:::     :::

ยอน ดาห์ล โทมัสสัน กับภารกิจปลุกชีพกุหลาบไฟ

วันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม 2566 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
855
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ในศึกแชมเปี้ยนชิพปีนี้ หลายคนพูดถึง โบโร่ กับผลงานอันยอดเยี่ยมของ ไมเคิ่ล คาร์ริค ที่พาทีมจากท้ายตารางขึ้นมาลุ้นเลื่อนชั้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ยังมีอีกหนึ่งอดีตสตาร์ดังที่ผันตัวเองมาเป็นกุนซือแล้วกำลังทำผลงานได้โดดเด่นแต่ถูกพูดถึงน้อย นั่นก็คือ ยอน ดาห์ล โทมัสสัน ของ แบล็คเบิร์น ครับ

โทมัสสัน โด่งดังจากการเล่นให้ ฮีเรนวีน ตั้งแต่อายุแค่ 18 ปี เขายึดตำแหน่งดาวซัลโวประจำทีมถึง 2 ปีติดทั้งที่เล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวต่ำ โดยยิงได้ 44 ประตูจาก 87 นัด แถมยังคว้ารางวัลดาวรุ่งพรสวรรค์สูงประจำลีกดัตช์ปี 1996 ซึ่งเบียดเอาชนะ พาทริค ไคลเวิร์ต และ เบาเดอไวน์ เซนเด้น ได้อีกต่างหาก


กราฟชีวิตของเขากำลังไปได้สวย ชื่อเสียงในความเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองของเขาโด่งดังไปถึงอังกฤษ โดยในปี 1997 เคนนี่ ดัลกลิช ตัดสินใจซื้อตัวของ โทมัสสัน มาร่วมทีม นิวคาสเซิ่ล ในราคา 2.2 ล้านปอนด์ 


ในตอนแรก ดัลกลิช ตั้งใจจะให้ โทมัสสัน เล่นหน้าต่ำแล้วใช้ เชียเรอร์ เป็นตัวจบสกอร์ แต่ว่าฮอตชอตมาได้รับบาดเจ็บเล่นงาน แถม เลส เฟอร์ดินานด์ ก็ย้ายไป สเปอร์ส อีกคน จึงทำให้ต้องปรับเปลี่ยนจากกองหน้าตัวต่ำมาเป็นตัวจบสกอร์แทน 


โทมัสสัน ไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้ที่อังกฤษ เขาเล่นให้ทัพสาลิกาดงแค่ปีเดียว ยิงได้ 4 ประตูจาก 35 นัดรวมทุกรายการ ก่อนจะย้ายไปหลบเลียแผลใจกับ เฟเยนูร์ด ในปีต่อมา


เมื่อได้กลับมาเล่นในลีกที่คุ้นเคยบวกกับการได้อัพเกรดฝีเท้ามาแล้วในอังกฤษ โทมัสสัน จึงเล่นได้อย่างสะเด็ดสะเด่าและเป็นหัวใจหลักในเกมรุกที่ทีมขาดไม่ได้เลย


เขายิงประตูให้ เฟเยนูร์ด ไป 70 ลูกจาก 152 นัดรวมทุกถ้วย โดยที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ฤดูกาลละ 17 ประตู เขาเป็นพาร์ทเนอร์ในแดนหน้าที่เข้าขารู้ใจกับ ปิแอร์ ฟาน ฮอยดองค์ ในช่วงปี 2001-03 ไฮไลต์เด่นคือการช่วยกันพา เฟเยนูร์ด คว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ ฤดูกาล 2001-02 ซึ่งเขากับ ฟาน ฮอยดองค์ ยิงรวมกันถึง 12 ประตู แถมยังควงคู่กันทำประตูในเกมรอบชิงชนะเลิศได้อีกด้วย


โทมัสสัน ได้ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในนัดชิง ก่อนที่หลังจบเกมดังกล่าว เขาจะย้ายไปร่วมทัพ เอซี มิลาน แบบไม่มีค่าตัว


ชีวิตที่อิตาลีของเขาไม่ถือว่าล้มเหลว โทมัสสัน ทำผลงานได้ค่อนข้างดีแม้จะมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยครั้งก็ตาม เขาอยู่กับทีม 3 ฤดูกาล ยิงให้ทีมปีแรก 11, ปีที่สอง 15 และปีสุดท้ายยิงได้ 9 ประตู


อันเดร เชฟเชนโก้ บอกว่า โทมัสสัน เป็นคนที่ช่วยให้เขามีพื้นที่ในการเล่นมากขึ้น เป็นคนที่ไม่เห็นแก่ตัวเวลาอยู่ในพื้นที่สุดท้าย ขณะที่ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือของทีมก็กล่าวชมเขาไม่น้อยไปกว่ากัน โดยเฉพาะเรื่องทัศนคติ


