให้ต่างฝ่ายต่างเลือดออกในช่วงฝึกซ้อมด้วย
"ผมจำได้ว่า มิค ฟีแลน กับ คริสเตียโน่ ชอบอยู่ต่อหลังซ้อม ฝึกฝน และทำอะไรต่างๆ ซึ่งมิคมักจะให้พวกเราดวลกันตัวต่อตัวตลอดเวลา"
"เขามักจะยิงเข้า ถ้าห่างกว่า25หลาเขาจะพยายามเลี้ยงผ่านผมและไปทำประตู ส่วนใหญ่เขาก็ผ่านผมไปยิงได้นั่นแหละ เขาทั้งเลี้ยง ทั้งยิง ทั้งเตะหน้าแข้งของผม ถุงเท้าสีขาวๆก็เลอะเลือดกันเป็นประจำ มันดุเดือดมาก เข้มข้นมากๆ ผมไม่ต้องการให้เขาชนะได้ ส่วนเขาอยากจะชนะผมแล้วยิงให้มากที่สุดเท่าที่จะยิงได้"
"มันเป็นอีกช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่สุดๆที่ได้ซ้อมกับคนที่ขึ้นชื่อว่าเก่งที่สุดอย่างแท้จริง"
โรนัลโด้กลับมายังโรงละครแห่งความฝันอีกครั้งเป็นคำรบที่สองกับสโมสรแห่งนี้ และดาวเตะซุปเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีสรายนี้ก็โชว์ผลงานต่อเนื่องนับตั้งแต่กลับมายังบ้านแห่งนี้ที่ใช้รหัสไปรษณีย์ M16 0RA ณ Stretford แห่งนี้ ซึ่งบาร์ดสลีย์ในฐานะแฟนแมนยูนั้นตื่นเต้นมากๆที่ได้เห็นCR7 กลับมาอยู่กับทีมในซัมเมอร์ที่ผ่านมา
"ผมไม่รู้เลยว่าจะมีการซื้อขายเขาเกิดขึ้น" เขาเล่าถึงเรื่องข่าวลือการย้ายทีมในช่วงตลาดฤดูร้อนปี2021ของโรนัลโด้
"ผมไม่ได้รู้เรื่องราวแท้จริงที่เกิดขึ้นในการย้ายทีมนี้ แต่เป็นที่พูดกันว่าเขาจะย้ายไปอยู่กับอีกฝั่งนึง(แมนซิตี้) ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นไปได้ เขาไม่มีทางไปอยู่นั่น คือเขาสามารถเล่นที่ไหนก็ได้ในยุโรป แต่ทันทีที่ยูไนเต็ดต้องการจะดึงตัวเขา ก็ไม่มีอะไรที่ต้องสงสัยอีกเลย"
ซึ่งก็อย่างที่ทราบกันว่า โรนัลโด้กลับมาเปิดตัวอีกครั้งอย่างอลังการในเกมยิงเบิ้ลนัดเจอนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ในเดือนกันยายน บาร์ดสลีย์ได้เห็นผลงานระดับบล็อคบัสเตอร์ของอดีตเพื่อนร่วมทีมเก่ารายนี้ด้วย
"ความตื่นเต้น, บรรยากาศ, ทุกๆสิ่งเขานำมันกลับมาที่นี่"
"ผมพาลูกๆของผมมาดูเกมเจอนิวคาสเซิลด้วย จากประสบการณ์ที่ผมเคยลงแข่ง, การออกจากที่นี่ไป, เพลงธีมแชมเปี้ยนส์ลีก เกมพรีเมียร์ลีก ผมเคยสัมผัสมาหมดแล้ว แต่ว่ามันเป็นอะไรที่พิเศษออกไปเมื่อเขากลับมาที่นี่ เมื่อใดก็ตามที่เขาได้บอล คนจะลุกขึ้นยืน ถ่ายรูปกันทั้งสนาม และหลังจากจบเกม ผมนั่งในสแตนด์ด้านเหนือ เขาโบกมือมา และผมพูดกับลูกตัวน้อยว่า เขากำลังโบกมือให้ลูกอยู่ตรงนั้นนะ!(ฮา)"
"คนอะไร มันปีศาจชัดๆ.."
และนี่คือคำเล่าของชายผู้เคย "ต่อยกับหมู สู้กับแพะ"
ชายที่สามารถพูดได้เต็มปากว่า เคยอัดกับ "ตำนานตลอดกาลสองคนของปีศาจแดง" จนคนหนึ่งน็อค อีกคนหนึ่งได้เลือดมาแล้ว
แบ็คขวาDNAโคตรหฤห่าม เข้าเป็นเข้า ตายเป็นตาย
Phil Bardsley
-ศาลาผี-
References
