โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าทีมชาติโปแลนด์ทำให้หลายคนเลิกคิ้ว หลังการตัดสินใจย้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค มาค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ในช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้วด้วยวัย 34 ปี ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทัพอาซูลกราน่าที่กำลังสร้างทีมใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกจากทีมดังแคว้นบาวาเรียที่แทบจะการันตีความสำเร็จในแต่ละฤดูกาล

เลวานดอฟสกี้ เป็นผู้นำดาวซัลโวของ ลา ลีกา ในขณะนี้ หลังการทำ 15 ประตูและ 5 แอสซิสต์จากการลงเล่น 21 เกม นั่นเป็นสถิติที่น่าประทับใจ หากพิจารณาจากดาวยิงชาวโปลถูกแบน 3 เกมเนื่องจากการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่อผู้ตัดสินในเกมบุกชนะ โอซาซูน่า 2-1

แม้ฟอร์มของ เลวานดอฟสกี้ จะดูแผ่วลงเล็กน้อยหลังกลับมาจากฟุตบอลโลก 2022 แต่การทำประตูน้อยลงและการเป็นภัยคุกคามในกรอบเขตโทษลดลงจากช่วงต้นฤดูกาลอย่างเห็นได้ชัด แต่หัวหอกวัย 34 ปียังทำได้ 2 ประตูจาก 3 เกมหลังสุด

เลวานดอฟสกี้ มีโอกาสจับเข่าพูดคุยกับ บาร์ซ่า แม็กกาซีน โดยมีหัวข้อสนทนามากมายที่เกี่ยวข้องกับสโมสร รวมถึงเรื่องอนาคตของเขาด้วยเช่นกัน โดยเริ่มต้นพูดถึงความคาดหวังของทีมในฤดูกาลนี้ว่า 'เราต้องเชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปได้ แต่มันยังเร็วเกินไปที่จะคิดเกี่ยวกับการคว้าแชมป์สองรายการ ในลีก เราอยู่ในตำแหน่งที่ดี แต่ยังมีเกมอีกมาก และเราต้องแสดงให้เห็นว่าเราทำได้ดีกว่าเกมที่เราชนะ 1-0'

ก่อนจะพูดถึงรายการ โกปา เดล เรย์ ที่ บาร์เซโลน่า บุกชนะ เรอัล มาดริด ในรอบตัดเชือก นัดแรก ว่า 'เป้าหมายของเราคือการไปถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ก่อนอื่น เราต้องกำจัด เรอัล มาดริด ในรอบรองชนะเลิศ สำหรับเรา เกมสำคัญที่สุดในการคว้าชัยชนะในเกมถัดไป เรายังไม่ได้คิดเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นตอนสิ้นสุดฤดูกาล'

'เลวาน' ยังกล่าวย้อนถึงการตกรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีกว่า 'ในช่วงแรกของฤดูกาล การบาดเจ็บ 5 หรือ 6 ครั้งทำให้เราพบกับเรื่องราวที่ซับซ้อนสำหรับเรา เรามีสตาฟฟ์อายุน้อยและมันเป็นประสบการณ์สำหรับทุกคน มันยากสำหรับเรา โดยเฉพาะในแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งบางครั้งความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆก็มีค่าใช้จ่ายสูง'

ต่อด้วยการพูดถึงการตกรอบเพลย์ออฟยูโรปาลีกจากการปราชัยต่อ แมนฯยูไนเต็ด ว่า 'มันเป็นเกมที่สูสีมากทั้งสองนัด ที่ แมนเชสเตอร์, เรามีโอกาสที่จะเสมอในช่วงครึ่งหลัง แม้ ยูไนเต็ด จะบุกใส่เราและกดดันเราอย่างหนักก็ตาม ตอนนี้เราโฟกัสไปที่ลีกและบอลถ้วย'

กองหน้าชาวโปลยังกล่าวถึงอนาคตของ ดีเอ็นเอ บาร์ซ่า ว่า 'ผมรู้ว่าด้วย ดีเอ็นเอ ของ บาร์ซ่า เราต้องมองหาเกมที่ดีอยู่เสมอ แต่เราต้องเข้าใจด้วยว่าฟุตบอลกำลังเปลี่ยนแปลงไป ตัวอย่างเช่น เกมของ บาร์ซ่า เมื่อ 10 ปีก่อนอาจไม่ได้ผลในตอนนี้ เราต้องปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลและสอนสิ่งดีสุดที่เรามี'

ก่อนจะกล่าวเพิ่มเติมถึงความจำเป็นในการปรับตัวเข้ากับเกมในปัจจุบันว่า 'คุณต้องหาสถานการณ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับสถานที่ที่คุณอยู่ และสำหรับฟุตบอลในขณะนั้น ฟุตบอลตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อ 10 หรือ 15 ปีที่แล้ว ตีกี-ตาก้า อาจใช้ไม่ได้ผลในวันนี้ คุณต้องค้นหาความสมดุลและทางออกที่สมบูรณ์แบบระหว่างผู้เล่นที่คุณมีกับฟุตบอลในขณะนั้น'

เมื่อถูกถามว่าการปรับมาใช้งานมิดฟิลด์ 4 คนของ ชาบี เอร์นานเดซ สร้างประโยชน์แก่เขาหรือไม่ เลวานดอฟสกี้ ตอบว่า 'มันไม่เกี่ยวกับแท็คติกที่เราใช้หรือระบบการเล่น ในฟุตบอลสมัยใหม่ คุณต้องรู้จักปรับตัวให้เข้ากับระบบต่างๆ'

จากนั้นดาวยิงวัย 34 ปีกล่าวถึงการปรับตัวของเขาว่า 'คุณต้องรู้ว่าต้องทำอะไรในสนาม ขึ้นอยู่กับแท็คติกที่คุณใช้ สิ่งสำคัญคือต้องปรับตัวและรู้วิธีการย้ายไปในแต่ละระบบ มันไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับผม เพราะผมเคยชินกับการเล่นทุกระบบ'

เลวานดอฟสกี้ ยังกล่าวถึงสิ่งที่ทำให้ ชาบี เป็นเทรนเนอร์ที่ยอดเยี่ยมว่า 'เขาเคยเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมและเล่นมิดฟิลด์ ดังนั้นเขาจึงมองเห็นสนามจากมุมมองตรงกลาง นั่นเป็นเหตุผลที่เขาสามารถมองเห็นหลายสิ่งหลายอย่าง วิธีการเล่นกับบอล วิธีการเล่นโดยไม่มีบอล'

'เขามักจะบอกเราเสมอว่าเราควรจะเปลี่ยนไดนามิกของเกม โดยที่เราไม่ต้องรอจนถึงช่วงพักเพื่อเปลี่ยนแปลงบางอย่าง จากด้านแท็คติก เขามีความชัดเจนมากเกี่ยวกับสิ่งที่เราควรทำ และในฐานะเทรนเนอร์ เขาเพิ่มคุณค่าให้กับคำพูดของเขา ซิ่งทำให้นักเตะฟังเขาและเข้าใจเขา'

กองหน้าวัย 34 ปียังกล่าวถึงการเล่นเกมป้องกันที่แข็งแกร่งของทีมอาซูลกราน่าว่า 'แนวทางการเล่นของเราในแนวป้องกันนั้นดีมาก และชัดเจนว่าเรามีนักเตะที่ดีมากในตำแหน่งนี้ แนวรับที่ปลอดภัยช่วยให้ทำประตูได้ง่ายขึ้น เพราะมันโอเค ถ้าเราพยายามทำสิ่งใหม่ๆ เราไม่กลัวที่จะเสี่ยงและพยายามหาหนทางในการเล่นเกมรุก'

เลวานดอฟสกี้ ยังกล่าวถึงบรรดาแข้งดาวรุ่งของทีมอาซูลกราน่าว่า 'เรามีนักเตะอายุน้อยจำนวนมาก, มีศักยภาพมหาศาลและมีประสบการณ์ ในวัยนี้ การมีเวลาลงเล่นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แม้ว่าพวกเขาจะต้องการมากกว่านี้ก็ตาม'

จากนั้นดาวยิงชาวโปลยังกล่าวถึงการสร้างความสมดุลระหว่างผู้เล่นประสบการณ์กับนักเตะดาวรุ่งว่า 'ในทางกลับกัน ความสมดุลระหว่างผู้เล่นดาวรุ่งและนักเตะประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญในทีม และเรามีสิ่งนี้ สิ่งสำคัญคืออย่าตั้งความคาดหวังสูงเกินไป เพราะในระยะยาวอาจส่งผลเสียต่อพวกเขาได้'

ก่อนจะกล่าวถึงการให้คำแนะนำของเขาต่อนักเตะดาวรุ่งว่า 'ผมพยายามช่วยเพื่อนร่วมทีม ไม่ใช่แค่การทำประตูเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพฤติกรรมและความคิดของผมด้วย ให้มุมมองของผมเกี่ยวกับการแข่งขัน บางครั้งผมมองเห็นสถานการณ์ที่ผมสามารถเปลี่ยนแปลงได้ นักเตะอายุน้อยไม่เพียงแค่ทำงานในสนามเท่านั้น พวกเขายังทำงานเกี่ยวกับความคิดของพวกเขาด้วย และนั่นเป็นสิ่งที่ดีมาก'

เลวานดอฟสกี้ ยังกล่าวถึงการปิดปากพวกนักวิจารณ์เขาด้วยสถิติการทำประตูว่า 'ผมไม่เคยคิดแบบนี้ ในส่วนของผม ผมมักจะถูกเพ็งเล็งจากคนจำนวนมากที่เชื่อว่าผมไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตัวเองตั้งไว้ได้'

'ผมพยายามที่จะรู้ว่าเพื่อนร่วมทีมของผมอยู่ที่ไหนเสมอ เมื่อผมมีนักเตะหนึ่งหรือสองคนอยู่ด้านบน ผมพยายามมองไปรอบๆ เพื่อหาเพื่อนร่วมทีมที่มีพื้นที่ว่างในการส่งบอล เพื่อสร้างสถานการณ์ที่อันตราย แม้ว่าผมจะไม่มีโอกาสทำประตู แต่ผมพยายามใช้การเคลื่อนที่เพื่อเพื่อนร่วมทีมของผม'

เมื่อถูกถามถึงระยะเวลาที่เขาจะเล่นที่ บาร์เซโลน่า, เลวานดอฟสกี้ ตอบว่า 'ตอนนี้ผมยังไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะผมรู้ว่าตัวเองยังสามารถเล่นในระดับสูงได้อีกหลายปี ส่วนจะเล่นกับพวกเขานานแค่ไหน? เราจะได้เห็นกัน ผมแน่ใจว่ามันไม่ใช่แค่ 1 หรือ 2 ปี มันจะมากกว่านั้น มันคงจะดีมากถ้ามันนานสุดเท่าที่จะเป็นไปได้'

สุดท้าย เลวานดอฟสกี้ ยังกล่าวเกี่ยวกับสโลแกนของ บาร์เซโลน่า ที่เป็นมากกว่าสโมสรว่า 'ที่นี่ใน บาร์เซโลน่า ตอนนี้ผมเข้าใจความหมายของคำว่ามากกว่าสโมสรแล้ว เมื่อคุณเข้าไปข้างใน และคุณเห็นว่าทุกอย่างทำงานอย่างไร ผู้คนทำงานอย่างไร คุณดูแลตัวเองอย่างไร คุณจะเข้าใจความหมายอย่างแท้จริง'