:::     :::

(บอล)โลกที่ไม่มีเธอ...

วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน 2561 คอลัมน์ ฉันดูบอลที่ร้านเหล้า โดย ดากานดา
6,274
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
...

ถึงแก…

สวัสดี … แกคงไม่รู้จักเราหรอก แต่เราพบแกครั้งแรกราว 20 ปีก่อน ผ่านจอทีวีเพื่อนข้างบ้าน ตอนนั้นแกอยู่บนสังเวียนสีเขียวที่ฝรั่งเศส ในวัยที่ยังเด็กเกินกว่าจะรู้จักคำว่า “รัก” เราเริ่มริอาจสร้างเสริมประสบการณ์ฟุตบอลเลเวล 1 นั่งมองแกในจอสี่เหลี่ยมอย่างใจจดใจจ่อ

บทสรุปวันนั้นจบลงด้วยการที่แกพ่าย “จุดโทษ” ฝรั่งเศส แต่การเล่นของแกวันนั้นทำให้เราเริ่มอยาก “ปันใจ” ให้

เราเริ่มถามพี่ข้างบ้าน ที่ไม่ต่างจากพจนานุกรมลูกหนังเกี่ยวกับแก พี่เล่าให้ฟังว่า 4 ปี ก่อนหน้า แกเพิ่งเจ็บช้ำมาในนัดชิงชนะเลิศที่ แคลิฟอร์เนีย และมาถูกเจ้าภาพซ้ำแผลเก่าด้วยจุดโทษที่ปารีสอีกหน

เราน้ำตาคลอให้แกครั้งแรกในศึกยูโร 2000 ภาพที่แกลงไปกองกับผืนหญ้า หลังถูก ดาวิด เทรเซเกต์ วอลเลย์วาบเข้าไปตุงตาข่าย เรานั่งด่ากฎ “โกลเด้น โกล” ที่บ้าบอไร้ซึ่งความยุติธรรมสิ้นดี เพราะมันไม่มีโอกาสให้ผู้แพ้ได้แก้ตัว

ย่างเข้าสู่รั้วมัธยม เราเริ่มรู้จักลูกหนังมากขึ้น เสพทุกอย่างที่เป็นฟุตบอล จนแม่แทบต้มให้กินแทนข้าว แน่นอนว่ารวมถึงตัวตนแกด้วย

ปี 2002 ฟุตบอลโลกถูกเนรมิตขึ้นที่ ญี่ปุ่น - เกาหลีใต้ แน่นอนเราหวังอย่างมากว่าแกจะได้พบ ฝรั่งเศส เพื่อแก้แค้นอีกครั้ง แต่ “ตลกร้าย” เข้ามาหาแกอีก แกเจอพิษของเจ้าภาพทำร้ายอย่างจัง หยุดตัวเองไว้เพียงรอบ 16 ทีมสุดท้าย

แต่ฟ้าหลังฝน 4 ปีถัดมา เหมือนจะมีค่ามากกว่าสายรุ้งบนท้องฟ้า แกพบตัวเองที่เมืองเบียร์ แม้ฟอร์มจะไม่ได้โดดเด่นกระแทกตา แต่แกยังเดินตามเป้าหมาย ล้มม้ามืดอย่าง ยูเครน ถีบเจ้าภาพเยอรมัน พาตัวเองเข้าชิงชนะเลิศอีกครั้ง กับคู่ปรับหน้าเดิมอย่างฝรั่งเศส

จำได้ว่าเราปลีกตัวเองนั่งเชียร์แกคนเดียว เพราะไม่มั่นใจว่า จะกลั้นน้ำตาต่อหน้าเพื่อนได้หรือไม่ หากบทสรุปจบลงด้วยการที่แกพ่ายแพ้อีก แต่วันนั้นแกทำได้ และมันยิ่งทำให้สะใจมากกว่าคือคนซัดจุดโทษไปจูบคานคือ เทร์เซเกต์ คนที่ใช้ขาข้างซ้ายทำแกเจ็บช้ำเมื่อ 6 ปีก่อน

นั่นคือแชมป์สมัยที่ 4 ของแก และเป็นฟุตบอลโลกที่เราใบหน้าเปื้อนยิ้มที่สุด

แต่อีก 4 ปีถัดมาแกที่เป็นเต็งแชมป์กลับล้มหน้าคะมำด้วยผลงานไม่ชนะใครที่ แอฟริกาใต้ หลายคนบอกแกเริ่มโรยรา หรือกลายเป็นคนละทีมกับเมื่อที่เยอรมัน

เช่นเดียวกับปี 2014 แกยังชอกช้ำอีกครั้ง แพ้ทั้ง อุรุกวัย และ คอสตาริกา ปิดฉากเวิล์ดคัพฉบับบราซิลตั้งแต่ไก่โห่

แต่ที่หนักกว่าคือฟุตบอลโลก 2018 ที่เขตปกครองพิเศษ วลาดิมีร์ ปูติน ไม่มีแกร่วมสังคายนาด้วย การเปลี่ยนผ่านโค้ชที่แทบไม่เคยมีประสบการณ์กับทีมใหญ่ ประมาทคู่แข่ง หรือยึดทีมหน้าเดิมส่วนใหญ่ โดยแทบไม่มีทรัพยากรเลือดใหม่เปลี่ยนถ่าย

……………….

“บอลโลกเชียร์ชาติไหน ?” นั่นคือคำถามที่เราถูกกรอกหูอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เวลามาทำงาน

มันแปลกดีนะ ฟุตบอลโลกที่ไม่มีแกน่ะ มันคล้ายขาดอะไรไป เหมือนเรากินกะเพราไก่ แต่ไม่มีไข่ดาวมากองข้างๆแหละ แกนึกออกป่ะ ?

ก่อนหน้านี้คนรอบข้าง ต่างดูแคลนแกมาตลอด ตั้งคำถามใส่ที่เราเชียร์แก บ่นสารพัดว่าแกไร้ซึ่งความงามทางศาสตร์ลูกหนัง เป็นฟุตบอลที่น่าเบื่อ ชวนง่วงนอน

ลางเนื้อ ชอบลางยา แต่เรากลับมองว่านั่นแหละคือมนต์เสน่ห์ของแก เป็นสูตรสำเร็จฟุตบอลที่ไม่มีชาติไหนทำเหมือน นั่นคือสิ่งที่ทำให้เราชอบแก …

จดหมายไฟฟ้าฉบับนี้อาจไม่มีวิตามิน แร่ธาตุที่มีส่วนผสมช่วยการเจริญเติบโตของสมองหรอก เป็นเพียงการระบายของ “คนบ้าบอล” คนหนึ่งที่หลงใหลแกมาตลอด 20 ปี

ได้แต่หวังว่าเลือดใหม่ที่ถูกดันขึ้นมา จะผลิบานบนฟลอร์หญ้าเหมือนรุ่นพี่เจเนอเรชั่นก่อน และหวังว่าอีก 4 ปี ข้างหน้าเราจะได้พบแกในเวิล์ดคัพอีก

คิดถึงแกว่ะ…

 

11 มิถุนา 61
เขียนที่ ร้านกาแฟย่านประชาชื่น (ตอนฝนพรำ)


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด