กระนั้นผมขอรับประกันเลยว่าช่วงต่อจากนี้ไปเราชาวหงส์แดงจะได้ตื่นเต้นราวนั่งรถไฟเหาะกับตลาดซัมเมอร์อีกครั้งแน่

    แว่วๆ ว่าล่าสุดกำลังจะได้ตัว เซอร์ดาน ชากิรี่ มาจาก สโต๊ค แล้ว

    โอเค เขาอาจไม่ใช่คนที่เข้ามาแล้วเป็นตัวหลักหวังพึ่งได้ แต่ ลิเวอร์พูล ก็ขาดขุมกำลังทดแทนฝีเท้าดีๆ มานานมากแล้วไม่ใช่เหรอ...

    ที่ผ่านมา ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ลงวาดลวดลายในเกมอุ่นเครื่องไปแล้ว 2 นัด ซึ่งก็กวาดชัยได้เรียบ

    มันไม่น่าแปลกเพราะเหล่าคู่แข่งที่เจอล้วนเป็นทีมเล็กกว่าอย่าง เชสเตอร์ เอฟซี และ ทรานเมียร์ โรเวอร์ส

    จริงๆ มันก็เป็นเพียงออเดิร์ฟปรีซีซั่นที่ยังไม่น่ามีอะไรให้พูดถึง

    แต่ความน่าสนใจมันอยู่ที่ 2 ดาวดังดวงใหม่ในถิ่นแอนฟิลด์อย่าง นาบี เกอิต้า และ ฟาบินโญ่ ได้ประเดิมสนามในสีเสื้อหงส์แดงแล้ว

    ในรายของ เกอิต้า แฟนลิเวอร์พูล น่าจะได้ติดตามฟอร์มของเขามาบ้างหลังสโมสรประกาศคว้าตัวมิดฟิลด์พลังไดนาโมล่วงหน้าเป็นปี

    แต่กับกองกลางบราซิเลี่ยนนั้น เขายังค่อนข้างใหม่ ซึ่งหากไม่ใช่แฟนตัวยงของเวทีลีก เอิง ก็คงจะไม่ได้ยลฝีเท้าของเขามากสักเท่าใดนัก

    "ผมเฝ้าติดตามสโมสรอย่างใกล้ชิดตลอดช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และพวกเขาก็พัฒนาขึ้นอย่างมากมายภายใต้การคุมทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ เขาบอกผมว่าผมอาจจะได้เล่นในตำแหน่งต่างๆ แต่แผนการคือใช้ผมในตำแหน่งมิดฟิลด์ และผมก็พร้อมที่จะเล่นไม่ว่าตำแหน่งไหนก็ตามที่เขาต้องการ เขาสร้างความประทับใจให้อย่างมากมาย"

    "เขาบอกผมถึงสิ่งที่จำเป็นต่อการเล่นในอังกฤษและเขาก็อยากได้นักเตะอย่างผม มันถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ยินคำชมแบบนั้น และนั่นคือสิ่งที่ผมต้องการสำหรับอาชีพการค้าแข้ง การย้ายไปยังสโมสรยักษ์ใหญ่ที่รู้ว่าพวกเขาเชื่อมั่นในตัวผม"

    "วันที่ผมเซ็นสัญญาคือวันแห่งการเลี้ยงฉลอง! ทั้งภรรยาและผมต่างยิ้มกันไม่หุบ ผมรู้สึกเป็นกังวลมากๆ ตลอดช่วงการเจรจา ดังนั้น พอมันถึงเวลาที่ผมจะเซ็นสัญญา ผมจึงรู้สึกว่าตัวเองคงไม่อาจมีความสุขได้มากกว่านี้ไปอีกแล้ว มันคือฝันที่เป็นจริง"

    "ตอนที่ผมเข้าตรวจร่างกาย ผมเอาแต่ถามคนอื่นว่า -เมื่อไหร่จะเสร็จซะที?- คุณรู้ดีว่าคุณไม่ได้มีโอกาสเซ็นสัญญากับหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกทุกวัน! สโมสรที่มีประวัติศาสตร์อย่าง ลิเวอร์พูล ต้องการคุณ? คุณแค่เก็บกระเป๋าและออกเดินทาง! มันจะเป็นเกียรติที่ได้สวมเสื้อสีแดงอันโด่งดัง สำหรับสโมสรอย่าง ลิเวอร์พูล ฤดูกาลที่ดีหมายถึงการคว้าแชมป์"

    "บางทีเราน่าจะสามารถคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกได้ เราเกือบที่จะคว้าแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ผมมองในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคต และผมก็ตั้งตารอที่จะคว้าแชมป์อย่างมากมายร่วมกับ ลิเวอร์พูล" ฟาบินโญ่ กล่าว

    แม้จะเป็นนักเตะชื่อดังที่ได้รับการยอมรับในวงกว้างพอสมควร ทว่ากองกลางรายนี้ก็ติดทีมชาติไปเพียง 4 นัดเท่านั้น แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เก่งหรือไม่คู่ควร

    การปรับตัวในเมอร์ซี่ย์ไซด์สำหรับนักเตะจากละตินอเมริกานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ ฟาบินโญ่ น่าจะไปได้สวยเนื่องจากมี โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ซึ่งเป็นบราซิเลี่ยนด้วยกันคอยช่วยเหลืออยู่แล้ว

    "ตอนที่เราใกล้ที่จะตกลงสัญญาได้แล้ว โรแบร์โต้ เริ่มให้คำแนะนำกับผมเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในเมืองนี้ เขาบอกผมว่า ลิเวอร์พูล เป็นสถานที่มหัศจรรย์ แค่อากาศหนาวไปหน่อยในบางครั้ง!"

    แน่นอน ตอนนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คือสตาร์หมายเลขหนึ่งของทีมไปแล้ว และ ฟาบินโญ่ เองก็จะได้ร่วมเล่นกับเขาในทุกๆ สัปดาห์ข้างหน้านี้

    "มันเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้ดูเขาเล่นและเขาก็พัฒนาขึ้นทุกๆ ปี เขามีสิทธิ์ที่จะฝันถึงการคว้ารางวัลบัลลงดอร์จากสถิติต่างๆ ของเขาและความสำเร็จในฤดูกาลหน้า มันเป็นเรื่องเยี่ยมที่ได้เห็นว่าเขาสามารถปรับตัวเข้ากับ ลิเวอร์พูล ได้รวดเร็วแค่ไหน ซึ่งมันช่วยเป็นกำลังใจให้กับผม"

    สำหรับเด็กหงส์อย่างเราก็หวังได้เพียงว่า ฟาบินโญ่ จะเข้ามาเป็นหัวใจหลักตรงกลางสนามให้ทีม

    พร้อมพิสูจน์ตัวเองว่าจำนวนเงินก้อนใหญ่ที่ลงทุนไปนั้นไม่เสียเปล่า