:::     :::

ฟุตบอลโลก 1990 : สมัย 3 ของอินทรีเหล็ก

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
"แชมป์เก่า" อาร์เจนตินา กับ "รองแชมป์" เยอรมันตะวันตก กลับมาเจอกันอีกครั้งในรอบชิงชนะเลิศโดยต่างตั้งเป้าคว้าแชมป์โลกสมัย 3 ทว่าเป็น "อินทรีเหล็ก" ที่ทำได้และถอนแค้นสำเร็จ

อิตาลี ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดศึกฟุตบอลโลกปี 1990 อย่างเป็นเอกฉันท์ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ปี 1984 และพวกเขาก็สร้างสถิติเป็นชาติที่สองต่อจากเม็กซิโกที่ได้จัดศึกเวิลด์ คัพ ถึงสองสมัย โดยได้รับเลือกเหนือ อังกฤษ, สหภาพโซเวียต และ กรีซ  

เช่นเดียวกับบรรดาชาติเจ้าภาพก่อนหน้านี้ อิตาลี ทำออกมาได้ดีในแง่ของการบูรณะสนามแข่งขันทุกแห่งจนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์ทันเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ในเดือนมิถุนายน ปี 1990

อย่างไรก็ตาม คุณภาพของเกมการแข่งขันนับว่ายังไม่น่าประทับใจ เนื่องจากหลายทีมต่างเน้นเกมรับกันเป็นพิเศษ ไม่เว้นแม้แต่บราซิล ทีมที่ได้ชื่อว่าเล่นบอลสไตล์บุกได้ดีที่สุดในโลก 

"หมอผี" แคเมอรูน สร้างเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่เมื่อพลิกชนะ อาร์เจนตินา แชมป์เก่าในนัดเปิดสนามไปอย่างหวุดหวิด 1-0 ทัพฟ้า-ขาวเดินทางมาป้องกันแชมป์ด้วยการมีคู่หัวหอกอย่าง ดีเอโก้ มาราโดน่า และ เคลาดิโอ คานิกเกีย ทว่าเริ่มต้นไม่ดี 


ซัลวาตอเร่ สคิลลาชี่ โผล่ขึ้นมาคว้าตำแหน่งดาวซัลโวอย่างเซอร์ไพรส์

อิตาลีเจ้าภาพ เป็นหนึ่งในไม่กี่ทีมที่ทำผลงานได้เยี่ยมหลังเก็บชัยชนะทุกนัดในรอบแรกและไม่เสียแม้แต่ประตูเดียว นอกจากนี้ยังแจ้งเกิดดาวยิงดวงใหม่ "โตโต้" ซัลวาตอเร่ สคิลลาชี่ ส่วน บราซิล ก็เก็บชัยในรอบแรกได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เช่นกันแต่ไม่น่าประทับใจ 

เยอรมันตะวันตก ถล่ม ยูเออี จากเอเชีย และยูโกสลาเวีย ก่อนจะไปพลาดเสมอกับโคลอมเบีย ส่วนในกลุ่ม เอฟ ไอร์แลนด์ กับ ฮอลแลนด์ ต้องจับสลากหาทีมอันดับ 2 และ 3 ของกลุ่มเพื่อเข้ารอบตามอังกฤษ เนื่องจากทั้งสองทีมนี้มีแต้มและผลต่างประตูได้เสียเท่ากัน ผลปรากฏว่า "ยักษ์เขียว" ไอร์แลนด์ โชคดีจับสลากทำให้ได้เข้าไปพบกับโรมาเนีย ส่วนฮอลแลนด์จับได้อันดับ 3 ของกลุ่มเลยต้องเข้าไปชนกับของแข็งอย่างเยอรมันตะวันตกในรอบสอง

แคเมอรูนสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ด้วยการเป็นทีมแรกจากทวีปแอฟริกาที่ทะลุสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย หลังพลิกโค่น โคลอมเบีย 2-1 โรเจอร์ มิลล่า หัวหอกวัย 38 ปี เหมายิง 2 ประตูจากทั้งหมด 4 ประตูที่ทำได้ในทัวร์นาเมนต์  

อาร์เจนตินา แชมป์เก่าทำได้ดีขึ้นตามลำดับเมื่อ มาราโดน่า แผลงฤทธิ์เปิดบอลให้ เคลาดิโอ คานิเกีย หลุดเข้าไปยิงประตูในช่วงท้ายเกมให้ทีมผ่านเข้าไปพบกับบราซิลในรอบแปดทีม ส่วน เยอรมันตะวันตกของ ฟร้านซ์ เบ็คเคนเบาเออร์ เอาชนะฮอลแลนด์ได้อีกครั้งในแมตช์สุดคลาสสิกที่มิลาน  


อาร์เจนตินา กับ เยอรมันตะวันตก เจอกันรอบชิงชนะเลิศอีกครั้ง แต่ตอนจบไม่เหมือนเดิม 

อุรุกวัย เสร็จ อิตาลี ตามคาด ส่วนอังกฤษมาได้ เดวิด แพล็ท เป็นฮีโร่ พลิกตัวกดประตูชัยบอลผ่านมือ มิเชล พรูดอม นายทวารเบลเยียม ทำให้สิงโคตำรามเฉือนชนะ 3-2 ในช่วงนาทีสุดท้ายของการต่อเวลาพิเศษ ขณะที่ "ยักษ์เขียว" ไอร์แลนด์ ดวลจุดโทษชนะโรมาเนียหลังเสมอกันในเวลา 120 นาที 0-0 

เกมการแข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้ายต้องตัดสินกันด้วยการยิงลูกโทษกันหลายคู่ อาร์เจนตินา ดวลเป้าชนะยูโกสลาเวีย หลังจาก 2 สตาร์ของทั้งสองทีมคือ ดีเอโก้ มาราโดน่า และ ดราแกน สตอยโควิช ต่างพลาดจุดโทษ  

โลธ่าร์ มัทเธอุส ซัดลูกจุดโทษเป็นประตูชัยให้ทีมเยอรมันเอาชนะ เชโกสโลวาเกีย หวุดหวิด 1-0 ส่วน อังกฤษ ก็ดับผยอง "หมอผี" แคเมอรูน ลงด้วยการเบียดเอาชนะไปในช่วงต่อเวลาพิเศษ 3-2 โดยมาจากลูกจุดโทษ 2 ประตู ขณะที่ "อัซซูรี่" อิตาลี ก็ปราบ "ยักษ์เขียว" ไอร์แลนด์ ลงได้ 3-2 จากประตูชัยของ สคิลลาชี่ 

เกมรอบตัดเชือกของทั้งคู่ต้องตัดสินกันด้วยการดวลลูกโทษ อิตาลี พลาดโดนเปิดบริสุทธิ์เสียประตูแรกของทัวร์นาเมนต์หลังโดน เคลาดิโอ คานิกเกีย โขกเข้าไป และอาร์เจนตินาก็เป็นฝ่ายชนะจุดโทษที่กรุงเนเปิ้ล สนามทีมนาโปลีของ มาราโดน่า หลังจาก โรแบร์โต้ โดนาโดนี่ และ อันโด้ เซเรน่า บอดจุดโทษ 

เกมอีกคู่หนึ่งระหว่าง เยอรมันกับอังกฤษก็จบลงด้วยการเสมอกันไป 1-1 หลังช่วงต่อเวลาพิเศษ และเยอรมันก็ดวลจุดโทษชนะอังกฤษ หลังจาก สจ๊วร์ต เพียร์ซ กับ คริส วอดเดิ้ล ของอังกฤษ ยิงลูกโทษไม่เข้า ส่งผลให้เยอรมัน เข้าไปชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน 

อิตาลี เจ้าภาพ คว้าอันดับสามเป็นรางวัลปลอบใจหลังเบียดชนะอังกฤษ 2-1 โดย สคิลลาชี่ กดประตูที่ 6 พร้อมกับซิวรางวัลดาวซัลโวสูงสุดของศึกเวิลด์ คัพ ปี 1990 ไปครองอย่างพลิกความคาดหมาย


กีโด้ บุ๊ควัลด์ และ โลธาร์ มัทเธอุส รุมกินโต๊ะ ดีเอโก้ มาราโดน่า ในรอบชิงชนะเลิศ 

จากสถิติที่ผ่านมา ในรอบชิงชนะเลิศทุกสมัยตั้งแต่ปี 1930 ที่อุรุกวัย เรื่อยมาจนถึงปี 1986 ที่เม็กซิโก จะมีการทำประตูอย่างน้อย 3 แต่ครั้งนี้มีเพียงประตูเดียวเท่านั้นจากการดวลจุดโทษของ อันเดรียส เบรห์เม่ แบ็กขวารับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่เหลือซากช่วยให้เยอรมันตะวันตก คว้าแชมป์โลกสมัย 3 ไปครอง 

ส่วน อาร์เจนตินา ทีมผู้ปราชัยของ "เสือเตี้ย" มาราโดน่า ต้องประสบปัญหาอย่างหนักในทัวร์นาเมนต์นี้ เนื่องจากผู้เล่น 4 ตัวหลักต้องติดโทษแบนมาจากรอบตัดเชือก พลาดลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศ แถมยังมาโดนไล่ออกในนัดชิงกับเยอรมันตะวันตกอีกถึง 2 ราย 


แฟกต์ไฟล์ฟุตบอลโลก 

ชาติเจ้าภาพ : อิตาลี

สนาม : 12 สนาม

จำนวนทีม : 24 ทีม

จำนวนนัด : 52 นัด

วันแข่งขัน : 8 มิถุนายน - 8 กรกฎาคม 1990

จำนวนประตู : 115 ประตู (2.21 ประตูต่อนัด) 

ผู้ชมทั้งหมด : 2,516,215 คน (48,389 คนต่อนัด) 

ทีมแชมป์ : เยอรมันตะวันตก (สมัย 3) 

รองแชมป์ : อาร์เจนตินา

อันดับ 3 : อิตาลี

อันดับ 4 : อังกฤษ

รางวัลรองเท้าทองคำ : ซัลวาตอเร่ สคิลลาชี่  (อิตาลี) 6 ประตู

สรุปดาวซัลโว 

6 ประตู : ซัลวาตอเร่ สคิลลาชี่  (อิตาลี)

5 ประตู : โทมัส สคูห์ราวี่ (เชโกสโลวาเกีย)

4 ประตู : มิเชล  (สเปน), โรเจอร์ มิลล่า (แคเมอรูน), แกรี่ ลินิเกอร์ (อังกฤษ), โลธ่าร์ มัทเธอุส (เยอรมันตะวันตก) 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด