เคราร์ด ปีเก้ ตัดสินใจเดินออกจาก บาร์เซโลน่า เร็วก่อนเวลาอันควร หลังแนวรับวัย 35 ปีเป็นหนึ่งในกองหลังที่ยิ่งใหญ่สุดตลอดกาล จากความสำเร็จทุกอย่างทั้งระดับสโมสรและระดับชาติ 

แต่การตัดสินใจแบบกะทันหันดังกล่าวทำให้หลายคนรู้สึกประหลาดใจและเพื่อให้เขาใจถึงการจากไปของเซนเตอร์วัย 35 ปี มีเหตุผลมาจากอะไรบ้างไปดูกันครับ

'สัญญากับตัวเอง'

ปีเก้ เคยเปิดใจกับ 'เอล ปาอีส' สื่อเมืองกระทิงในช่วงเดือนตุลาคมปี 2021 ว่าเมื่อใดก็ตามที่เขารู้สึกว่าตนเองด้อยค่า ไม่มีบทบาทหรือความสำคัญกับทีม เมื่อนั้นเขาจะตัดสินใจจากไป

'แน่นอนว่าผมแก่แล้ว และเมื่อเห็นว่าผมไม่สำคัญเท่าที่ผมเคยเป็นมาตลอด ผมจะจากไป' ปีเก้ กล่าว 'ผมไม่ใช่คนเร็วที่ดี แต่ผมสามารถแข่งขันกับคนดีที่สุดและไม่รู้สึกว่าด้อยกว่า ตราบใดที่มันเป็นอย่างนั้น ผมจะเล่นต่อไป'

'ผมจะรีไทร์ที่ บาร์ซ่า นั่นแน่นอน สิ่งที่ผมไม่ยอมรับคือการรีไทร์ในฐานะสำรอง มาดูกันว่าหากเป็นช่วง 3 เดือนสุดท้ายของฤดูกาลและถึงเวลาที่ผมจะออกไปนั่งข้างนอก นั่นจะแตกต่างออกไป แต่ถ้าเป็นม้านั่งสำรองตลอดทั้งปี? ไม่, ผมไม่รู้สึกถึงมัน'

'เวลาลงเล่นน้อย'

ความเต็มใจที่จะจากไปของ ปีเก้ เกิดขึ้นก็ต่อเมื่อบทบาทในทีมของเขาลดลง ซึ่งเขาได้รับการทดสอบจาก ชาบี เอร์นานเดซ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2022 หลังเทรนเนอร์วัย 42 ปีแสดงความชัดเจนว่าแนวรับวัย 35 ปีจะไม่ใช่ส่วนสำคัญในอนาคตของทัพอาซูลกราน่า

ชาบี พร้อมผลักดัน โรนัลด์ อาเราโฮ กองหลังทีมชาติอุุรุกวัยขึ้นมาเป็นตัวหลักในแนวป้องกันของ บาร์เซโลน่า ก่อนทีมอาซูลกราน่าจะเซ็นสัญญากับกองหลังใหม่เพิ่มเติมอีกสองคนในช่วงซัมเมอร์ทั้ง ชูลส์ กุนเด้ กองหลังทีมชาติฝรั่งเศสจาก เซบีย่า และ อันเดรียส คริสเตนเซ่น เซนเตอร์ทีมชาติเดนมาร์กจาก เชลซี รวมถึงยังมี เอริก การ์เซีย เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก 

ปีเก้ จะหลุดมาเป็นตัวเลือกอันดับ 5 ถัดจาก อาเราโฮ, กุนเด้, คริสเตนเซ่น และ เอริก การ์เซีย สถานการณ์เริ่มชัดเจนมากขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมปี 2022 ซึ่ง ชาบี ตัดสินใจส่ง มาร์กอส อลอนโซ่ ซึ่งเป็นแบ็กซ้ายลงเล่นฐานะสำรองตำแหน่งเซนเตอร์ก่อน ปีเก้ ในเกมบุกชนะ บาเลนเซีย 1-0 

อลอนโซ่ ลงเล่นเซนเตอร์แทน เอริก การ์เซีย ที่บาดเจ็บในช่วงนาที 42 ทั้งที่ ปีเก้ อยู่บนม้านั่งสำรองด้วยเช่นกัน ก่อนเซนเตอร์วัย 35 ปีจะได้โอกาสลงสนามในช่วงนาที 74 แทน ชูลส์ กุนเด้ นั่นหมายความว่า ปีเก้ กลายเป็นตัวเลือกอันดับ 6 ในตำแหน่งเซนเตอร์ของ ชาบี ไปโดยปริยาย ขณะที่ ปีเก้ ยืนกรานว่าเขาไม่ต้องการเป็นสำรองตลอดทั้งซีซั่น

'ปัญหาทางการเงิน'

เบื้องหลังสถานการณ์ของ ปีเก้ คือเรื่องเงินที่น่ากลัวของ บาร์เซโลน่า ซึ่งสโมสรพยายามอย่างยิ่งที่จะลดงบประมาณค่าจ้างของพวกเขาและร้องขอให้นักเตะที่มีรายได้สูงยอมลดค่าจ้าง

สถานการณ์ของ ปีเก้ เรื่องเรื่องพิเศษในฐานะเซนเตอร์ สัญญาของเขาจะสิ้นสุดในช่วงซัมเมอร์ปี 2024 เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีรายได้สูงสุดของสโมสร โดยมีรายงานระบุว่ากองหลังวัย 35 ปีรับค่าจ้างเกือบสัปดาห์ละ 500,000 ยูโร

มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้สำหรับผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบในถิ่น 'สปอติฟาย คัมป์ นู' ว่าการจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวกับนักเตะที่ไม่ได้ใกล้เคียงกับการลงเล่นตัวจริงไม่สมเหตุสมผล ดังนั้นความกดดันจึงถาโถมเข้าใส่กองหลังวัย 35 ปีเพื่อให้นักเตะยอมลดค่าจ้าง

ขณะเดียวกันมีข่าวลือว่า บาร์เซโลน่า ภาวนาให้ ปีเก้ ตัดสินรีไทร์เช่นเดียวกัน หลังหมดหวังที่จะโน้มน้าวให้นักเตะยอมลดค่าจ้างเพื่อก้าวไปข้างหน้าหลังการปลดล็อคค่าเหนื่อยจำนวนมหาศาลของเซนเตอร์วัย 35 ปี 

'ธุรกิจส่วนตัว'

ปีเก้ เป็นเจ้าของบริษัท คอสมอส ซึ่งเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์กับ หลุยส์ รูเบียเลส ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปนคนปัจจุบัน บริษัทของกองหลังวัย 35 ปียังเคยถูกกล่าวหาว่าทำเงินหลายล้านยูโรในการนำรายการ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า รูปแบบใหม่ไปแข่งขันกันที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย 

ตามรายงานจาก 'เอล กอนฟีเดนซิอาล' สื่อจอมแฉของเมืองกระทิงอ้างว่าบริษัทของ ปีเก้ ทำเงินได้มากถึง 24 ล้านยูโรจากสหพันธ์ฟุตบอลสเปนจากการทำข้อตกลงเป็นเวลา 6 ปี 

แต่การทำข้อตกลงดังกล่าวไม่มีการโอนเงินโดยตรงระหว่าง รูเบียเลส กับ ปีเก้ ซึ่งได้รับเงินจากซาอุดิอาระเบีย ดังนั้นการจัดการดังกล่าวจึงถูกต้องตามกฎหมาย 

อย่างไรก็ตามการทำข้อตกลงดังกล่าวจะไม่สามารถทำได้อีกต่อไป หลังการออกกฎหมายกีฬาฉบับใหม่ มาตรา 47 ที่ระบุกฎที่ว่าห้ามนักเตะเคลื่อนไหวใดๆที่เชื่อมโยงกับการทำธุรกิจกับการแข่งขันที่พวกเขาอาจเข้าร่วมได้ 

