การมาของ ท็อดด์ โบห์ลี่ สร้างความตื่นเต้นให้กับสาวก "สิงโตน้ำเงิน" ในช่วงสั้นๆกับการทุ่มเงินไม่อั้นเสริมทีมด้วยเม็ดเงินมหาศาล แต่ด้วยผลงานที่ย่ำแย่ทำให้ทีมเปลี่ยนผู้จัดการทีม 2 คนในซีซั่นเดียวเป็นตัวบ่งบอกอยู่แล้วว่ามันล้มเหลว
ตอนนี้ "สิงห์บลูส์" กำลังอยู่กับความฝันครั้งใหม่กับการเตรียมตัวได้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มาคุมทีม ซึ่งเป็นคนที่ได้รับการยอมรับเรื่องของฝีไม้ลายมือ
แต่ว่าทุกอย่างไม่ควรจะจินตนาการเพียงอย่างเดียว เพราะในวงการฟุตบอลนั้นมีคำพูดที่ว่า "สถิติไม่เคยโกหก" และนี่คือผลงานของกุนซือชาวอาร์เจนติน่ากับการเผชิญหน้าทีมใน "บิ๊ก 6" ของพรีเมียร์ลีก
อาร์เซน่อล
แข่ง 15 ชนะ 4 เสมอ 7 แพ้ 4
ถือเป็นเกมใหญ่จริงๆสำหรับการเจอกับ อาร์เซน่อล เมื่อมองไปที่การคุม สเปอร์ส เพราะนี่คือเกม "นอร์ท ลอนดอน ดาร์บี้" ที่เข้มข้นไม่แพ้ที่ไหนในโลก
อย่างไรก็ตามบ่อยครั้งในการเจอกับ "ปืนใหญ่" ในฐานนายใหญ่แห่ง "ไก่เดือยทอง" ไม่ใช่งานง่ายเลย โดยเจ้าตัวพาทีมชนะเพียง 3 จาก 13 ครั้งที่เจอกัน
แต่ถึงกระนั้น โปเช็ตติโน่ พา สเปอร์ส จบในอันดับที่เหนือกว่า อาร์เซน่อล สองปีหลังกับสโมสร พร้อมกับสถิติไม่เคยแพ้เกมในบ้านในการเจอกับคู่ปรับทีมนี้ด้วย
ส่วนการคุม เซาธ์แฮมป์ตัน นั้นเจ้าตัวพาทีมชนะกับเสมอในการเจอ อาร์เซน่อล ในฤดูกาล 2013/14
เชลซี
แข่ง 17 ชนะ 6 เสมอ 2 แพ้ 9
กับการเจอทีมที่กำลังจะเป็นสโมสรใหม่ของตัวเองถือว่าไม่ง่ายกับการชนะ 6 และแพ้ไป 9 เกมจากการเจอกันทั้งสิ้น 17 นัด
แน่นอนว่าที่น่าเจ็บใจที่สุดคือโอกาสในการคว้าแชมป์ของเขากับสโมสรถูกดับฝันในการเจอกับ "สิงห์บลูส์" นั่นเอง โดยแพ้ 2-4 ในเกมชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ 2017 ที่เวมบลีย์ และแพ้ในเกมน็อคเอาศึกคาราบาว คัพ เมื่อปี 2019
นอกจากนี้ เชลซี ยังทำได้ดีกว่าในเกมชิงชนะเลิศคาราบาว คัพย้อนไปเมื่อปี 2015 โดยชนะ 2-0 จากประตูของ จอห์น เทอร์รี และ ดีเอโก้ คอสต้า
แต่ที่น่าเจ็บใจที่สุดต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 ในเกม "แบทเทิ่ล ออฟ เดอะ บริดจ์" ที่ สเปอร์ส นำ 2-0 ในครึ่งแรกแต่สุดท้ายโดนตามตีเสมอ 2-2 ทีมให้ทีมหมดหวังที่จะลุ้นแชมป์หลังขับเคี่ยวกับ เลสเตอร์ ซิตี้ มาอย่างสนุก
ลิเวอร์พูล
แข่ง 16 ชนะ 3 เสมอ 4 แพ้ 9
แฟนบอลของ เชลซี คงหวังว่า เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ จะสามารถปรับปรุงสถิติกับการเจอ ลิเวอร์พูล หากเข้ารับตำแหน่งนายใหญ่แห่งสแตมฟอร์ด บริดจ์
กุนซือชาวอาร์เจนติน่าเก็บชัยชนะได้เพียงแค่ 3 เกมจาก 16 นัดที่เผชิญหน้ากัน โดยที่ 2 ครั้งเกิดขึ้นสมัยที่คุม เซาธ์แฮมป์ตัน โดยชัยชนะเกมเดียวเหนือ "หงส์แดง" ตอนคุม สเปอร์ส คือชนะ 4-1 เมื่อตุลาคมปี 2017
เกมที่น่าเจ็บใจที่สุดคือการแพ้ให้กับทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ 0-2 ในเกมชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเมื่อปี 2019 จากประตูของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ดิว็อค โอริกี้ นั่นเอง
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แข่ง 20 ชนะ 6 เสมอ 3 แพ้ 11
การเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในยุคหลังเป็นเรื่องยากเสมอ ไม่แพ้ที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ จะชนะไม่ถึง 1 ใน 3 กับการเจอทีมแกร่งประจำลีก
ชัยชนะ 2 ครั้งในนั้นเกิดขึ้นก่อนที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะเข้ามาคุมทีม โดยการประเดิมชัยชนะครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2016 โดยชนะ 2-0 ที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน
แต่ โปเช็ตติโน่ ก็มีเกมที่ทำแสบด้วยการเอาชัยเหนือ "เรือใบ" ในรอบก่อนรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเมื่อปี 2019 ด้วยกฎประตูทีมเยือนอย่างเจ็บแสบนั่นเอง
อย่างไรก็ตามในการเจอกันตอนคุม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในเวทียุโรปรอบรองชนะเลิศปี 2021 ทีมแพ้ให้กับ ซิตี้ ทั้งเหย้า-เยือนไป
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แข่ง 14 ชนะ 4 เสมอ 3 แพ้ 7
เมาริซิโป โปเช็ตติโน่ ออกสตาร์ทครั้งแรกในการเจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2013/14 สมัยคุม เซาธ์แฮมป์ตัน ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการยันเสมอ 1-1 ทั้งเหย้า-เยือน
ชัยชนะหนล่าสุดจาก 4 ครั้งเหนือ "ปีศาจแดง" เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2018 โดยชนะ 3-0 ในช่วงเดือนสุดท้ายของ โชเซ่ มูรินโญ่ ในรั้วโอลด์ แทรฟฟอร์ดนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม 4 เดือนก่อนหน้า "ไก่เดือยทอง" เพิ่งช้ำจากความพ่ายแพ้ให้กับ ยูไนเต็ด 1-2 ในเกมรอบตัดเชือกเอฟเอ คัพ อดเข้ารอบชิงชนะเลิศไป
แต่ทีมก็มีความทรงจำที่ดีในการลงเล่นที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน เกมสุดท้ายคือชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 จากประตูของ วิคเตอร์ วานยาม่า และ แฮร์รี่ เคน
