มาร์เซโล่ ตัดสินใจอยู่ต่อกับ เรอัล มาดริด ในฤดูกาลนี้ แม้ได้รับการแจ้งชัดเจนว่าบทบาทในทีมของเขาจะลดทอนความสำคัญลงอย่างมาก 

ผ่านมาแล้วครึ่งฤดูกาล มาร์เซโล่ ได้โอกาสลงเล่นใน ลา ลีกา 3 เกม ตัวจริง 2 สำรอง 1, ส่วนในแชมเปี้ยนส์ลีก ลงสำรอง 2 เกม รวมเวลาอยู่ในสนาม 142 นาที 

“142 นาที” ถือว่าน้อยเอามากๆ เมื่อเทียบกับชื่อชั้น โปรไฟล์ และความสำเร็จที่ผ่านมาในอดีตของแบ็กซ้ายที่ครั้งนึงว่ากันว่าเก่งที่สุดในโลกอย่างเขา 

แต่ถึงอย่างนั้น มาร์เซโล่ ก็ยังไม่เปลี่ยนใจ หรือถอยหลังให้กับการตัดสินใจของตัวเองแม้แต่ก้าว แม้กำลังจะย่างสู่มกราคม เดือนที่ตลาดซื้อ-ขายนักเตะเปิดทำการ ซึ่งเป็นโอกาสในการโยกย้าย 

มาร์เซโล่ ตัดสินใจแน่วแน่ว่าเขาจะอยู่กับ เรอัล มาดริด จนหมดสัญญา แม้จะไม่ได้ลงเล่น และสำหรับสโมสรเองนั่นก็ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์หรือข่าวร้ายแต่อย่างใด 

เพราะพวกเขามองว่า มาร์เซโล่ คือหนึ่งในตำนานของสโมสร ผู้อยู่ในยุคทองบอลถ้วยยุโรปยุคที่สองของ เรอัล มาดริด ผู้ซึ่งคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้มากถึง 4 สมัยในรอบ 5 ปี และในนัดชิงชนะเลิศ มาร์เซโล่ ลงเล่นตัวจริงถึง 3 เกม 

เขาพลาดโอกาสเป็นตัวจริในทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ ในนัดชิงกับ แอตเลติ ที่ ลิสบอน เกมวันนั้นเป็น ฟาบิโอ โกเอาเตรา ที่ได้ลงสนามแทน แต่ มาร์เซโล่ ก็ได้ลงมา และเล่นได้ดี ก่อนทีมจะตีเสมอได้จากลูกโขกของ เซร์คิโอ รามอส ในนาทีที่ 93

นับจากวันนั้น ผ่านมาแล้ว 7 ปี และ มาร์เซโลน่าก็ถือเป็นหนึ่งใน ‘เอล กาปิตัน’ ของ เรอัล มาดริด ที่แม้วันนี้จะไม่มีที่ว่างสำหรับเขา

อันเชล็อตติ ไม่นับเขาอยู่ในแผนการทำทีม และแสดงให้เห็นชัดเจนจากจำนวนนาทีที่ลงสนาม ซึ่งมากกว่า มาเรียโน่ ดิอ๊าซ เพียงคนเดียวเท่านั้น 

มาร์เซโล่ กำลังจะโบกมือลาปี 2021 ด้วยจำนวนการลงเล่นที่น้อยที่สุด นับแต่ย้ายมายังถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เมื่อช่วงหน้าหนาวปี 2007 ซึ่งครึ่งฤดูกาลแรกในสีเสื้อ ‘โลส บลังโกส’ เขาลงเล่น 23 เกม รวมเวลา 1,111 นาที 

กลับมาที่ฤดูกาลปัจจุบัน มาร์เซโลน่า ตระหนักถึงบทบาทของเขาแต่แรก กับอาการบาดเจ็บของ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ ในช่วงต้น อันเชล็อตติ ตัดสินใจส่ง ดาวิด อลาบา ลงเล่นแทน 

เมื่อดาวเตะออสเตรียจับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ เอแดร์ มิลิเตา ได้อย่างเพอร์เฟกต์ กุนซืออิตาเลี่ยนก็หันไปมอบโอกาสลงสนามให้ มิเกล กูเตียร์เรซ ดาวรุ่งจากกาสตีย่าสลับกับ นาโช่ เฟร์นานเดซ แทน

มาร์เซโล่ คือ 1 ใน 3 นักเตะที่ได้ลงเล่นตัวจริงแค่เกมเดียวจากจำนวน 25 นาทีของ อันเชล็อตติ ร่วมกับ มาเรียโน่ ดิอ๊าซ และ ลูก้า โยวิช โดยเขาลงเล่นตัวจริงในเกมเยือน เอลเช่ และสัมผัสเกมทั้งสิ้น 65 นาที

ไม่เรื่องน่าเศร้าอะไร มาร์เซโล่ รู้ตัวดีว่าเวลาของเขาใกล้จะหมด ฤดูกาลที่ 15 นี้จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเขาในการผจญภัยกับ เรอัล มาดริด ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ามันเต็มไปด้วยรสชาติ และอิ่มเอมกับความสำเร็จ

533 นัด คือ จำนวน การลงสนามของ มาร์เซโล่ ในสีเสื้อมาดริด ส่งให้เขากลายเป็นแข้งต่างชาติที่ลงเล่นให้กับ เรอัล มาดริด มากที่สุดเป็นลำดับ 2  ส่วนอันดับ 1 ไม่ใช่ใครที่ไหน คาริม เบนเซม่า นั่นเอง (582 เกม) 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่มีแข้งคนใดในทีมชุดปัจจุบันเทียบเคียงกับ มาร์เซโล่ ได้ก็คือจำนวนถ้วยรางวัลที่คว้ามาได้ และยิ่งกว่านั้น ฟูลแบ็กบราซิเลี่ยนก็กำลังรอคอยที่จะทำสถิติคว้าแชมป์เทียบเคียงกับ 2 ตำนานต่างรุ่นอย่าง เคนโต้ และ มานูเอล ซานชีส ที่จำนวน 23 แชมป์ หากว่า เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า ปีนี้ที่กรุงริยาด , ซาอุดิอาระเบีย มาครองได้ 

และหากฤดูกาลนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ หาก เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ ลา ลีกา ,โกปา เดล เรย์ หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ถ้วยใดถ้วยนึง หรือ 2 ถ้วยขึ้นไป มาครองได้ มาร์เซโล่ ก็จะกลายเป็นนักเตะที่คว้าแชมป์สูงสุดในประวัติศาสตร์ทีมชุดขาวที่ 24 ถ้วยเลยทีเดียว  

จากวันนี้ สิ่งที่ มาร์เซโล่ ทำได้คือ ‘รอคอย’ หากแต่หลังวันที่ 1 กรกฏาคม 2022 ไปแล้ว คำถามสำคัญก๋คือ “เขาจะทำอะไรต่อไป ?”

2-3 ปีที่ผ่านมา มาร์เซโล่ มีข่าวพัวพันกับ ยุเวนตุส ค่อนข้างหนาหู ทีมม้าลายแห่งตูรินเคยวางแผนที่จะดึงเขาไปร่วมทีม ทว่าแมสเซสของ มาร์เซโล่ ที่บอกกับยักษ์ใหญ่อิตาเลี่ยนก็คือ “ผมจะอยู่กับ มาดริด จนหมดสัญญา” 

ปัจจุบัน มาร์เซโล่ หันไปลงทุนในธุรกิจฟุตบอล โดยเข้าเทคโอเวอร์สโมสรอาซูริซในลักบราซิลตั้งแต่ปี 2017 ก่อนจะเข้าซื้อหุ้นสโมสรมาฟราในโปรตุเกสเพิ่มอีก ซึ่งอนาคตข้างหน้าเขาหวังที่จะขยายแบรนด์ของตัวเองในธุรกิจลูกหนังให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก 

อย่างไรก็ตาม คาดกันว่าหลังจากหมดสัญญากับ มาดริด มาร์เซโล่ จะยังคงโลดแล่นในผืนหญ้าต่อไปอย่างน้อยๆก็อีก 1-2 ฤดูกาล ที่ผ่านมามีการพูดคุยกับ ฟูลมิเนนเซ่ มาพักใหญ่ แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า 

เป็นไปได้ว่า มาร์เซโล่ ซึ่งกลพงัจะอายุครบ 34 ในเดือนพฤษภาคมปีหน้าจะยังคงอยู่ในยุโรปต่อ เพราะชีวิตและบ้านของเขาอยู่ที่กรุงมาดริด  เพียงแต่จะเป็นสโมสรใดก็เท่านั้น ซึ่งไม่ว่าจะลงเอยอย่างไร แฟนๆของเขา และมาดริดิสโม่ทุกคนคงหวังให้เขาประสบความสำเร็จด้วยดี เฉกเช่นยุคสมัยของเขากับทีม

นับแต่ ฟาบิโอ คาเปลโล่,แบรนด์ ชูสเตอร์,ฆวนเด้ รามอส,มานูเอล หลุยส์ เปเยกรินี่,โชเซ่ มูรินโญ่,คาร์โล อันเชล็อตติ,ราฟา เบนิเตซ,ซีเนดีน ซีดาน, ยูเลน โลเปเตกี,ซานติอาโก้ โซลารี่,ซีเนดีน ซีดาน (ยุคสอง) ,วนกลับมาที่ คาร์โล อันเชล้อตติ อีกคำรบ 

รวมเบ็ดเสร็จ 10 เทรนเนอร์,15 ฤดูกาล ,533 นัด กับอีก 22 โทรฟี่ ไม่มีอะไรที่จะยอดเยี่ยมไปกว่านี้อีกแล้วสำหรับ มาร์เซโล่ วีเอร่า ดา ซิลวา จูเนียร์ ตำนานแบ็กซ้ายอมตะของ เรอัล มาดริด 

เจมส์ ลา ลีกา