บิ๊กดีลที่สุด - ธีราทร บุญมาทัน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

 หลังจากปิดตำนาน 4 ปี ในการผจญภัยแดนปลาดิบ ตั้งแต่ปี 2018 กับ วิสเซล โกเบ กระทั่งพา โยโกฮามา เอฟ มารินอส คว้าแชมป์เจ ลีก ได้ในปี 2019 ด้วยผลงาน 3 ประตู 4 แอสซิสต์จากการลงสนาม 25 เกม, ปี 2020 ลงสนาม 26 เกม ทำได้ 4 แอสซิสต์ และปี 2021 ลงสนาม 27 เกม ทำได้ 2 แอสซิสต์

 6.6 ล้านบาท คือ ค่าสินสอดที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พา "บุตรสายฟ้า" กลับมาลุยกับทีมอีกครั้ง พร้อมกับรับเบอร์ใหม่อย่าง 55 ในการลุย 3 ถ้วยในไทย เพื่อภารกิจสำคัญในเดือน มี.ค.นี้ ที่จะต้องพาทีมลุย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2022 รอบเพลย์ออฟ ต้องถือว่า "ธีราทร บุญมาทัน" เป็นบิ๊กดีลที่สุดในตลาดรอบนี้จริงๆ

ดีลหักปากกาเซียน - นิติพงษ์ เสลานนท์ (ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด)

นับตั้งแต่ย้ายจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาอยู่กับ การท่าเรือ เอฟซี เมื่อช่วงเลกสอง ฤดูกาล 2015 โดยช่วยทีมคว้าแชมป์ ช้าง เอฟเอ คัพ มาครองเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี เมื่อฤดูกาล 2019 แต่แล้วในซีซั่น 2021/2022 ทีมได้ตัดสินใจซื้อ ฟิลิป โรลเลอร์ มาด้วยราคา 30 ล้านบาท อีกทั้งสัญญาที่ใกล้จะหมดลงและยังไม่มีการขยายออกไป ทำให้สถานะของเขาตกเป็นแค่พระรองโดยปริยาย

เขาจึงขอยกเลิกสัญญาออกมา ซึ่งเป้าหมายในตอนแรกมีความเป็นไปได้ทั้ง ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และลีกยุโรป ตามความฝันที่อยากไปออกไปผจญภัยสักครั้ง แต่การติดปัญหาเรื่องการออกวีซ่าให้คนต่างชาติที่ยากยิ่งขึ้นในช่วงสถานการณ์โควิด19 นิติพงษ์ จึงเลี้ยวไปสู่ ลีโอ เชียงรายฯ เพราะสโมสรนี้ได้สิทธิ์ลุยศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม ทันที ในฐานะแชมป์ ช้าง เอฟเอ คัพ 2020 อย่างไรก็ตามหากมีดีลจากต่างประเทศเข้ามาในระหว่างนี้ เจ้าตัวก็มีข้อตกลงร่วมกันกับทาง "กว่างโซ้ง" ว่าเขาสามารถย้ายไปได้ทุกเวลาขอเพียงมีออฟเฟอร์จริงๆ เท่านั้น

ดีลฟรีระดับทีมชาติ - สุพรรณ ทองสงค์ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)

"กัปตันเชน" ลาทีมบ้านเกิดอย่าง สุพรรณบุรี เอฟซี มาแบบไร้ค่าตัวหลังหมดสัญญา แต่ถือว่าเขาได้ตอบแทนสโมสรอย่างเต็มที่เมื่อได้รับโอกาสลงเล่น ทำงานอย่างหนักเพื่อพร้อมทุกๆ สถานการณ์ และไม่เคยทำให้แฟนบอล "ช้างศึกยุทธหัตถี" ต้องผิดหวังเลย ก่อนที่สุดท้ายเมื่อหมดสัญญาในช่วงสิ้นปี สุพรรณ จึงตัดสินใจเลือกย้ายมาลุ้นแชมป์ ไทยลีก 2021/2022 กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

 "แข้งเทพ"ทำผลงานในเลกแรกอย่างร้อนแรง ด้วยการเก็บไปถึง 32 แต้มจากการลงสนาม 15 นัด มีคะแนนเท่ากับ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพียงแต่มีผลต่างประตูได้-เสีย เป็นรอง จึงรั้งอันดับ 2 ของตารางคะแนน แต่การได้กลับมาร่วมงานกับ “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน ที่เคยอยู่ร่วมทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด เมื่อปี 2016 และ 2017 คือปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการตัดสินใจเลือกเดินทางครั้งใหม่อีกหน

ดีลจนวินาทีสุดท้าย - เฮนรี่ อานิเย่ร์ (เมืองทอง ยูไนเต็ด)

แม้ตลาดซื้อขายจะปิดไปหลายชั่วโมง แต่ช่วง 19.00 น. ของวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ในการคว้าตัว เฮนรี่ อานิเย่ร์ กองหน้าทีมชาติเอสโตเนีย ซึ่งผ่านการลงสนามให้ทีมชาติไป 70 นัด ตะบัน 17 ประตู โดยซีซั่นที่ผ่านมาฝากผลงานยอดเยี่ยมกับ ไพเด้ ลินนามีสคอนด์ ด้วยการตะบันไปถึง 34 ประตูจาก 34 เกม พร้อมกับทำอีก 12 แอสซิสต์

 โดย "กิเลนผยอง" ลงทะเบียนชื่อของหัวหอกรายนี้ทันในนาทีสุดท้าย เวลานี้ดาวเตะกล้ามโตกำลังอยู่ในระหว่างการกักตัวตามมาตรการโควิด-19 แม้ในช่วงแรกจะยังไม่สามารถลงเล่นได้ แต่หากพ้นกำหนดการกักตัว เขาจะพิสูจน์ให้แฟน "กิเลนผยอง" ได้เห็นสักทีว่าตอบโจทย์สำหรับตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าที่หาอยู่หรือไมา

ดีลดังสะท้านโลก - ฟาอิก เจฟรี่ โบลเกียห์ (มาริติโม่)

 เขาอยู่ในฐานะบุตรของเจ้าชายเจฟฟรี โบลเกียห์ พระอนุชาองค์เล็กของสุลต่านฮัสนัล โบลเกียห์ กษัตริย์ราชวงศ์บรูไน ที่มีทรัพย์สินราว 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 6 แสนล้านบาท) ชีวิตนักเตะเริ่มต้นเล่นฟุตบอลที่อังกฤษ ในฐานะแข้งเยาวชนของ เอเอฟซี นิวบิวรี่, เซาธ์แฮมป์ตัน, เชลซี, เลสเตอร์ ซิตี้ ก่อนจะขึ้นมาเล่นรุ่นใหญ่กับ มาริติโม่ ทีมในลีกโปรตุเกส 

แต่ในเลกสองของไทยลีก 2021/2022 "ฟาอิก เจฟรี่ โบลเกียห์" ต้องการพิสูจน์ตัวเอง จึงยอมฉีกสัญญากับทีมดังแดนฝอยทอง เพื่อย้ายมาอยู่กับ ชลบุรี เอฟซี จนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกเลยกับการคว้านักเตะที่ได้ชื่อว่ารวยที่สุดในโลกมาร่วมทีม ยิ่งไปกว่านั้น "เจ้าชายฟาอิก" แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการฝึกซ้อม อีกทั้งยอมรับเงินเดือนเพียงไม่กี่บาทและสวัสดิการอื่นๆ ในระดับเดียวกับแข้งรายอื่นๆ ในทีม "ฉลามชล" เพื่อเหตุผลเรื่อง "ฟุตบอล" เท่านั้น

ดีลแพงที่สุด - วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (ชลบุรี เอฟซี)

หากพูดถึงราคาค่าตัวนักเตะในการซื้อขายที่แพงที่สุด คงไม่มีใครเกิน วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ซื้อตัวมาจาก ชลบุรี เอฟซี ด้วยค่าตัว 30 กว่าล้านบาท (ตามรายงานข่าว) เท่ากับว่ากองกลางวัย 24 ปีผู้นี้ แพงยิ่งกว่า ธีราทร บุญมาทัน ที่โยกจาก โยโกฮามา เอฟ มารินอส เพื่อมาอยู่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึง 5 เท่าด้วยซ้ำ 

 ฟอร์มของ "ยิม" ในเลกแรกรวมถึงในทีมชาติไทยถือว่ากำลังอยู่ในช่วงมั่นใจสุดขีด ด้วยการยิงไปแล้ว 8 ประตู กับ 4 แอสซิสต์ ให้กับทัพ "ฉลามชล" แม้จะเป็นนักเตะลูกหม้อที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่ระดับเยาวชน แต่สาเหตุที่ทีมต้องยอมปล่อยเขาออกจากอ้อมอก เพราะบัญชีของสโมสรกำลังอยู่ในภาวะสีแดงเข้ม ฉะนั้นการขายกองกลางทีมชาติไทย ชุดแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ก็เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อคงสถานะการเงินให้มั่นคงที่สุดในสถานการณ์เศรษฐกิจแบบนี้

ดีลเยอะที่สุด - สุพรรณบุรี เอฟซี

 น่าจะเรียกว่าเป็นการสร้างทีมฟุตบอลอีก 1 ทีมขึ้นมาใหม่ก็ว่าได้ สำหรับ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่ปล่อยผู้เล่นไปกว่า 10 คน ไม่ว่าจะเป็น สุพรรณ ทองสงค์, ไดสุเกะ ซาโตะ, ดีเอโก ลอเรนซี, ฮาเหม็ด บัคห์เตียรี่, สีหนาท สุทธิศักดิ์, ชยพล ทรัพย์มา, ชมพู แสงโพธิ์, ศิริมงคล จิตบรรจง, ศุภวิชญ์ ร่มโพธิ์ภักดิ์, นราธิป เครือรัญญา และ แพทริค ไรเชลท์ 

 แต่ทีมก็ได้มีการเสริมทัพผู้เล่นเข้ามาใหม่ในเลกสอง เพื่อเป้าหมายอยู่รอดให้ได้มากถึง 11 ราย ประกอบด้วย จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์, พัชรพล อินทนี, ธนาเสฎฐ์ สุจริต, ศฤงคาร พรหมสุภะ, ศราวุธ ธรฤทธิ์, ธนพงษ์ บุญทับ, พลเอก มณีกร เจนเซ่น, วีระวุฒิ กาเหย็ม, จอง ฮัน-ชอล, วิลเลียม เอนริเก และ มูฮัมหมัด นาเซ กอและ ต้องมารอดูกันต่อไปว่าเปลี่ยนทีมขนาดนี้ผลงานจะออกมาเป็นแบบไหน

ดีลเซอร์ไพรส์ - พีที ประจวบ เอฟซี, เชียงใหม่ ยูไนเต็ด

นับเป็นตลาดที่ 2 ทีมนี้ทำได้อย่างฮือฮา หลังจาก พีที ประจวบ เอฟซี คว้าผู้เล่นเกมรับอย่าง ประวีณวัช บุญยงค์ กับ นุกูลกิจ ครุฑใหญ่ มาร่วมทีมแบบฟรีๆ ตามด้วย 2 ดีลสุดท้ายอย่าง "โชแปง-ปาแปง"ทิตาธร อักษรศรี และ ทิตาวีร์ อักษรศรี กองหลังดาวรุ่งฝาแฝด ดีกรีทีมชาติไทย U23 ที่ยืมตัวมาจาก การท่าเรือ เอฟซี รวมไปถึงนักเตะที่เซ็นมาก่อนหน้านี้ทั้ง ซุนนี ซาอัด ดาวยิงทีมชาติเลบานอน และสองแข้งทีมชาติฟิลิปปินส์อย่าง อามิน นาซารี่ กับ แพทริค ไรเชลท์ 

 ขณะที่ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ยืม 2 ผู้เล่นมาจากทีมเพื่อนบ้านอย่าง ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่เคยพาทีมคว้าแชมป์ไทยลีก 2019 ทั้ง บิลล์ โรซิมาร์ ที่ซัดไปแล้ว 8 ประตูในเลกแรก กับ เอกนิษฐ์ ปัญญา ดาวเตะมชาติไทย ที่ถูกส่งมาเพื่อโอกาสในการลงเล่นที่ต่อเนื่อง และเรียกฟอร์มกลับคืนมา หลังจากมีอาการบาดเจ็บอย่างหนักจากเกมทีมชาติ จนฟอร์มเก่งหายไปอย่างน่าใจหาย แม้จะเสริมน้อย แต่ 2 แข้งที่ทีม "ช้างเผือก" ได้มาต้องถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว