:::     :::

รางวัลสำหรับความไม่ยอมแพ้ของ "ลีออน เจมส์"

วันอังคารที่ 23 พฤษภาคม 2566 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
683
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นักเตะลูกครึ่งกับฟุตบอลไทย ไม่ใช่เรื่องแปลกเหมือนในอดีต เพราะนักเตะเลือดผสมต่างตบเท้าเข้ามาเล่นในเมืองไทยเยอะขึ้นทุกปี บางคนฝีเท้าเลิศถูกเรียกไปติดทีมชาติไทย พา "ช้างศึก" ประสบความสำเร็จสร้างความสุขให้กับคอบอลไทยไม่น้อย

หนึ่งในนักเตะที่กำลังอยู่ในกระแสและถูกพูดถึงในโลกโซเชียลคือ “ลีออน เจมส์” กองกลางดีกรีทีมชาติไทย ชุดรองแชมป์ซีเกมส์


ด้วยหุ่นสุดเฟิร์ม ใบหน้าหล่อเหลา มีกลิ่นอายของ “อปป้า” เล็กน้อย ทำให้สาวๆ ต่างกรี๊ดดาวเตะลูกครึ่งไทย-อังกฤษ กันเพียบ 

ส่วนเรื่องในสนามต้องบอกว่า “ลีออน” ถือว่าเป็นนักสู้และพัฒนาตัวเอง จนยกระดับฝีเท้าขึ้นมาอย่างผิดหูผิดตา 

สำหรับ ลีออน เจมส์ ใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ตั้งแต่เด็ก ได้โอกาสขัดเกลาวิชาลูกหนังกับสโมสร “เลสเตอร์ ซิตี้” ทีมดังในอังกฤษ ถึง 12 ปี แม้จะไม่สามารถสอดแทรกขึ้นไปสู่ทีมชุดใหญ่ของทีม “จิ้งจอกสยาม” ได้ ทำให้เขาตัดสินใจย้ายกลับมาเล่นในเมืองไทยกับ “ราชบุรี” ด้วยวัยเพียง 17 ปี 

แน่นอนว่าวัฒนธรรมและสไตล์ฟุตบอลไทยต่างจากที่เขาเจอในดินแดนผู้ดี ประกอบกับอายุอยู่ในวัยทีนเท่านั้น ทำให้การปรับตัวเป็นไปอย่างยากลำบาก


การที่ได้ฝึกวิทยายุทธ์ลูกหนังกับ เลสเตอร์​ ทำให้เขาถูกคาดหวังว่าจะต้องฟอร์มเทพ แต่ทุกอย่างกลับสวนทาง เพราะเขาแทบไม่มีโอกาสลงสนามให้ “ราชันมังกร” เลย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพรรษาลูกหนังยังไม่แกร่งกล้า 

ยิ่งโปรไฟล์ที่หรูทำให้เขาถูกจับตามอง เมื่อไม่ได้โชว์ฝีเท้ายิ่งทำให้เขาถูกสบประมาทว่าเป็น “ของปลอม” 

แต่นั่นไม่ทำให้ “ลีออน” ท้อเลย เขายังทำงานหนักต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่สนเสียงวิจารย์หรือคำดูถูกที่มีต่อเขา 


เขาหาโอกาสลงสนาม ด้วยการย้ายไป สุโขทัย แม้ช่วงแรกจะเจอประสบการณ์ที่ไม่ดี เมื่อทีม “ค้างคาวไฟ” ตกชั้น ในปี 2020/21 แต่เขาสามารถพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในไทยลีก 1 ในฤดูกาล 2021/22 

เมื่อปีกกล้าขาแข็ง เขามองหาทีมที่พร้อมให้โอกาสและเชื่อมั่นในตัวเขา ก่อนจะลงเอยกับ “หนองบัว พิชญ” เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา


แน่นอนว่าที่นี่เต็มไปด้วยแข้งฝีเท้าดีและสายบู๊มากมาย จากนักเตะที่ถูกมองว่าเป็นแค่ “อะไหล่” กลับทำผลงานดีเรื่อยๆ จนยึดตัวจริงสำเร็จ และมีโอกาสลงสนามในไทยลีกไปถึง 19 นัด

แม้จะยิงประตูไม่ได้ แต่เขาตอบแทนทีมด้วยการเล่นอย่างมีวินัย วิ่งไล่บอล บดขยี้คู่แข่งตั้งแต่วินาทีแรกจนสิ้นเสียงนกหวีดหมดเวลาแข่งขัน 

ด้วยฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวา ทำให้เขาถูก “อิสสระ ศรีทะโร” กุนซือทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี กวักมือเรียกไปลุยซีเกมส์ แม้จะไม่สามารถพาทีมได้แชมป์แต่ฟอร์มโดยรวมถือว่าสอบผ่าน

นั่นทำให้ “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ตัดสินใจกระชากตัวเขาไปร่วมถิ่น ช้าง อารีนา ลุยศึกในฤดูกาล 2023/24 คาดว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ 


เรียกว่าเป็นการก้าวกระโดดในอาชีพการค้าแข้งของ “ลีออน เจมส์” อย่างแท้จริง เพราะเขาจะได้เล่นเคียงข้างกับนักเตะระดับเกรดเอ ของเมืองไทย แถมมีโอกาสได้เล่นฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก ฟุตบอลถ้วยสโมสรใหญ่ที่สุดของเอเชียด้วย 

นี่คือรางวัลสำหรับความไม่ยอมแพ้ หากวันนั้นเขายังมัวสนใจเสียงวิจารย์เสียๆ หายๆ และไม่พัฒนาตัวเอง คงไม่ทำให้ชีวิตลูกหนังดีขึ้นอย่างวันนี้


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด