อย่าเพิ่งเบื่อกันเสียก่อนกับเรื่องที่จะเขียนวันนี้ ก็แหม..ธรรมชาติของข่าว เอ๊ย ! ตลาดนักเตะเนี่ย เอาเข้าจริงก็ไม่ต่างอะไรกับละครน้ำเน่าที่สาวๆชอบดูนักหรอกครับ ยิ่งถ้าเรตติ้งดี ก็ต้องดึงต้องยืดกันหน่อย จะให้ตัดสินใจปุ๊บปั๊บ จบง่ายดาย ก็เดี๋ยวจะโกยได้ไม่เต็มที่
ฉันใดก็ฉันนั้น...อองตวน กริซมันน์ กับ บาร์เซโลน่า เลยลากยาวกันมาตั้งแต่ซัมเมอร์ปีก่อน กระทั่งบัดนี้ ซึ่งเหลือเวลาอีก 2 วัน ที่ ฟุตบอลโลก 2016 จะเริ่มเปิดฉาก เรื่องราวเพิ่งจะดำเนินมาใกล้ถึงบทสรุป
งานนี้ต้องโค้งคาราวะงามๆให้กับทัวร์นาเมนต์แห่งมวลมนุษยชาติอย่าง ฟุตบอลโลก และต้องขอบคุณไปยัง ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือทีมชาติฝรั่งเศสซึ่งแนะนำว่าหัวหอก ‘ตราไก่’ ควรจบมหากาพย์นี้ซะก่อนที่ ทีมจะลงเล่นนัดเปิดหัวรอบแรก ไม่งั้นไม่มีสมาธิแน่ เพราะเขาจะตกเป็นเป้าหมายของสื่อต่างๆ ซึ่งจะเอาเรื่องนี้ไปเขียนกันสนุกมือ
ถ้าเชียนออกมาแล้วเป็นความจริงก็ต้องมานั่งไล่เบี้ยกันว่าใครปล่อยข่าว แต่ถ้าไม่จริงก็ต้องมานั่งเครียด กันอีก แล้วจะพาลพาเสียกันทั้งขบวน
เรื่องของ ‘สมาธิ’ ดูเป็นสิ่งที่ เดส์ชองส์ ให้ความสำคัญอย่างมากต่อการลงทำศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ของ ฝรั่งเศส โดยจะเห็นได้จากการที่เขาอนุญาตให้ ซามูแอล อุมตีตี้ บินออกจากแคมป์ไป บาร์เซโลน่า เพื่อเซ็นสัญญาฉบับใหม่เมื่อสัปดาห์ก่อน
ดังนั้น เมื่อเจ้านายใหญ่กำชับมาขนาดนี้ อีกทั้งยังมีเหตุเกี่ยวพันถึงผลประโยชน์ของชาติ กริซมันน์ เลยให้สัมภาษณ์กับรายการ ‘Telefoot’ ทางช่อง TF1ของฝรั่งเศส สื่อบ้านเกิดโดยยืนยันชัดเจนว่า “ก่อนเกมนัดแรกกับ ออสเตรเลีย ในวันเสาร์นี้ ผมจะประกาศให้ทุกคนทราบถึงการตัดสินใจของผม”
แม้ต้องรอกันมาเนิ่นนาน แต่อย่างน้อยๆ กริซมันน์ ก็ไม่ปล่อยให้เลยเถิดไปถึงขนาดบอลโลกจบ เหมือนหลายๆดีล ส่วนในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ ดาวยิงร่างเล็ก "จะชี้ซ้ายหรือป้ายขวานั้น" เรียกได้ว่าลุ้นกันระทึกจริงๆสำหรับกองเชียร์ทั้งสองฝ่าย
