เวลา 3 ปีในถิ่น'คัมป์ นู'เป็นห้วงเวลาที่ประสบความสำเร็จมากสุดในอาชีพค้าแข้งของ เฌเรมี มาติเยอ จากการคว้าแชมป์ลีกา 2 สมัย, แชมป์โกปา เดล เรย์ 3 สมัย, แชมป์สแปนิช ซูเปอร์ คัพ 1 ครั้ง, แชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก, แชมป์ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ กับ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ อีกรายการละครั้ง
    แต่นอกเหนือจากความสำเร็จข้างต้นมันไม่มีอะไรที่น่าจดจำสำหรับกองหลังชาวฝรั่งเศสผู้นี้เลย...
    บาร์เซโลน่า จ่ายเงิน 20 ล้านยูโรเพื่อซื้อสัญญา มาติเยอ จากบาเลนเซียในช่วงซัมเมอร์ปี 2014 ท่ามกลางความงุนงงสงสัยของคนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชนแคว้นกาตาลุนย่า รวมถึงสาวกบาร์เซโลนิสต้าอีกจำนวนไม่น้อย

    สืบเนื่องจากมาติเยอขณะนั้นอายุ 29 ปีและเป็นกองหลังที่ไม่มีความสามารถโดดเด่นจนสโมสรต้องยอมจ่ายเงินถึง 20 ล้านยูโรเพื่อดึงมาร่วมทีมแม้ว่านักเตะจะเล่นได้ทั้งแบ็กซ้ายและเซนเตอร์ฮาล์ฟมีสเป็คตรงตามความต้องการของ หลุยส์ เอ็นรีเก้ ก็ตาม
    มาติเยอถูกดึงเข้ามาเป็นอะไหล่แนวรับของทีมอาซูลกราน่าแต่มีมูลค่าสูงถึง 20 ล้านยูโร ดังนั้นกองหลังชาวฝรั่งเศสจึงถูกสื่อและแฟนบอลจับตามองเป็นพิเศษ ตลอด 3 ปีที่ค้าแข้งในถิ่น'คัมป์ นู'มาติเยอลงเล่นทุกรายการรวมกันถึง 91 นัด แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้น
    'ในกาตาลุนย่า ผมได้ลงเล่นหลายนัดและคว้าแชมป์มากมาย ดังนั้นมันจึงเป็นความทรงจำที่มีความสุขสำหรับผม'
    'ผู้คนคิดผมที่พูดว่าผมไม่ได้ลงสนามมากนัก ในซีซั่นแรกผมลงเล่นถึง 58% และฤดูกาลที่สองอยู่ระหว่าง 53%-54% และมันน่าจะมากกว่านั้นด้วยหากผมไม่ได้รับบาดเจ็บ'มาติเยอกล่าว
    ด้วยการเป็นนักเตะที่ผู้คนไม่ปลื้มเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แม้บางเกมมาติเยอจะเล่นดีก็แทบไม่มีเสียงชม แต่เกมไหนเล่นแย่มีเสียงด่าไล่หลังตามมาระงม จนกระทั่งถึงจุดต่ำสุดของกองหลังชาวฝรั่งเศสที่เขาคิดว่ามันไม่ยุติธรรมจนถึงทุกวันนี้
    หายนะของมาติเยอเกิดขึ้นที่เมืองตูรินในการเล่นรอบควอเตอร์ไฟนัลนัดแรกบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา
    หลุยส์ เอ็นรีเก้ ตัดสินใจปรับทัพมาเล่นระบบ 3 เซนเตอร์ส่ง มาติเยอ ลงเล่นตัวจริงพร้อม เคราร์ด ปีเก้ และ ซามูแอล อุมติตี้ แต่กองหลังชาวฝรั่งเศสถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามช่วงพักครึ่งหลังก่อความผิดพลาดจนทีมสังเวยประตูแรกให้ เปาโล ดีบาล่า และยังถูกมองว่าเข้าสกัดคู่แข่งหรือเข้าปะทะอ่อนปวกเปียกจนมีส่วนทำให้ทีมอาซูลกราน่าเป็นฝ่ายตามหลังในช่วง 45 นาทีแรก 0-2 ก่อนพ่ายทีมม้าลายไปด้วยสกอร์ 0-3 ก่อนกระเด็นตกรอบในท้ายที่สุด

    'ผมกลับไปดูแมตช์กับยูเวนตุสอีกครั้งและทุกคนพูดว่าผมเป็นตัวปัญหา'มาติเยอเปิดเผยกับมาร์ก้า
    'มันเป็นความจริงสำหรับเรื่องประตู ผมมีส่วนทำให้ทีมเสียหนึ่งประตูและผมสกัดบอลไม่ดี มันแฉลบจากผม แต่จากนั้นยูเว่ผ่านบอลและพวกเขาสามารถพูดได้ว่า'มาสเคราโน่หรือปีเก้กำลังทำอะไร? แต่ไม่เลย นั่นเป็นเพียงความคิดเห็นของผมเท่านั้น'
    เมื่อเอ็นรีเก้ซึ่งเป็นคนดึงมาติเยอจากทีมค้างคาวมาสู่'คัมป์ นู'ประกาศอำลาตำแหน่งทันทีที่จบฤดูกาลที่ผ่านมา หลายคนมองทิศทางเดียวกันว่ากองหลังชาวฝรั่งเศสจะถูกสโมสรโละทิ้งเป็นคนแรก
    มาติเยอตกเป็นข่าวว่าจะถูกทีมอาซูลกราน่าเทให้ เบซิคตัส ทีมดังของตุรกี ก่อนที่ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ทาบทามดึงนักเตะเข้าสังกัด ซึ่งบาร์เซโลน่าใส่พานประเคนกองหลังวัย 33 ปีให้ทีมดังโปรตุเกสแทบจะทันทีด้วยการยกเลิกสัญญาที่เหลืออีก 1 ปีเพื่อเปิดทางให้มาติเยอย้ายไปแบบไม่มีค่าตัว

    เฌเรมี มาติเยอ เข้ามาเป็นกองหลังตัวหลักของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน หลัง จอร์จ เชซุส ส่งลงเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่ เซบาสเตียน โกอาเตส ซึ่งกองหลังชาวฝรั่งเศสมีส่วนทำให้ต้นสังกัดใหม่ทำผลงานช่วงออกสตาร์ตฤดูกาลสวยหรูก่อนสะดุดเสมอ มาริติโม่ 0-0 จนเสียบัลลังก์จ่าฝูงให้ เอฟซี ปอร์โต้ ซึ่งคว้าชัย 7 นัดรวด
    แต่เหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิตให้มาติเยอมีโอกาสพิสูจน์ความสามารถต่อผู้คนที่เคยเหยียดหยามเขาอีกครั้งเมื่อ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ถูกจับอยู่รอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีกร่วมกับทีมอาซูลกราน่าและมาติเยอจะนำต้นสังกัดใหม่ลงดวลกับทีมเก่าบนสังเวียน'เอสตาดิโอ โชเซ่ อัลวาลาเด้'คืนวันพุธนี้
    มีคำถามเกิดขึ้นมากมายสำหรับมาติเยอและหนึ่งในนั้นคือเขาจะแสดงความยินดีหรือไม่หากสามารถทำประตูทีมเก่าสำเร็จ กองหลังวัย 33 ปีชี้แจงว่า'ผมยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ผมมีความเคารพอย่างสูงต่อเพื่อนร่วมทีมเก่าและแฟนบอล'
    แต่สำหรับฝ่ายบริหารของบาร์เซโลน่าซึ่งเจตนาเขี่ยเขาพ้นถิ่น'คัมป์ นู'อาจเป็นอะไรที่แตกต่างสำหรับมุมมองของมาติเยอ 'ถ้าผมจะฉลอง มันจะเป็นสำหรับ (โจเซป มาเรีย) บาร์โตเมว และ โรเบิร์ต เฟร์นานเดซ เพราะผมคิดว่าวิธีที่พวกเขาปฏิบัติต่อผมเป็นเรื่องยากมากสำหรับผม มันจะเป็นการฉลองเฉพาะสองคนนี้เท่านั้น แต่นั่นคือฟุตบอลและตอนนี้ผมมีความสุขสุดๆ ผมไม่แคร์ใครอีกต่อไป'

    มาติเยอยอมรับว่า สปอร์ติ้ง ลิสบอน เป็นที่ที่ทำให้เขามีความสุขและรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเหมือนตอนที่ค้าแข้งกับบาเลนเซีย 'ผมยังเคารพสโมสรบาร์เซโลน่า แต่ที่นีผมมีความรู้สึกเหมือนตอนอยู่บาเลนเซีย มันเป็นสโมสรที่เป็นเหมือนครอบครัวมากๆและผมรู้สึกสบายใจตั้งแต่วันแรกที่มาถึงที่นี่'
    แต่สำหรับช่วงเวลา 3 ปีกับบาร์เซโลน่ากลายเป็นเพียงภาพความทรงจำเฉพาะอาชีพค้าแข้งของเขาเท่านั้น 'บาร์เซโลน่า? มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับผมที่มีโอกาสแบ่งปันห้องแต่งตัวกับผู้เล่นแบบนั้น แต่ผมจะเรียกพวกเขาว่าเพื่อนร่วมงานมากกว่าเพื่อนที่มีความสำคัญกับผมมากกว่า'
    กองหลังวัย 33 ปียังระบายความในใจไปถึงบรรดาสื่อมวลชนแคว้นกาตาลุนย่าที่ตามเล่นงานของแบบไม่เป็นธรรมอีกด้วยโดยเฉพาะ'สปอร์ต'สื่อกีฬายักษ์ใหญ่ของนครบาร์เซโลน่า'ไม่ใช่สื่อทั้งหมด แต่เป็นเฉพาะหนังสือพิมพ์สปอร์ตเท่านั้น'
    'ผมเป็นเหมือนเด็กกะโหลกกะลาสำหรับพวกเขาเพราะทุกครั้งที่ผมเล่น พวกเขามักจะนำเสนอข่าวแย่ๆเกี่ยวกับผม แต่อยากจะบอกว่า ฟุตบอลเป็นกีฬาที่เล่นกันเป็นทีมและเมื่อคุณแพ้ มันก็ไม่ใช่ความผิดพลาดของใครคนใดคนหนึ่ง นั่นเป็นมุมมองของผม'

    มาติเยอยังสร้างความประทับใจให้แฟนบอลสปอร์ติ้งไม่น้อยในช่วงเริ่มต้น กองหลังชาวฝรั่งเศสพังประตูแรกกับต้นสังกัดใหม่ด้วยการยิงฟรีคิกให้ทีมขึ้นนำ ทอนเดล่า ตั้งแต่ช่วงต้นเกมก่อนทีมของ จอร์จ เชซุส จะคว้าชัยด้วยสกอร์ 2-0 เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
    'ผมมีความสุขมากเพราะเราคว้าชัยชนะเกือบทุกนัดและผมยังได้ลงเล่นเกือบทุกเกมด้วย ผมกำลังอยู่ในช่วงปลายอาชีพค้าแข้งและผมต้องการสนุกกับมันให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมมีความสุขสุดๆกับที่นี่'
    เฌเรมี มาติเยอ ย้ายออกจากถิ่น'คัมป์ นู'ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ก่อนเนย์มาร์จะอำลาทีมอาซูลกราน่าเพื่อย้ายไปค้าแข้งกับเปแอสเชในเวลาต่อมา แต่กองหลังชาวฝรั่งเศสมองว่าการย้ายทีมของซุปตาร์บราซิเลียนจะไม่ส่งผลกระทบต่อบาร์เซโลน่าเพราะยังแข้งเทพอย่างเมสซี่อยู่นั่นเอง
    'ตอนนี้พวกเขาคว้าผลการแข่งขันที่ดีและทีมมีส่วนที่ทำให้เกิดความแตกต่างนั่นคือเมสซี่' มาติเยอจะต้องลงเผชิญหน้ากับนักเตะดีที่สุดในโลกอย่างเมสซี่ในวันพุธนี้ ซึ่งมันอาจจะเป็นฝันร้ายหวนกลับมาหลอกหลอนเขาอีกค่ำคืนก็เป็นได้