โม ซาล่าห์ ... อียิปเชี่ยน คิง
ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายที่รัสเซีย เริ่มบรรเลงเพลงแข้งกันไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน พร้อมกับชัยชนะอย่างท่วมท้นของทีม "เจ้าภาพ" รัสเซีย ที่ไล่ถลุงซาอุดิอาระเบียไปอย่างหมดรูป 5-0 สมฉายา "โหดสัส รัสเซีย" อย่างแท้จริง
รัสเซียคว้า 3 คะแนนแรกเป็นขวัญถุงได้แบบนี้ โยนความกดดันให้กับทีมร่วมกลุ่มที่จะเตะกันในวันนี้อย่าง อุรุกวัย และ อียิปต์ อย่างไม่ต้องสงสัย
อุรุกวัยอาจจะกดดันน้อยหน่อย เพราะยังไงพวกเขาก็เป็น "เต็ง 1" ที่จะผ่านเข้ารอบต่อไปของกลุ่ม เอ นี้อยู่แล้ว ด้วยฟอร์มการเล่น ชื่อชั้นของทีมและนักเตะ โอกาสพลาดไม่ได้เข้ารอบต่อไปต้องบอกว่าแทบไม่มี
กลับกันกับอียิปต์ ทีมจากแดนฟาโรห์ ที่ก่อนเปิดทัวร์นาเม้นท์นี้เป็น "เต็ง 2" ที่จะเข้ารอบไปกับอุรุกวัย เห็นฟอร์มของรัสเซียเมื่อคืนนี้ หลายๆกูรูเริ่มไม่มั่นใจเสียแล้วว่า ทีมจากแดนฟาโรห์ทีมนี้ จะดีพอที่จะเบียดกับเจ้าภาพได้หรือไม่
ปัจจัยสำคัญของอียิปต์ที่เหล่าผู้สันทัดกรณีเชื่อว่า จะเป็นตัวตัดสินว่าจะเข้า/ตกรอบ ก็คือ โม ซาล่าห์ !!
ความโด่งดังและฝีเท้าของโม ซาล่าห์ เวลานี้ ต้องบอกว่าอยู่ในระดับน้องๆของเมสซี่, เนย์มาร์ และคริสเตีนโน่ โรนัลโด้ เลยทีเดียวครับ สุดยอดดาวยิงฟอร์มฮอตของลิเวอร์พูลเจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมทุกสถาบันในเกาะอังกฤษ รวมไปถึงนักเตะยอดเยี่ยมแห่งทวีปแอฟริกาคนล่าสุด เจ้าของรางวัลดาวซัลโวประจำศึกพรีเมียร์ลีกด้วยการกดไปถึง 32 ประตูจากการลงเล่น 34 นัดให้กับสโมสร แม้กระทั่งในเวทียูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีกยังทำประตูไปถึง 10 ลูกเป็นรองเพียง “คริสเตียโน โรนัลโด้” ของรีล มาดริด (15 ประตู) เพียงคนเดียวเท่านั้น
นี่คือ ปีทองของโม ซาล่าห์ ในระดับสโมสรอย่างแท้จริง
กับทีมชาติ ซาล่าห์ คนนี้นี่แหละครับที่ยิงประตูตัดสินพาอียิปต์เข้ามาเล่นรอบสุดท้าย ศึกฟุตบอลโลก ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี ที่ประเทศอียิปต์ ความนิยมของโม ซาล่าห์ จึงพุ่งปรี๊ดกลายเป็น 1 ในผู้มีอิทธิพลสูงสุดของประเทศ
ทุกอย่างกำลังจะไปด้วยดีแล้วแท้ๆ สำหรับชาวอียิปต์ ถ้าไม่มีเกมนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
กองเชียร์อียิปต์ทั่วโลกยังติดใจ จังหวะที่ซาล่าห์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวไหล่ซ้ายอย่างรุนแรงจากการเข้าเบียดปะทะกับ "เซอร์คิโอ รามอส" เซนต์เตอร์แบ็คพันธุ์ดุสังกัด "ราชันชุดขาว" รีล มาดริด จนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามทั้งที่เกมเพิ่งเริ่มไปเพียง 30 นาที