:::     :::

เวิลด์คลาส มิดฟิลเดอร์

วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน 2561 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
4,801
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
7 ปีที่แล้ว เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต่อสายตรงหา แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ เพื่อขอซื้อกองกลางที่ดีที่สุดของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในเวลานั้น แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

       หนึ่งปีให้หลัง มิดฟิลด์ที่แจ้งเกิดตั้งแต่ศึกยูโร 2008 ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด สโมสรในฝันที่นักเตะหลายต่อหลายคนต่างต้องการไต่เต้าขึ้นไปพิสูจน์ตัวเองที่นั่น

       ด้วยรูปร่างที่ผอมบาง จึงมักถูกมองว่าเป็นรองคู่แข่งในเรื่องเข้าปะทะ โดยเฉพาะนักเตะตำแหน่งกองกลางที่หากคุณอยากก้าวขึ้นไปแตะคำว่า 'เวิลด์คลาส' ต้องครบเครื่องในทุกๆ ด้าน
ลูก้า โมดริช เริ่มไต่ระดับจากสโมสรในเมืองเกิด ซาดาร์ สู่ ดินาโม ซาเกรบ หลังจากแมวมองของสโมสรยักษ์ใหญ่ของประเทศเห็นแววและจับเข้าสู่รั้วเยาวชนตั้งแต่อายุ 17
โมดริช ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ดินาโม ซาเกรบ ในปีต่อมา กลายเป็นตัวหลักของทีม และต่อสัญญาระยะยาว 10 ปี เป็นนักเตะคนแรกของสโมสรที่เซ็นสัญญายาว 1 ทศวรรษด้วย
มิดฟิลด์ร่างจิ๋ว มีส่วนสำคัญในการคว้าแชมป์ลีกโครเอเชีย 3 ปีติดต่อกัน ฤดูกาล 2005–06, 2006–07, 2007–08 และกลายเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของลีกในปี 2007
สเปอร์ส คือทีมที่มือไวที่สุด จัดการติดต่อ ดินาโม ซาเกรบ ขอซื้อ โมดริช ด้วยค่าตัว 16.5 ล้านปอนด์ ตั้งแต่เดือนเมษายน ก่อนที่มิดฟิลด์โครเอเชียจะแจ้งเกิดในเวทีใหญ่ ยูโร 2008 หลังจากนั้นไม่กี่เดือน
ในพรีเมียร์ลีก โมดริช ดูเหมือนจะบอบบางเกินไปสำหรับการเล่นตำแหน่งกองกลาง ซึ่งทีมส่วนใหญ่มักวางมิดฟิลด์ฮาร์ดแมนเล่นในบทบาทนี้ ทำให้ เร้ดแน็ปป์ จับวางไปยืนเป็นตัวทำเกมรุกริมเส้นฝั่งซ้าย
"เขาคือนักเตะที่โคตรสุดยอด คือนักเตะในฝันของผู้จัดการทีมเลยละ เขาขยันฝึกซ้อมมาก ไม่เคยปริปากบ่น ทำงานหนักในเกมทั้งจังหวะครองบอล และไม่มีบอล เขายังเล่นงานบรรดากองหลังด้วยลูกจ่ายที่เฉียบคม เขาสามารถเล่นกับทีมใหญ่ทีมไหนก็ได้ และจะเก่งขึ้นกว่านี้อีก" เร้ดแน็ปป์ เอ่ยถึง โมดริช ในปี 2009
ฤดูกาล 2010-11 สิ้นสุดลง โมดริช ถูกโหวตให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ สเปอร์ส และสำหรับ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ถึงกับเลือก มิดฟิลด์โครแอต เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนั้น
ภายหลังจบเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ต่อ บาร์เซโลน่า 1-3 ที่สนามเวมบลีย์ เฟอร์กูสัน ไม่รอช้า รีบต่อสายตรงหา เร้ดแน็ปป์ ทันที เพื่อขอซื้อ โมดริช ไปเล่นใน เธียเตอร์ ออฟ ดรีม แต่ก็ถูก ดาเนี่ยล เลวี่ ประธานสโมสรตอบปฏิเสธ
เช่นเดียวกับ เชลซี คู่ปรับร่วมกรุงลอนดอน ที่ยื่นข้อเสนอเข้าไปสามครั้ง 22 ล้านปอนด์, 27 ล้านปอนด์ และวันสุดท้ายของตลาดซื้อขาย 40 ล้านปอนด์ แต่ เลวี่ ก็ยังยืนกรานไม่ขาย
ในที่สุด ช่วงท้ายๆ ของตลาดซื้อขายซัมเมอร์ปี 2012 โมดริช ก็ได้ย้ายไปร่วมทีม เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ แต่ปัญหาในการร่วมงานกับ โชเซ่ มูรินโญ่ ซีซั่นแรกก็เกิดขึ้น หลังจากนักเตะงอแงไม่ได้ลงซ้อมปรีซีซั่นกับ ไก่เดือยทอง มากนัก
เวลานั้น ราชันชุดขาว มีคู่กองกลาง ชาบี อลอนโซ่ กับ ซามี เคดิร่า และจอมทัพ เมซุต เออซิล ทำให้ โมดริช ได้นั่งสำรองยาวๆ ในถิ่น เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว และมักถูกส่งลงไปเล่นตำแหน่งไม่ถนัด จนไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งกับ สเปอร์ส ออกมาได้
จบซีซั่นแรกกับ โลส บลังโกส แบบฝันร้าย โมดริช ถูกแฟนบอลลงคะแนนโหวตให้เป็นการเสริมทัพที่ห่วยแตกที่สุดของฤดูกาลในศึกลาลีกา
แต่ปีถัดมา อะไรๆ ก็เริ่มดีขึ้น เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเทรนเนอร์มาเป็น คาร์โล อันเชล็อตติ และ โมดริช ก็กลายเป็นหัวใจแดนกลางของทีม จนเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดของโลกในยุคของ ซีเนอดีน ซีดาน
เวลานี้ โมดริช พิสูจน์ตัวเองให้โลกเห็นแล้วว่าเขาคือกองกลางที่ครบเครื่องในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการคุมจังหวะเกม ครองบอล ผ่านบอล ตัดเกม สร้างสรรค์เกมรุก เล่นได้ทั้งสองเท้า ส่องไกลเฉียบคม และพิสูจน์ว่าเรื่องการเข้าปะทะก็ทำได้แข็งแกร่งทีเดียว แม้จะสู้กองกลางสไตล์ฮาร์ดแมนไม่ได้ก็ตาม
ด้วยบทบาทที่ดูเหมือนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จมากกว่า ทำให้ โมดริช ไม่ได้รับเสียงชื่นชมมากเท่าที่ควร แต่หลังจบเกมฟุตบอลโลกที่ โครเอเชีย ถล่ม อาร์เจนตินา 3-0 เชื่อว่าหลายต่อหลายคนคงได้เห็นผลงานของเขามากขึ้นกว่าเดิม

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด