ลิเวอร์พูล

    หงส์แดงแพ้มาตลอด 3 นัดหลังสุดในศึกลีก คัพ โดยยิงประตูไม่ได้เลย ซึ่งนี่คือผลงานแย่ที่สุดของพวกเขาในรายการนี้ แต่ก็ไม่เคยตกรอบสาม 2 ซีซั่นติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 1989-90 และ 1990-91

    เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันจะไม่เสี่ยงใช้งาน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่เจ็บชายโครงมาจากเกมลีกนัดล่าสุด ส่วน อดัม ลัลลาน่า ยังไม่พร้อม เช่นเดียวกับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ที่เดี้ยงยาว

    แต่ข่าวดีคือ เดยัน ลอฟเรน นั้นกลับมาซ้อมได้แล้ว และมีลุ้นลงเล่นนัดแรกตั้งแต่จบบอลโลก ขณะที่ โดมินิก โซลันกี้ นั้นมีโอกาสลงพบทีมเก่า แต่ ซิมง มิโญเลต์ น่าจะได้ออกสตาร์ทตัวจริงแทน อาลีสซง เบ็คเกอร์ แน่ๆ

    เชลซี

    สิงห์บลูส์ผ่านเข้ารอบได้ตลอด 7 ครั้งหลังสุดในลีก คัพ รอบสาม ตั้งแต่ที่แพ้ นิวคาสเซิ่ล 3-4 เมื่อปี 2010-11

    เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือชาวอิตาเลี่ยนจะไม่สามารถใช้งาน เปโดร โรดริเกซ (ไหล่), อันโตนิโอ รือดิเกอร์ (โคนขาหนีบ) และ รูเบน ลอฟตัส-ชีค (เท้า) ที่เจ็บอยู่ทั้งหมด

    คาดว่าเกมนี้จะมีการปรับทัพหลายรายเลยทีเดียว แต่ เอแด็น อาซาร์ นั้นมีชื่อติดทีมมาด้วย โดยพวกตัวสำรองอย่าง วิลลี่ กาบาเยโร่, ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า, แกรี่ เคฮิลล์ และ อัลบาโร่ โมราต้า น่าจะได้ออกสตาร์ทตัวจริง

    11 ตัวจริงตามคาด

    ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเลต์ - เนธาเนียล ไคลน์, โฌแอล มาติป, เดยัน ลอฟเรน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, นาบี เกอิต้า - เซอร์ดาน ชากิรี่, แดเนียล สเตอร์ริดจ์, ซาดิโอ มาเน่

    เชลซี (4-3-3) : วิลลี่ กาบาเยโร่ - ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, แกรี่ เคฮิลล์, เอแมร์ซอน - เชส ฟาเบรกาส, อีธาน แอมปาดู, รอสส์ บาร์คลี่ย์ - วิคเตอร์ โมเสส, อัลบาโร่ โมราต้า, วิลเลี่ยน

    ผู้ตัดสิน : เควิน เฟรนด์

    สนาม : แอนฟิลด์

    ทั้งสองทีมน่าจะมีการปรับทัพกันพอสมควรเพื่อเก็บความสดไว้บี้กันในลีกสุดสัปดาห์นี้ แต่ก็ไม่ง่ายสำหรับหงส์แดงเลย เนื่องจากทีมเยือนเองก็ไม่ใช่จะทิ้งกับรายการนี้เลยซะทีเดียว เชื่อว่าคงสู้กันได้สูสี และน่าจะลงเอยด้วยผลเสมอในเวลา 90 นาที

    ผลที่คาด

    ลิเวอร์พูล เสมอ เชลซี 2-2