ลิเวอร์พูล

    หงส์แดง เป็นเพียงทีมเดียวในพรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ก็ยังไม่แพ้ใคร (ชนะ 4 เสมอ 2) โดยปัจจุบันพวกเขาไร้พ่ายในลีกมา 16 เกมแล้ว (ชนะ 12 เสมอ 4)

    เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันจะไม่มี เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวาที่มีอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบระหว่างซ้อม โดยเจ้าตัวพลาดลงเล่นมาตั้งแต่เกมยุโรปที่ถล่ม ปอร์โต้ 5-1 เมื่อวันอังคารแล้ว ซึ่งน่าจะเป็น เจมส์ มิลเนอร์ ได้ทำหน้าที่แทน หรือไม่ก็ โจ โกเมซ ที่อยู่ในข่ายพิจารณา

    นอกจากนี้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ก็ชวดต่อเนื่อง ขณะที่ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ อยู่ในขั้นตอนฟื้นฟูร่างกายจากการผ่าตัดข้อเท้า

    แมนฯ ซิตี้

    เรือใบ มีลุ้นทำสถิติเทียบเท่าของสโมสรกับการเก็บคลีนชีต 6 เกมติดต่อกันในลีก โดย 3 นัดเยือนก่อนหน้านี้ของพวกเขาจบด้วยสกอร์ 1-0 ซึ่งเป็นการออกไปแพ้ สเปอร์ส แต่ก็เอาชนะ เลสเตอร์ กับ เชลซี ได้

    เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือชาวสเปนไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บเพิ่มเติมจากเกมแชมเปี้ยนส์ลีก ที่แพ้ เปแอสเช เมื่อกลางสัปดาห์ โดย อิลคาย กุนโดกัน และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ยังคงชวดจากปัญหาที่ต้นขา และน่องตามลำดับ

    เป็นที่คาดว่าทั้งสองรายนั้นจะกลับมาช่วยทีมได้ในช่วงหลังเบรกทีมชาติ

    11 ตัวจริงตามคาด

    ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อาลีสซง เบ็คเกอร์ - เจมส์ มิลเนอร์, โฌแอล มาติป, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, เคอร์ติส โจนส์ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า, ซาดิโอ มาเน่

    แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน - ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, เอมเมอริก ลาปอร์กต์, ชูเอา กานเซโล่ - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, โรดรี้ เอร์นานเดซ, เควิน เดอ บรอนย์ - กาเบรียล เชซุส, ฟิล โฟเด้น, แจ็ค กรีลิช

    ผู้ตัดสิน : พอล เทียร์นี่ย์

    แมนฯ ซิตี้ บุกมาเป็นต่อเล็กๆ ในเกมนี้ แต่แน่นอนว่า ลิเวอร์พูล มีเกมในรังที่แข็งแกร่งอีกครั้งนับตั้งแต่ที่แฟนบอลกลับเข้าสนามได้ เชื่อว่า เรือใบ ยังไงก็ไม่กล้ามาบู๊ล้างผลาญแน่ ฝั่ง หงส์แดง ก็น่าจะระวังตัวอยู่บ้างเหมือนกัน มองแล้วมีโอกาสที่คู่นี้จะลงเอยด้วยผลเสมอกันไป

    ผลที่คาด

    ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1