:::     :::

จับเข่าคุย เอ็นรีเก้ กาเซมีโร่

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เอ็นรีเก้ กาเซมีโร่ หนึ่งในมิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดในโลก นักเตะที่เล่นได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าเกมนั้นจะสวยงามหรือน่าเกลียดแค่ไหน ไปทำความรู้จักกับเขาเพิ่มอีกสักนิดผ่านบทสัมภาษณ์ครั้ล่าสุดนี้กันครับ

เอ็นรีเก้ กาเซมีโร่ มิดฟิลด์ตัวรับทีมชาติบราซิลของสโมสรเรอัล มาดริดให้สัมภาษณ์กับนิตยสารปาเนนก้าของสเปนถึงมุมมองของเขาที่มีต่อการเล่นฟุตบอล ซึ่งน่าสนใจมากว่าสิ่งที่เขาคิดในฐานะนักเตะที่เล่นเกมรับเป็นหลักนั้น การเล่นของเขามีคุณค่าและมีความหมายอย่างไร

เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณไม่อยู่ในสนาม เราทุกคนจะรู้สึกได้ทันที 

อันเชล็อตติ เพิ่งบอกกับผมวันก่อนว่า นายเป็นนักเตะเพียงไม่กี่คนที่สามารถเล่นเกมได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเกมที่สวยงาม หรือน่าเกลียด และอย่างรวดเร็ว เขาก็พูดกับผมต่อว่า ด้วยเหตุนี้นายจะเป็นตัวจริงในเกมโกปา เดล เรย์ กับ อัลโกยาโน่  ผมคิดว่าตรงจุดนี้ มันมาจากวัยเด็กของผม ผมสามารถลงเล่นได้ในทุกรูปแบบของเกม  


ตำแหน่งของคุณไม่ค่อยมีใครชอบเล่นเท่าไหร่ ?

ผมเคยอยากเป็นอย่าง โรนัลโด้ หรือ โรมารีโอ พวกเขาบอกผมว่าผมเล่นเหมือนพวกนั้นเลย แต่มันเป็นแค่เรื่องตลก , ใช่ เราทุกๆคนอยากเป็นอย่างนั้น รวมถึง เบเบโต้ ด้วย


การเปลี่ยนจากกองหน้ามาเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดในโลก

ผมมักเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดในทีม และมักเป็นลูกไล่ในนั้น ถ้าวันไหนมีแข่งตอน 5 โมงเย็น ผมจะไปถึงสนามตอนบ่ายโมง เพื่อดูว่าขาดผู้เล่นจากเกมที่แล้วคนไหนบ้าง

พวกเขาจับผมหมุนเล่นไปทุกตำแหน่ง ผู้รักษาประตูก็เคยมาแล้ว,เซนเตอร์ฮาล์ฟ,แบ็กรวมถึงมิดฟิลด์ตัวกลาง 

สำหรับผม มันง่ายที่จะเปลี่ยนตำแหน่ง เพราะผมสนุกกับการเล่นในทุกตำแหน่ง ผมไม่มีหงอถ้าจะจับผมไปเล่นเป็นแบ็ก หรือผู้รักษาประตู ผมรู้สึกเหมือนๆกัน 

มันไม่ยากเลยที่จะเลิกเล่นตำแหน่งศูนย์หน้าและปรับตัวเองให้เคยชินกับการเล่นตรงกลางสนาม ด้วยเหตุนี้จุดแข็งของผมก็คือความหลากหลายที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกสถานการณ์ของเกม ไม่ใช่แค่เรื่องของตำแหน่งการเล่นเท่านั้น 

แต่หมายรวมถึงถ้าหากว่ามันเป็นเกมที่สวยงาม ผมก็เล่นได้ และถ้ามันเป็นเกมที่น่าเกลียด ผมก็สามารถเล่นได้ และถ้าจะต้องอัดกันหนักๆ  ผมก็พร้อมอยู่ตรงนั้นเสมอ และถ้าจำเป้นต้องเอนจอยไปกับเกม ผมก็ทำได้อีกเช่นกัน  การปรับตัวนี้สะท้อนแรงปราถนาในการเล่นฟุตบอลของผมมาตั้งแต่สมัยยังเด็กๆ 



3 ประสาน 

สำหรับทีมฟุตบอล จะต้องมีทุกอย่าง ,ทั้งนักเตะที่มีคุณภาพ,นักเตะที่พร้อมจะวิ่งและช่วยเหลือทีม ยกตัวอย่างเช่นตอนที่เราพูดถึง โมดริช ,โครส และ กาเซมีโร่ คนนึงช่วยเหลืออีกคนนึง คนนึงเติมเต็มให้กับอีกคนนึง  คนนึงโดดเด่นเรื่องการพาสบอล อีกคนมีความดุดันแข็งแกร่ง และอีกคนมีเวทมนต์  หากปราศจากความเป็นหนึ่งเดียว และการช่วยเหลือเกื้อกูลกันแล้ว ก็ไม่อาจเล่นเป็นทีมได้ 

ด้วยเหตุนี้  สำหรับผมแล้วจึงนับเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้ช่วยเหลือ มาร์เซโล่ เพราะเขามีคุณภาพที่ผู้เล่นตำแหน่งแบ็กในโลกนี้ไม่อาจมี ผมตระหนักดีถึงสิ่งที่เขามอบให้กับทีม 


ความชื่นชมที่มีต่อ เมสซี่ 

เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่คิดถึง เมสซี่ , ผมเองก็เช่นกัน เรารู้สึกถึงการไม่มีเขา มันรู้สึกได้ชัดเจนหากพูดถึงตัวแทนของ บาร์เซโลน่า , เขาเป็นนักเตะที่ทำให้ทั้งโลกตกหลุมรักเมื่อได้ดูเขาเล่น ถ้าคุณชอบฟุตบอล คุณก็ต้องชอบ เมสซี่ เขาติดอันดับ 1 ใน 3 นักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์


คริสเตียโน่ กับ เมสซี่

ทั้ง เมสซี่ และ คริสเตียโน่ ต่างมีส่วนในการเปลี่ยนโฉมโลกฟุตบอล ก่อนหน้านี้ดาวซัลโวสูงสุด ส่วนใหญ่จะยิงกันแค่ 20-25 ประตู แต่ดมื่อพวกเขามา พวกเขาก็เริ่มยิงปีละ 40-50 หรือ 60 ประตู  มันดูเหมือนไม่น่าเป็นไปได้ พวกเขาได้ทำการเปลี่ยนแปลงกีฬาชนิดนี้ 

คริสเตียโน่ ยิงประตูได้มากกว่าจำนวนนัดที่เขาลงเล่นกับ เรอัล มาดริด มันเป็นอะไรที่บ้ามากๆ 

เมื่อไหร่ก็ตามที่นักเตะเช่นนี้ย้ายออกไป มันเป็นเรื่องธรรมดาที่คุณจะต้องคิดถึงเขา พวกเขาต่างสร้างยุคสมัยขึ้นมา แต่ผมคิดว่าเปลี่ยนแปลงเร็วก็ดีเหมือนกัน  บาร์ซ่า ต้องการก้าวไปสู่ยุคใหม่ ส่วน เรอัล มาดริด เองก็ต้องการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น 

บาร์ซ่า กำลังทำมัน ผมมั่นใจว่าทั้วสองสโมสรจะยังคงเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์




ประตูของคุณ 

ส่วนที่ผมสนุกที่สุดในเกมฟุตบอลก็คือตอนที่ขโมยบอลได้ ตอนจบเกมสิ่งแรกที่ผมต้องการดูก็คือผมแย่งบอลกลับมาได้กี่ครั้งและบล็อคลูกยิงได้อีกครั้ง เหล่านี้แหละคือสถิติของผม,มันประตูของผม และเป็นแอสซิสต์ของผม 

ทุกคนอาจต้องการที่จะยิงประตู แต่ว่าความสุขของผมก็คือการแย่งบอลจากคู่แข่งกลับคืนมาให้กับทีม 


2 นาทีครึ่ง

มีสถิตินึงที่น้อยคนจะรู้ โดยค่าเฉลี่ยแล้ว เกม 1 เกมจะใช้เวลาเล่นรวมกันประมาณ 97 นาที และนักเตะของ เรอัล มาดริด นั้นจะได้เล่นกับบอลเฉลี่ยคนละประมาณ 2 นาทีครึ่ง ส่วนอีก 95 นาทีที่เหลือของพวกเราหมดไปกับการวิ่ง ,ปิดช่องว่าง ,หนีตัวประกบ,ช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม 

หลายต่อหลายครั้งเราจับจ้องอยู่กับช่วงเวลาแค่ไม่ถึง 3 นาที แล้วก็พูดออกมาว่า “สุดยอดคุณภาพ” “มันเยี่ยมไปเลย” แต่ผู้คนกลับหลงลืมว่าช่วงเวลาที่เหลือพวกเราทำอะไรกันบ้าง 

มันเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องหยุดยั้งการเล่นโต้กลับของคู่ต่อสู้ ,ปิดพื้นที่ว่าง และบีบให้คู่ต่อสู้ถอยร่นกลับไปในแดนของพวกเขา นี่คือสิ่งที่มีอยู่ และฟุตบอลนั่นเล่นกันจริงๆ 97 นาที 


เจมส์ ลา ลีกา

     แปล &เรียบเรียง



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด