นิวคาสเซิ่ล

    สาลิกาดงแพ้ทั้ง 8 นัดในลีกฤดูกาลนี้ที่พบกับทีมในกลุ่ม 'ท็อปซิกซ์' ปัจจุบัน แต่ชัยชนะเหนือ คาร์ดิฟฟ์ ในเกมลีกล่าสุดถือเป็นการกลับมาคว้าชัยได้ครั้งแรกในรอบ 5 นัดต้ังแต่เดือนธันวาคม

    ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือเมืองกระทิงดุจะไม่มี โฆเซลู ที่บาดเจ็บข้อเท้า ขณะที่กลุ่มมิดฟิลด์อย่าง โมฮาเหม็ด ดิยาเม่, จอนโจ เชลวี่ย์ และ กี ซอง-ยอง ยังชวดทั้งหมด

    กระนั้นก็ตาม กลุ่มแข้งหลักที่ได้พักมาในเกมบอลถ้วยเมื่อสุดสัปดาห์จะกลับคืนตัวจริงทั้งหมด รวมถึงดาวซัลโวของทีมอย่าง ซาโลมอน รอนดอน ด้วย

    แมนฯ ซิตี้

    เรือใบคว้าชัยได้ตลอด 8 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ และก็ยิงได้ถึง 28 ประตู จาก 6 นัดที่ผ่านมาด้วย

    เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือชาวสแปนิชยังไม่มี แว็งซ็องต์ ก็องปานี ที่เจ็บกล้ามเนื้ออยู่เหมือนเดิม หลังจากหายหน้าไปตลอด 6 นัดหลังสุด

    นอกจากนี้ยังต้องรอเช็ก แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ ที่อาการไม่ดีมาจากเกมพบ เบอร์ตัน จนไม่ได้มีส่วนร่วมในเอฟเอ คัพ แต่กลุ่มตัวหลักที่ได้พักในนัดล่าสุดอาทิ ดาบิด ซิลบา, เซร์คิโอ อเกวโร่ และ เอมเมอริก ลาปอร์กต์ พร้อมหวนคืนตัวจริง

    11 ตัวจริงตามคาด

    นิวคาสเซิ่ล (5-4-1) : มาร์ติน ดูบราฟก้า - ดีอังเดร เยดลิน, ฟาเบียน แชร์, จามาล ลาสเซลล์ส, ฟลอริย็อง เลอเฌิน, แม็ตต์ ริทชี่ - อโยเซ่ เปเรซ, ไอแซ็ค เฮย์เด้น, ฌอน ลองสต๊าฟฟ์, คริสเตียน อัตซู - ซาโลมอน รอนดอน

    แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, เอมเมอริก ลาปอร์กต์, ดานิโล่ - เควิน เดอ บรอยน์, แฟร์นันดินโญ่, ดาบิด ซิลบา - ราฮีม สเตอร์ลิง, เซร์คิโอ อเกวโร่, ลีรอย ซาเน่

    ผู้ตัดสิน : พอล เทียร์นี่ย์

    นิวคาสเซิ่ล อาจมาเน้นเกมรับในนัดนี้ และเวลาเจอทีมใหญ่ก็มักทำได้ดี แต่ แมนฯ ซิตี้ ในชั่วโมงนี้ร้อนแรงจริงๆ แนวรุกยิงระเบิด แถมเกมรับก็แกร่งมากเลยด้วย เชื่อว่าเจอกันชั่วโมงนี้เจ้าถิ่นต้านไม่ไหวแน่ มีโอกาสที่ทีมเยือนจะบุกยิงขาดทะลุ 3 เม็ดได้

    ผลที่คาด

    นิวคาสเซิ่ล แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-3