จิ้งจกร้องทักเป็นความเชื่อโบราณว่าเป็นลางสังหรณ์จะมีเกิดเหตุเกิดขึ้นล่วงหน้าและอาจหมายถึงลางร้าย...

ดังนั้นเมื่อมีเสียงคนเตือนก็ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นเพื่อให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุดหรือไม่เกิดขึ้นเลยยิ่งดี

ฟาบิโอ คาเปลโล่ อดีตเทรนเนอร์ที่มีประสบการณ์โชกโชนและผันตัวมาเป็นกูรูลูกหนังในปัจจุบันเอ่ยปากเตือน สเปน ว่าจะต้องพบกับงานยากกว่าที่คาดคิดในการดวลกับเจ้าภาพ รัสเซีย ในรอบ 16 ทีมของศึกฟุตบอลโลกวันอาทิตย์นี้ 

คาเปลโล่ เคยประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในฐานะเทรนเนอร์ของ มิลาน และผ่านการคุมทีมระดับสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด, โรม่า และ ยูเวนตุส

เขาเคยคุมทีมชาติอังกฤษในช่วงปี 2008-2012 ก่อนโยกมากุมบังเหียนทีมชาติรัสเซียระหว่างปี 2012-2015 คาเปลโล่จึงรู้จักคู่ปรับของทัพกระทิงเป็นอย่างดี 

คาเปลโล่ ทำงานกับสหพันธ์ฟุตบอลรัสเซียราว 3 ปี หลังเข้ามารับงานต่อจาก ดิ๊ค อัดโวคาด ทำสถิติชนะ 17 เสมอ 10 แพ้ 5 จากการคุมทีมลงสนาม 32 เกม 

นักเตะรัสเซียนหลายคนที่ก้าวขึ้นมาเล่นในทีมหมีขาวยุคคาเปลโล่ยังอยู่มาจนถึงยุค สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ โดยมีถึง 9 คนและหนึ่งในนั้นคือ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน เพลย์เมกเกอร์จาก ซีเอสเคเอ มอสโก ที่เทรนเนอร์ชาวอิตาเลียนจัดลงเล่นทีมชาติชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 18 ปี 

คาเปลโล่ กล่าวถึงเกมระหว่าง สเปน กับ รัสเซีย ในวันอาทิตย์นี้ว่า'ตามหน้าเสื่อผมมองว่าสเปนเหนือกว่า เป็นทีมที่ดีกว่า มีผู้เล่นสำคัญในทีมหลายคน แต่ไม่สามารถประมาทรัสเซียชุดนี้เช่นกัน ทีมนี้มีความแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ ทัพ'ลา โรฆา'ไม่อาจดูแคลนพวกรัสเซียนเพราะพวกเขาสามารถทำให้คุณอารมณ์เสียได้'

รัสเซีย ของ เชอร์เชซอฟ ทำผลงานในทัวร์นาเมนต์นี้ดีเหนือความคาดหมาย ทั้งที่ทำผลงานในช่วงอุ่นเครื่องลุ่มๆดอนๆไม่ชนะติดต่อกัน 7 เกม แต่ทีมหมีขาวประเดิมสนามฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายด้วยการกระทุ้ง ซาอุดิอาระเบีย 5-0 ก่อนซัด อียิปต์ ของบังโม 3-1 ทะยานเข้าสู่รอบ 16 ทีมตามเป้าหมาย ก่อนจะถูก อุรุกวัย ยำพ่าย 0-3 จนหลุดมาอยู่อันดับ 2 ของกลุ่ม เอ โคจรมาชนกับ สเปน ในรอบน็อกเอาท์ 

คาเปลโล่ ชี้ถึงจุดแข็งหรืออันตรายของทีมหมีขาวยุคเชอร์เชซอฟว่าอยู่ที่การเล่นเกมโต้กลับที่ทีมกระทิงของ เฟร์นานโด เอียร์โร่ คงต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ 

'ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเกมสวนกลับคือจุดแข็งของรัสเซียชุดนี้ ทีมของเพื่อนผม เฟร์นานโด เอียร์โร่ ต้องระมัดระวังไม่ให้เสียบอลในพื้นที่อันตรายเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในเกมกับโมร็อกโก'

'พวกเขาทำได้ดีมาก รวมถึงการใช้ประโยชน์จากนักเตะดาวเด่นเล่นตามแท็กติก ทั้งการเปิดบอลยาวถึงกองหน้าที่มีรูปร่างสูงใหญ่อย่าง อาร์เต็ม ชิวบา ซึ่งกำลังเล่นได้ดีกับ อาร์เซน่อล ตูล่า หลังล้มเหลวกับ เซนิต ก่อนหน้านั้น เช่นเดียวกับ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน ซึ่งเป็นผู้เล่นที่เล่นฟรีคิกได้อย่างยอดเยี่ยม เด็กคนนี้ลงเล่นกับรัสเซียยุคผมตั้งแต่อายุ 18 ปี'

'อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน เป็นพื้นฐานสำคัญในการเล่นของรัสเซียควบคู่ไปกับความแข็งแกร่งของ ยูริ กาซินสกี้ ทั้งสองคนเป็นนักเตะที่ไม่สามารถคาดเดาได้ โดยเฉพาะการเดินเกมอย่างอิสระของ โกโลวิน'

แน่นอนว่าเมื่อมี'จุดแข็ง'ก็ต้องมี'จุดอ่อน'เป็นของคู่กัน ซึ่ง คาเปลโล่ ชำแหละ'จุดอ่อน'ของทีมหมีขาวยุคเชอร์เชซอฟว่าอยู่ที่แนวรับโดยเฉพาะคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ ซึ่งทีมกระทิงสามารถใช้ความเร็วและความคล่องตัวโจมตีจุดอ่อนดังกล่าวได้เช่นกัน 

'กองหลังคือจุดอ่อนของรัสเซียชุดนี้โดยเฉพาะตำแหน่งเซนเตอร์ ถ้าสเปนเล่นเร็วจะสามารถสร้างปัญหาได้มากและจะเอาชนะได้อย่างง่ายดาย'

'จุดอ่อนสำคัญคือ เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช ถึงแม้ว่าเขาจะเล่นได้ดีและเป็นหนึ่งในเซนเตอร์ที่ทำผลงานโดดเด่นในทัวร์นาเมนต์นี้ก็ตาม แต่เขากำลังจะอายุครบ 39 ปี และคู่หูของเขา อิลยา คูเตปอฟ เล่นผิดปกติมาก แน่นอนแผงกองหลังของพวกเขายังเล่นด้วยความแข็งแกร่งและคุมพื้นที่ได้ดี พวกเขายังเติมเกมรุกได้ดีอีกด้วย'

อดีตเทรนเนอร์ทีมชาติรัสเซียยังกล่าวถึงคู่เซนเตอร์ทีมชาติสเปน เซร์คิโอ รามอส กับ เคราร์ด ปีเก้ เช่นเดียวกันว่ายังมีปัญหาในการสื่อสารระหว่างกัน รวมถึง ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูด้วย 

'ผมเห็นพวกเขาไม่ค่อยสื่อสารกันในเกมกับโมร็อกโก เหมือนกับผู้รักษาประตู ดาบิด เด เคอา แต่แน่นอน เฟร์นานโด เอียร์โร่ คงกลับไปปรับจูนพวกเขา พวกเขาจำเป็นต้องสื่อสารกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างเล่น และ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ยังมีส่วนช่วยพวกเขาเหมือนที่เคยทำมาเสมอ'

คาเปลโล่ ยอมรับว่า รัสเซีย ของเชอร์เชซอฟทำให้เขารู้สึกประหลาดใจพอสมควรจากการทำผลงานในรอบแบ่งกลุ่มอย่างยอดเยี่ยมทั้งที่โชว์ฟอร์มในการลงเล่นเกมอุ่นเครื่องก่อนหน้าทัวร์นาเมนต์แบบทุลักทุเล

'พวกเขาทำให้ผมประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลก พวกเขาไม่ชนะจากการลงเล่นเกมอุ่นเครื่องตลอด 7 เกม แต่ตอนนี้พวกเราเล่นได้ดีในระดับหนึ่ง แม้ว่าพวกเขายังต้องพึ่งพาผู้เล่น 3 หรือ 4 คนก็ตาม คุณจะเห็นได้จากการขาด อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน (เกมกับอุรุกวัยเป็นตัวสำรอง) รวมถึง อลัน ซาโกเยฟ (บาดเจ็บตั้งแต่เกมแรกกับซาอุฯ) ผู้เล่นทั้งสองคนนี้ต่างทำผลงานได้ดีมาก'

เดนิส เชรีเชฟ เป็นอีกคนที่ คาเปลโล่ รู้สึกประทับกับการทำผลงานของนักเตะเช่นเดียวกันหลังได้โอกาสลงเล่นแทน อลัน ซาโกเยฟ ที่บาดเจ็บในเกมแรกและลงมายิงคนเดียว 2 ประตูก่อนบวกอีก 1 ประตูในเกมชนะ อียิปต์ 3-1

'ผมมีความสุขมากกับเขา เดนิส สมควรได้รับทุกอย่าง เขาบาดเจ็บก่อนศึกฟุตบอลโลกเมื่อปี 2014 และผมไม่สามารถใส่ชื่อเขาไว้ในทีมชุดดังกล่าวถึงแม้ว่าผมอาจจะหิ้วเขาไปบราซิลเพื่อเรียกความฟิตที่นั่นได้ก็ตาม'

'เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง แต่โชคร้ายที่มีปัญหาเรื่องการจัดตัวผู้เล่นผิดพลาดกับ เรอัล มาดริด ในศึกโกปาที่เขาทำประตูได้ในสเปน ตอนนี้ที่ บียาร์เรอัล สิ่งต่างๆดูดีขึ้น กับรัสเซียตอนนี้ก็เช่นเดียวกัน ผมมีความสุขกับเขาจริงๆเพราะเขาเป็นคนดีเหมือนกับพ่อของเขาที่ผมรู้จักตอนที่เล่นกับ สปอร์ติ้ง คิฆอน' คาเปลโล่ กล่าวถึง ดมิทรี เชรีเชฟ พ่อของเดนิสซึ่งเคยค้าแข้งกับ สปอร์ติ้ง คิฆอน ในช่วงปี 1996-2001

อย่างไรก็ตาม สเปน เริ่มต้นทัวร์นาเมนต์นี้ด้วยปัญหาอย่างที่หลายท่านทราบกันดีหลัง หลุยส์ รูเบียเลส ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปนตัดสินใจปลด จูเลน โลเปเตกี ก่อนหน้าเกมประเดิมสังเวียนกับ โปรตุเกส เพียง 2 วัน ก่อน เฟร์นานโด เอียร์โร่ ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของสหพันธ์ฯจะรับไม้ดูแลทีมกระทิงต่อ ซึ่งคาเปลโล่ยังแสดงความเชื่อมั่นว่าเอียร์โร่เป็นคนที่เหมาะสมสำหรับการนำทัพ'ลา โรฆา'

'ผมเชื่อมั่นใน เฟร์นานโด เอียร์โร่ ไม่ใช่เพราะเขาเป็นเพื่อนผม แต่เป็นเพราะเขารู้เรื่องเกี่ยวกับฟุตบอลเป็นอย่างดี เขามีความพร้อมและมีบุคลิกที่เหมาะสมสำหรับการเป็นผู้นำทัพกระทิง สถานการณ์ที่เขาเป็นอยู่ในขณะนี้ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลและเขาเข้ามาดูแลทีมชาติหลังจากการปลด จูเลน โลเปเตกี'

คาเปลโล่ ร่วมชำแหละ'จุดแข็ง'และ'จุดอ่อน'ของทั้ง รัสเซีย และ สเปน ก่อนที่ทั้งสองชาติจะลงเล่นในวันอาทิตย์นี้เพื่อชิงตั๋วเข้ารอบควอเตอร์ไฟนัล ส่วนทัพกระทิงหรือทีมหมีขาวจะไปได้ไกลกว่ากัน อีกไม่นานเราคงจะทราบคำตอบ