สเปอร์ส

เกมก่อนหน้านี้ถือเป็นครั้งที่ 4 ที่ ไก่เดือยทอง แพ้เลกแรกในถ้วยลีก คัพ รอบตัดเชือก พวกเขาตกรอบจาก 2 ครั้งแรก แต่ก็ผ่านเข้ารอบได้ในหนล่าสุดที่พบ เชลซี ในปี 2001-02 (แพ้ 1-2 นัดแรก, ชนะ 5-1 นัดสอง)

อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือชาวอิตาเลี่ยนจะไม่มี ซน ฮึง-มิน, สตีเว่น เบิร์กไวน์, เอริก ดายเออร์ และ คริสเตียน โรเมโร่ ในเกมนี้เนื่องจากบาดเจ็บทั้งหมด

ยังคงเป็นที่น่าสนใจว่า ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ จะมีส่วนร่วมในทีมหรือไม่ หลังจากแสดงท่าทางที่เป็นปัญหาขณะโดนเปลี่ยนตัวออกในเกมเอฟเอ คัพ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจนโดนแฟนตัวเองโห่ใส่

เชลซี

ในทุกรายการ สิงห์บลูส์ ผ่านเข้ารอบได้ตลอด 13 ครั้งหลังสุดที่พวกเขาเอาชนะก่อนในเลกแรก ตั้งแต่ที่แพ้ ลิเวอร์พูล ในแชมเปี้ยนส์ลีก รอบตัดเชือก ปี 2006-07

โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือชาวเยอรมันมีลุ้นได้ ติอาโก้ ซิลวา และ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กลับมาสู่ทีม หลังกักตัวจากการติดโควิด-19 ไปก่อนหน้านี้ โดยทั้งสองต่างซ้อมเรียกความฟิตกันได้แล้วในวันอังคาร

เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ และ มาร์กอส อลอนโซ่ ก็มีโอกาสรีเทิร์นเหมือนกันหลังได้พักในเกมเอฟเอ คัพ ที่ชนะ เชสเตอร์ฟิลด์ แต่ เทรวอห์ ชาโลบาห์ ยังคงชวดจากปัญหาที่เอ็นหลังหัวเข่า

11 ตัวจริงตามคาด

สเปอร์ส (3-4-2-1) : อูโก้ โยริส - จาเฟ็ต ทานกานก้า, ดาวินซอน ซานเชซ, เบน เดวิส - เอแมร์ซอน โรยาล, โอลิเวอร์ สคิพพ์, ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบียร์ก, เซร์คิโอ เรกีลอน - โจวานนี่ โล เซลโซ่, ลูคัส มูร่า - แฮร์รี่ เคน

เชลซี (3-4-2-1) : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า - อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ติอาโก้ ซิลวา, มาล็อง ซาร์ - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, มาเตโอ โควาซิช, ซาอูล ญีเกซ, มาร์กอส อลอนโซ่ - เมสัน เมาท์, คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย - โรเมลู ลูกากู

ผู้ตัดสิน : อังเดร มาร์ริเนอร์

เชลซี ยังคงเป็นต่อเหมือนเดิมแม้จะมาเยือนก็ตาม แม้สภาพทีมจะดีกว่า สเปอร์ส แต่มองว่า ไก่เดือยทอง เล่นในรังก็ยังถือว่าแข็งแกร่งอยู่ ถึงจะเอาชนะคืนลำบาก แต่ก็คงไม่แย่ถึงขั้นแพ้ซ้ำสองในเกมนี้ กับราคาที่เปิดมาสวนรองเจ้าถิ่นไปดีกว่า

ผลที่คาด

สเปอร์ส เสมอ เชลซี 1-1