แต่กฎหมายดังกล่าวจะไม่มีการดำเนินการย้อนหลังกับการทำข้อตกลงระหว่างสหพันธ์ฟุตบอลสเปนกับบริษัทของ ปีเก้ ก่อนหน้านี้ แต่จะไม่มีนักเตะคนใดทำธุรกิจเหมือนกองหลังวัย 35 ปีในอนาคต 

ปีเก้ ยืนยันมาตลอดว่าการทำธุรกิจกับสหพันธ์ฟุตบอลสเปนไม่ผิดกฎหมายและอ้างว่าค่าคอมมิสชั่นของเขานั่นเป็นเรื่องปกติและสอดคล้องกับตลาด

'ทุกอย่างที่เราทำนั้นถูกต้องตามกฎหมาย ผมจะเปิดเผยส่วนของผมในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ผมต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะผมไม่มีอะไรต้องปิดบัง'

'ผมภูมิใจกับสิ่งที่เราทำที่ คอสมอส เราต้องการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแข่งขันและทำให้ผู้ชมสนใจมากขึ้น ซึ่งมีผลกระทบต่อรายได้ ซึ่งประธาน หลุยส์ รูเบียเลส ชื่นชอบไอเดียนี้มาก'

'ซาอุดิอาระเบีย ไม่ใช่ทางเลือกเดียว สหรัฐอเมริกา และ กาตาร์ อยู่ในข้อเสนอเช่นเดียวกัน ในที่สุดพวกเขาตัดสินใจไป ซาอุดิอาระเบีย' 

'ค่าคอมมิสชั่น? ในโลกที่เราอาศัยอยู่นั้นค่อนข้างปกติ มันอยู่ระหว่าง 10-15 เปอร์เซ็นต์ และเราเชื่อว่ามันเป็นไปตามที่หน่วยงานเรียกเก็บในการจัดการประเภทนี้ ค่าคอมมิสชั่นเป็นไปตามตลาด' ปีเก้ กล่าว

อย่างไรก็ตามเมื่อกฎหมายใหม่ของ สเปน คลอดออกมาอาจเป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจในอนาคตของ ปีเก้ หากเขายังค้าแข้งต่อไป นั่นอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้กองหลังวัย 35 ปีประกาศรีไทร์ก่อนกำหนด

'ความรู้สึกไม่เหมือนเดิม' 

ปีเก้ ยังเปิดเผยกับ อีไบ ยาโนส ในสตรีมเมอร์ทวิตเตอร์โดยอธิบายว่าเขาวางแผนจะเดินจากไปเสมอเมื่อเขาไม่ได้เป็นผู้เล่นหลักในระดับสูงอีกต่อไป แต่การรีไทร์ของเขาเกิดขึ้นล่าช้าเนื่องจากสโมสรยังต้องการให้เขาอุดช่องว่างของทีมหลังการบาดเจ็บของผู้เล่นแนวรับหลายคน

'ทำไมต้องรีไทร์ในเดือนพฤศจิกายน? มีหลายเหตุผล หลายคนรู้ว่าดีผมเริ่มต้นซีซั่นด้วยการพูดคุยกับ ชาบี ซึ่งบอกผมว่ามันจะยากสำหรับเขาที่จะลงเล่น' 

'ความรู้สึกตั้งแต่แรกเริ่มไม่ได้ดีที่สุดโดยทั่วไป และผมเห็นว่าการหยุดพักเป็นโอกาสที่จะตัดสินใจ ผมมักจะพูดเสมอว่าเมื่อผมไม่สำคัญ ผมจะจากไป ถ้าไม่มีการบาดเจ็บในตำแหน่งของผม ผมจะได้ออกไปก่อนหน้านี้'