"วิธีการทำงานของ โทมัสสัน ทำให้ผมประทับใจ" อันเช่ เล่า "เขาทุ่มเททุกครั้งเวลาซ้อม เป็นมืออาชีพและมีทักษะสูง ผมคิดว่าคนที่ทำผลงานได้ดีและแสดงความต่อเนื่องมากที่สุดคือ ยอน ดาห์ล โทมัสสัน นี่แหละ คุณลองคิดดูว่าในช่วงนั้นเขาต้องต่อสู้เพื่อแย่งตำแหน่งในทีมกับนักเตะระดับโลกมากมาย เขาไม่เคยมีช่วงเวลาที่ง่าย แต่เขาไม่เคยยอมแพ้และพยายามใช้ทุกโอกาสที่ได้รับอย่างคุ้มค่าเสมอ"




โทมัสสัน คว้าแชมป์กับ เอซี มิลาน ครบถ้วนทุกรายการเลยนะครับตลอด 3 ฤดูกาลที่เล่นด้วย เขาได้สคูเด็ตโต้, โคปปา อิตาเลีย, ซูเปอร์ โคปปา อิตาเลียน่า, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 


ในปี 2005 เขาย้ายไปอยู่กับ สตุ๊ตการ์ท ด้วยค่าตัว 7.5 ล้านยูโร โดยไปเล่นกับเพื่อนร่วมชาติชาวเดนมาร์กอย่าง เยสเปอร์ กรุนชาร์ เขาอยู่ที่เยอรมนี 2 ปีก็ถูกปล่อยยืมไปเล่นในสเปนกับ บียาร์เรอัล ก่อนจะตัดสินใจกลับไปอยู่ เฟเยนูร์ด รอบสองตอนปี 2008


กลับมารอบนี้เขาเล่นให้ทีมอีก 3 ฤดูกาลก่อนจะแขวนสตั๊ดในปี 2011 เพราะทนกับอาการบาดเจ็บเรื้อรังไม่ไหว อย่างไรก็ดี ขนาดเจ็บออด ๆ แอด ๆ เขายังอุตส่าห์ยิงให้ เฟเยนูร์ด ได้ถึง 22 ประตูจาก 44 นัดเลยทีเดียว


เมื่อเลิกเล่น โทมัสสัน ก็พาตัวเองเข้าสู่งานโค้ชอย่างเต็มตัว เขาเคยเป็นผู้ช่วยโค้ชทีมชาติเดนมาร์กนาน 4 ปี ก่อนจะย้ายมาเป็นกุนซือของทีม มัลโม่ และพาทีมคว้าแชมป์ลีกสวีเดนได้ถึง 2 สมัยติด อีกทั้งยังได้รับรางวัลกุนซือยอดเยี่ยมประจำปี 2020 อีกด้วย


ในช่วงซัมเมอร์ปีที่ผ่านมา โทมัสสัน ถูกดึงตัวมาคุม แบล็คเบิร์น ด้วยสัญญายาวถึงปี 2025 และมีเป้าหมายหลักคือการพาทีมกลับมาเล่นในลีกสูงสุดให้ได้


ผลงานของเขาไม่แย่เลยครับ ตอนนี้พาทีมรั้งอันดับ 5 มีลุ้นเลื่อนชั้นอย่างน้อย ๆ ก็ได้เล่นในรอบเพลย์ออฟ โดยมีคะแนนตามหลังอันดับสองอยู่ 9 คะแนน และห่างจากอันดับที่ 7 อยู่ 3 คะแนน 


ทีมของเขาเด่นในเรื่องเกมรุกครับ ยิงได้ 41 แต่ก็เสียไป 41 เช่นกัน มีทีเด็ดจากเซตพีซพอสมควร และมี เบน เบเรตัน เป็นกองหน้าตัวหลักยิงไป 11 ลูกในลีก โดย โทมัสสัน เคยพาทีมไม่แพ้ใครในลีกนาน 8 นัดติด แถมยังพาทีมเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย เอฟเอ คัพ อีกต่างหาก


กุหลาบไฟของ โทมัสสัน เป็นอีกทีมที่น่าเชียร์ และเป็นอดีตทีมดังที่เชื่อว่ามีแฟนบอลในไทยตามอยู่เยอะพอสมควร หากเขาพาทีมเลื่อนชั้นได้สำเร็จ เขาก็คู่ควรกับคำชมไม่แพ้ ไมเคิ่ล คาร์ริค เลยทีเดียว


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด