สเปอร์ส

    ไก่เดือยทอง เข้ามาถึงรอบตัดเชือกลีก คัพ เป็นครั้งที่ 16 โดยพวกเขาผ่านเข้ารอบชิงได้ 8 จาก 15 ครั้งก่อนหน้านี้ โดยหนล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2014-15 พวกเขาผ่านได้เสมอเวลาที่พบกับทีมที่ไม่ได้อยู่ในลีกสูงสุด (1970 พบ บริสตอล ซิตี้, 2008-09 พบ เบิร์นลี่ย์, 2014-15 พบ เชฟฯ ยูไนเต็ด)

    โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือชาวโปรตุเกสจะไม่มี แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ ที่ติดโทษแบน 1 นัด ขณะที่ เอริก ลาเมล่า ก็จะไม่มีส่วนร่วม หลังจากที่มีภาพว่าเขาแหกมาตรการป้องกันโควิด-19 ร่วมกับ 2 เพื่อนร่วมทีมในช่วงคริสต์มาส

    นอกจากนี้ โจวานนี่ โล เซลโซ่ (เอ็นหลังหัวเข่า) และ แกเร็ธ เบล (น่อง) ก็ยังมีอาการบาดเจ็บลงเล่นไม่ได้แน่นอน

    เบรนท์ฟอร์ด

    เบรนท์ฟอร์ด เข้ามาถึงรอบตัดเชือกลีก คัพ เป็นครั้งแรก และกลายเป็นสโมสรที่ 59 ที่เข้ามาถึงรอบนี้ โดยหนล่าสุดที่ทีมที่มาถึงรอบนี้เป็นครั้งแรก และผ่านเข้าชิงได้เกิดขึ้นในปี 2012-13 (แบร็ดฟอร์ด และ สวอนซี)

    โธมัส แฟร้งค์ กุนซือชาวเดนมาร์กยืนยันเมื่อวันจันทร์ว่าทีมของเขาไม่มีนักเตะที่ผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวกก่อนเกมนี้

    สภาพทีมในการมาเยือนลอนดอนถือว่าเกือบจะเต็มสูบ โดยมีเพียง แชนดอน บัปติสต์ กองกลางเพียงคนเดียวที่มีอาการบาดเจ็บ ขณะที่ เซร์จี้ กานอส อดีตดาวรุ่ง ลิเวอร์พูล และ ทาริก โฟซู-เฮนรี่ ต้องต่อสู้เพื่อแย่งตำแหน่งทางกราบซ้ายในแผง 3 เกมรุก

    11 ตัวจริงตามคาด

    สเปอร์ส (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส - แซร์ช โอริเย่ร์, ดาวินซอน ซานเชซ, เอริก ดายเออร์, เซร์คิโอ เรกีลอน - แฮร์รี่ วิงค์ส, ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบียร์ก - ลูคัส มูร่า, ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่, ซน ฮึง มิน - แฮร์รี่ เคน

    เบรนท์ฟอร์ด (4-3-3) : ลุค แดเนียลส์ - เฮนริค ดัลส์การ์ด, ปอนตุส ยานส์สัน, อีธาน พินน็อค, ริโก้ เฮนรี่ - จอช ดาซิลวา, วิตาลี่ ยาเนลท์, มาเธียส เยนเซ่น - ไบรอัน เอ็มเบวโม่, อีวาน โทนี่ย์, เซร์จี้ กานอส

    ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน

    เบรนท์ฟอร์ด เป็นทีมที่ชั้นเชิงดีมากเลย แม้จะเสียสตาร์ดังไปในช่วงซัมเมอร์ แต่ฟอร์มในปีนี้ก็ไม่ได้ตกลงไปจากเดิมเลย กระนั้น สเปอร์ส เองก็ใส่เต็มสูบแบบไม่มีพักเหมือนกัน เกมนี้ยังได้เปรียบเล่นในรังด้วย ยังเชื่อว่าด้วยมาตรฐาน และทีเด็ดทีขาดที่เหนือกว่าของเจ้าถิ่นก็น่าจะดีพอที่จะดับซ่า และเอาชนะแบบยิงขาดไหว

    ผลที่คาด

    สเปอร์ส ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 3-1