เชลซี

สิงห์บลูส์ ผ่านเข้ารอบได้ 5 จาก 7 ครั้งหลังสุดในลีก คัพ รอบรองชนะเลิศ โดยพลาดเพียงปี 2012-13 (พบ สวอนซี) และ 2017-18 (พบ อาร์เซน่อล)

โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือชาวเยอรมันน่าจะไม่มี เทรวอห์ ชาโลบาห์ กองหลังที่ได้รับบาดเจ็บต้นขา ขณะที่ อันเดรียส คริสเตนเซ่น อีกหนึ่งเซนเตอร์แบ็กก็ยังไม่แน่ว่าจะพร้อมหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ทิโม แวร์เนอร์ มีลุ้นกลับคืนทีมหลังหายหน้าไปตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม เนื่องจากติดโควิด-19 ส่วน โรเมลู ลูกากู ก็อาจจะได้รีเทิร์นเช่นกัน หลังจากกล่าวขอโทษกับบทสัมภาษณ์ปัญหาที่บอกว่าเขาไม่มีความสุขกับสโมสร หรือเคลียร์ใจกับ ทูเคิ่ล ได้แล้ว

สเปอร์ส

นับตั้งแต่ที่เอาชนะ เชลซี ได้ 3 นัดติดต่อกันในช่วงปี 2018 ถึง 2019 ไก่เดือยทอง ก็ไม่เคยชนะได้เลยจาก 8 ครั้งหลังสุดที่พบ สิงห์บลูส์ รวมทุกรายการ (เสมอ 2 แพ้ 6)

อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือชาวอิตาเลี่ยนจะได้พบกับทีมเก่าที่เขาเคยทำงานด้วยในช่วงปี 2016 ถึง 2018 โดยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และเอฟเอ คัพ ได้

สำหรับเกมนี้ คอนเต้ ไม่ได้ยืนยันว่ามีใครพลาดช่วยทีมบ้างจากการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แต่ คริสเตียน โรเมโร่, ไรอัน แซสเซอญง และ สตีเว่น เบิร์กไวน์ ต่างบาดเจ็บ และชวดทั้งหมด

11 ตัวจริงตามคาด

เชลซี (3-4-2-1) : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ติอาโก้ ซิลวา, มาล็อง ซาร์ - คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย, จอร์จินโญ่, ซาอูล ญีเกซ, มาร์กอส อลอนโซ่ - เมสัน เมาท์, ฮาคิม ซิเย็ค - โรเมลู ลูกากู

สเปอร์ส (3-4-2-1) : อูโก้ โยริส - ดาวินซอน ซานเชซ, เอริก ดายเออร์, เบน เดวิส - แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้, แฮร์รี่ วิงค์ส, ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบียร์ก, เซร์คิโอ เรกีลอน - เดเล่ อัลลี่, ซน ฮึง มิน - แฮร์รี่ เคน

ผู้ตัดสิน : เคร็ก พอว์สัน

เชลซี มีปัญหาค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะกับแนวรับที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานกันเป็นแถว ผิดกับ สเปอร์ส ที่มาแบบค่อนข้างพร้อม โดยมีนักเตะหลักให้เลือกใช้งานกันเกือบครบ มองว่านัดนี้ ไก่เดือยทอง ที่กำลังมั่นใจสู้ได้ และน่าจะเก็บผลเสมอกลับไป

ผลที่คาด

เชลซี เสมอ สเปอร์ส 1-1