'ผมไม่รู้สึกเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว มีการฝึกซ้อมที่ คัมป์  หนึ่งวันหลังเกมที่ผมพูดว่า 'ผมกำลังจะจากไปแล้ว' ผมเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องของผมอีกต่อไป เมื่อ (ผู้เล่นคนอื่น) เริ่มบาดเจ็บ ผมพูดว่า 'ผมไม่สามารถออกจากทีมได้' นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมจากไปตอนพักฟุตบอลโลก'

'ประธานบาร์ซ่า'

ปีเก้ ยืนยันต่อหน้าสาวกบาร์เซโลน่าหลังการลงเล่นที่ 'สปอติฟาย คัมป์ นู' ครั้งสุดท้ายกับ อัลเมเรีย โดยกล่าวว่ามันเป็นเพียงการจากไปเพียงชั่วคราวเท่านั้นและเขาจะหวนคืนถิ่นเก่าในอนาคต ซึ่งหมายถึงกลับมาในบทบาทประธานสโมสรอย่างที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ 

การอำลาสโมสรของ ปีเก้ ไม่ใช่การจากลาที่ดีนักต่อ โจน ลาปอร์ต้า ประธานสโมสรคนปัจจุบัน รวมถึง ชาบี เอร์นานเดซ ซึ่งเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมและเป็นเจ้านายคนปัจจุบันของเขา 

ขณะเดียวกัน ปีเก้ ไม่ปิดบังความทะเยอทะยานของตนเองสำหรับการหวนคืนสโมสร นั่นหมายถึงการกลับมาท้าชิงบัลลังก์ของ ลาปอร์ต้า ในอนาคต 

'ไม่ช้าก็เร็ว ผมจะกลับมา แล้วพบกันที่ คัมป์ นู' บิสก้า บาร์ซ่า, ตลอดไปและตลอดกาล' ปีเก้ กล่าวในวันอำลาแฟนบอล

'ผมคิดว่าเมื่อถึงจุดหนึ่ง ผมจะต้องการเป็นประธานของ บาร์เซโลน่า' ปีเก้ กล่าวเพิ่มเติมกับ อีไบ ยาโนส

'ตอนนี้ผมไม่มีมันอยู่ในหัวแล้ว ผมต้องการทำอย่างอื่นอีกมากมาย การมีอิสระที่ไม่ต้องฝึกซ้อมทุกวันหรือในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่วุ่นวายกับการแข่งขันทำให้ผมมีสมาธิกับเรื่องอื่นๆ'

'ในอนาคต ผมอยากจะช่วยสโมสรในชีวิตของผมได้ใช้ศักยภาพอย่างเต็มที่' 

ส่วน ฆาเบียร์ เตบาส ประธาน ลา ลีกา แสดงความเห็นถึงประเด็นดังกล่าวโดยเชื่อว่า ปีเก้ มีศักยภาพเพียงพอสำหรับการนั่งเก้าอี้ประธานสโมสร บาร์เซโลน่า เช่นกัน

'ผมไม่สงสัยเลย' เตบาส กล่าวถึงความเป็นไปได้ในวันหนึ่งข้างหน้าที่ ปีเก้ จะกลับมาในฐานะประธานทีมอาซูลกราน่า

'เขามีคุณสมบัติ 3 ประการในการเป็นประธานบาร์เซโลน่า เขาอยู่ในสโมสรมา 25 ปี เขารู้จักโลกของฟุตบอลในฐานะนักเตะ และเขารู้จักอุตสาหกรรมฟุตบอลและกีฬาในฐานะนักธุรกิจ'

'เขารู้ว่าพวกเขามีแง่มุมที่แตกต่างกันมาก เขามีประสบการณ์ในการตัดสินใจในฐานะนักธุรกิจ ด้วยความสำเร็จและความล้มเหลวของเขา และเขาสามารถเป็นประธานที่ยิ่งใหญ่ของ บาร์เซโลน่า ผมเชื่อว่าเขาสามารถทำได้ ผมเชื่อว่าเขามีความสามารถที่จะทำเช่นนั้น'