สองฝ่าย..ในบริบทนี้ หมายถึง บาร์เซโลน่า กับ แอต.มาดริด เท่านั้นครับ เพราะสถานการณ์ ณ เวลานี้ มีโอกาสน้อยมากหรือแทบเป็นศูนย์ที่จะมีทีมอื่นโผล่มาเซอร์ไพรส์บิดแย่งไป แม้กระทั่ง แมนฯยูไนเต็ด ที่เคยเป็นข่าวกับครึกโครมเมื่อซัมเมอร์ปีก่อนก็ ‘ยากส์’
ถึงบางคนจะมองว่า ‘ปีศาจแดง’ มี ปอล ป็อกบา เพื่อนร่วมทีมชาติฝั่งเศสเล่นอยู่ น่าจะทำให้อยากไป “เล่นด้วย”
กระนั้น ในทีม บาร์เซโลน่า ก็มี แซม อุมตีตี้ เหมือนกัน ที่สำคัญเลยคืออย่าว่าแต่ชวน กริซมันน์ มาเล่นด้วยเลย ส่วนตัว ป็อกบา เองก็มีข่าวว่าไม่ค่อยแฮปปี้นักกับ ‘ปีศาจแดง’
ฉะนั้น กับการลุ้นในวันเสาร์นี้ ตัดทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ไปได้เลย
ย้อนกลับมาที่ แอตเลติโก กับ บาร์ซ่า ตลอดระยะเวลาอันยาวนานหลายเดือน ต้องบอกว่ามีข่าวลือออกมาสารพัดจริงๆ
กระแสส่วนใหญ่โน้มเอียงไปทาง บาร์ซ่า เพิ่งจะมีช่วงปลายซีซั่นเท่านั้นที่ แอตเลติโก ดูจะทำคะแนนตีตื้นขึ้นมาได้บ้าง โดยเฉพาะช่วงนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่ปรากฏข่าวว่า กริซมันน์ บอกกับเพื่อนพ้อง ‘ตราหมี’ ว่า “เขาจะอยู่ต่อ”
จากนั้นไม่นาน ก็มีการปล่อยข่าวอีกระลอกว่า มิเกล อังเคล คิล มาริน เจ้าของทีม ‘ตราหมี’ เข้าพูดคุยกับกองหน้าวัย 27 เป็นการส่วนตัวเพื่อโน้มน้าวให้อยู่ต่อโดยเตรียมจ่ายค่าเหนื่อยให้มหาศาลถึง 25 ล้านยูโร
วิเคราะห์กันตรงนี้ สื่อสเปนเชื่อว่าหาก กริซมันน์ ได้ค่าเหนื่อยระดับนี้จริง ก็มีโอกาสสูงมากที่จะรั้งอยู่กับต้นสังกัดของตัวเองต่อไป
แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าตัวเลข 25 ล้านยูโรต่อปีนี้ เป็นแค่ ‘อาการมโน’ ของสื่อบางสื่อเองหรือเปล่า
พิจราณาจากฐานเงินเดือนของสโมสรแล้ว ที่ผ่านมาทั้งอดีตจวบจนปัจจุบัน ตราหมี ไม่เคยจ่ายเงินให้นักเตะรายใดเกินหลัก 10 ล้านยูโรมาก่อน แล้วนี่เบิ้ลขึ้นไปอีก 15 ล้านยูโร มากกว่าที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รับอยู่ในปัจจุบันกับ เรอัล มาดริด เสียอีก (21 ล้านยูโร)
มันจะเป็นไปได้หรือ ???
ปัจจุบันเพดานค่าเหนื่อยสูงสุดของ ตราหมี อยู่ที่ 10 ล้านยูโร ซึ่งก็เป็นตัว กริซมันน์ เองที่รับอยู่ รองลงมาอย่าง ดีเอโก้ กอสต้า ยังรับแค่ 8.5 ล้าน, โกเก้ เด็กปั้นและแกนหลักอีกคนรับที่ 7.5 ล้าน หรือ เฟร์นานโด ตอร์เรส ก็ยังได้แค่ 4 ล้านยูโร
กับสถานการณ์ตอนนี้ กูรูลูกหนังสเปนมองว่า ทีม ‘อาซูลกราน่า’ ได้เปรียบ แอต.มาดริด อยู่พอสมควร
ข้อแรก..พวกเขาแสดงความสนใจมานาน ไม่ใช่เพิ่งจะมาพูดคุยกัน โดย บาร์ซ่า ขยับเข้าพูดคุยกับ กริซมันน์ ตั้งแต่ตอนที่เสีย เนย์มาร์ ไปหมาดๆ ซึ่งให้เห็นถึงความจริงใจ
ข้อสอง..บาร์ซ่า สามารถ offer ค่าเหนื่อยให้ได้มากถึง 15 ล้านยูโร ซึ่งวิเคราะห์ดูแล้วมีความเป็นไปได้ ไม่ใช่ตัวเลขมโน เนื่องจากทีมเพิ่งยกเลิกสัญญากับ อันเดรส อิเนียสต้า ไป ทำให้ยังเพดานค่าจ้างยังพื้นที่เหลืออยู่พอสมควร
ข้อสาม..พวกเขามีศักยภาพมากพอที่จะช่วยให้ กริซมันน์ คว้าแชมป์รายการใหญ่ๆอย่าง ลา ลีกา และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ ซึ่งตรงนี้ แอตเลติโก มาดริด ยากที่จะตอบโจทย์ ยิ่งปีนี้ ดาวยิง ‘ตราไก่’ อายุ 27 แล้ว ลำพังความสำเร็จระดับ ยูโรป้า ลีก นั้นดูจะน้อยเกินไป
ข้อสี่..ปัจจุบันค่าฉีกสัญญาของ กริซมันน์ ลดลงมาจาก 200 ล้าน เหลือ 100 ล้านยูโร ซึ่งราคานี้ บาร์ซ่า สามารถจ่ายได้อย่างไร้ปัญหาแน่นอน แม้ว่าทาง แอตเลติโก จะไม่ยอมเจราจาด้วยก็ไม่มีผลใดๆทั้งสิ้น
ข้อห้า..ไม่ว่าใครจะว่ายังไง แต่ซักครั้งในชีวิต การได้เล่นร่วมสุดยอดนักเตะอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ นับเป็นเรื่องที่น่าลิ้มลองเป็นอย่างยิ่ง
ข้อหก..โลกนี้จะมีซักกี่คนที่ปฏิเสธ บาร์เซโลน่า ได้ และที่สำคัญมันอาจเป็นโอกาสเดียวในชีวิตที่ไม่ย้อนกลับมาอีกแล้ว
ข้อเจ็ด..กริซมันน์ ไม่หลงเหลืออะไรต้องพิสูจน์กับ แอต.มาดริด อีกต่อไป มันถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องก้าวไปอีกขั้น
จากเหตุผลทั้ง 7 ข้อที่ยกมา ทุกอย่างโน้มเอียงไปทาง บาร์ซ่า มากกว่า แอต.มาดริด ซึ่งส่วนตัว ‘นัมเบอร์โฟร์’ เองก็คิดเห็นในแบบเดียวกัน
ถามว่า "โอกาสพลิกล็อคที่ กริซมันน์ จะรั้งอยู่กับ แอต.มาดริด ต่อ ยังมีเหลืออยู่มั๊ย ?"
ก็ต้องบอกว่า ‘ยังมีอยู่’ เพียงแต่ของแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องของ lucky ที่ไม่สามารถควบคุมได้
การตัดสินใจของ กริซมันน์ ย่อมต้องผ่านการกลั่นกรองมาเป็นอย่างดีแล้ว
อดใจรอกันอีกแป๊บ..เสาร์นี้เราจะได้รู้กันแล้วว่า กริซมันน์ จะ “อยู่กับที่ หรือ ก้าวไปข้างหน้า”
นัมเบอร์โฟร์
