:::     :::

"เจ-เช็ค" ต้องอดทนรอโอกาสพิสูจน์ฝีเท้า

วันอังคารที่ 14 มีนาคม 2566 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
967
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ศึกลูกหนังเจลีก ญี่ปุ่น ฤดูกาล 2023 เปิดฉากแข่งขันมา 4 เกมแล้ว แต่แฟนบอลไทยค่อนข้างผิดหวัง เพราะ 2 นักเตะจากแดนสยาม ไม่ว่าจะเป็น สุภโชค สารชาติ และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยังไม่มีโอกาสลงสนามโชว์ฝีเท้าแบบเต็มๆ เลย

โดย สุภโชค ได้ลงสนามเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 88 ในเกมเจลีกที่ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร่ เปิดบ้านแพ้ วิสเซล โกเบ ไป 1-3  

ขณะที่ ชนาธิป ยังไม่ได้รับโอกาสจาก เทรุ โอนิกิ กุนซือของ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ลงสนามเลยแม้แต่วินาทีเดียว แม้เจ้าตัวจะเคยให้สัมภาษณ์ว่า โอนิกิ ชื่นชมและชื่นชอบฝีเท้าเขามากก็ตาม 

ทำให้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงของ 2 นักเตะทีมชาติไทย ตกไปอยู่ในฟุตบอลถ้วย ลูวาน คัพ


โดย “เจ” ลงสนามเป็นตัวจริงเกมแรกของฤดูกาลนี้ มีเวลาโชว์เพลงแข้งไป 80 นาที สามารถทำผลงานดี แถมยิงประตูสุดสวยได้ด้วย แต่ทีมดันแพ้ ชิมิสุ เอสพัลส์ จากเจทู หวุดหวิด 2-3 

ขณะที่ “เจ้าเช็ค” เจอเหตุการณ์สุดเซอร์ไพรส์ ในการประเดิมสนามเป็นตัวจริงนัดแรกในฤดูกาลนี้ในเกมดวลกับ ซางัน โทสุ เพื่อนร่วมศึกเจลีก เมื่อ มิไฮโล เปโตรวิช กุนซือขรัวเฒ่าของทีม “นกฮูกเมืองเหนือ” จับไปเล่นเป็นแบ็คขวา ในฟุตบอลถ้วยรายการเดียวกัน 

ซึ่งอดีตกองกลาง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีโอกาสลงไปปล่อยของ 64 ก่อนโดนกระชากตัวออกจากสนาม 


ซึ่งฟอร์มต้องบอกว่า ความเลวไม่มี ความดีไม่ปรากฎ เพราะเกมจบลงด้วยการเสมอแบบโนสกอร์

ตัดภาพไปที่ฟอร์มการเล่นสุดเทพของ “เจ” ทำให้แฟนบอลแอบหวังว่าเขาจะได้มีส่วนร่วมในศึกเจลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่าน 

แต่ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เมื่อเขายังไม่มีส่วนร่วมกับทีมในศึกเจลีก นัดที่บุกไปแพ้น้องใหม่ อัลบิเร็กซ์ นิงาตะ สุดช็อคด้วยสกอร์ 1-0 

ส่วน “เจ้าเช็ค” ยังคงใช้เวลาอยู่บนม้านั่งสำรองตามเดิม ในเกมเปิดบ้านเอาชนะแชมป์เก่า โยโกฮาม่า มารินอส ไป 2-0 


ในรายของ “เจ” ถือว่าน่าสงสัยและน่าเห็นใจ เพราะเขาปรับตัวกับทีมได้แล้ว และมีส่วนร่วมกับทีมเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาไม่น้อย 

แถมปีนี้สภาพร่างกายของเขาก็ฟิตเต็มถัง ขณะที่แดนกลางของทีมก็แทบไม่มีตัวสร้างสรรค์เกมเลย ส่วนใหญ่จะเป็นตัวตัดเกม แต่ในเกมที่เจอทีมที่ไม่แกร่งมาก หรือทีมเจอสถานการณ์ที่ตกเป็นรอง การจ่ายบอลแบบคิลเลอร์พาส หรือความคล่องแคล่วของ “เจ” น่าจะช่วยทีมได้ไม่น้อย แต่ โอนิกิ กลับมอง “เจ” เหมือนมนุษย์ล่องหน ไม่มีตัวตนเลย 

ส่วน “เจ้าเช็ค” ยังถือว่าพอเข้าใจได้ เพราะยังอยู่ในช่วงปรับตัว แม้จะได้ชิมลางเมื่อฤดูกาลไปแล้วก็ตาม แต่เชื่อว่า เปโตรวิช พยายามปรับจูนเครื่องเขาอยู่ โดยเฉพาะเรื่องการเล่นเกมรับ 


เจ้าตัวเองก็ยังอายุน้อยและพร้อมเรียนรู้ รวมถึงพยายามอย่างมากเพื่อชิงตำแหน่งตัวจริงของทีมให้ได้ สภาพของทั้งคู่ตอนนี้ทำได้เพียง “อดทน” และ “รอโอกาส” ลงสนามเท่านั้น 

ในฐานะแฟนบอลได้เพียงแค่ให้กำลังใจ และหวังว่าฟ้าจะเปิดและโอกาสลงสนามจะพุ่งเข้าหาทั้งคู่เร็วๆ 

ส่วนแฟนบอลที่ไปเกรียนและโจมตีเพจของ 2 สโมสรทั้ง ซัปโปโร และ ฟรอนตาเล่ รวมทั้งพยายามชวนทั้งคู่กลับมาเล่นในไทยลีกอีกครั้ง ควรจะเปลี่ยนความคิดและส่งกำลังใจให้ทั้งคู่สู้ดีกว่า 


หากสู้เต็มที่แล้ว เมื่อหมดสัญญาจะกลับมาเล่นในไทยลีกอีกครั้งก็ไม่สาย ดังนั้นนี่คือช่วงพิสูจน์หัวใจของทั้งคู่จริงๆ

สุดท้ายหวังเหลือเกินว่าทั้ง “โค้ชโอนิกิ” กับ “โค้ชมิช่า” จะไม่ใจร้าย ตัดอนาคตของทั้งคู่ด้วยการไม่ส่งลงสนามเลย


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด