:::     :::

ฟุตบอลโลก 2006 : เกมรับฉบับอิตาลี

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เจ้าภาพเยอรมันหมายมั่นปั้นมืออย่างมากที่จะคว้าแชมป์ในบ้านให้ได้ ทว่าเป็น 2 ทีมที่ผลงานไม่ดีในฟุตบอลโลกครั้งก่อนอย่าง อิตาลี และ ฝรั่งเศส เข้าไปเจอกันในรอบชิงชนะเลิศก่อนเป็น "อัซซูร์รี่" คว้าแชมป์โลกสมัย 4 ไปครอง

ในรอบคัดเลือกมีจำนวนทีมถึง 198 ทีมเข้าร่วมแข่งขัน ก่อนได้หน้าใหม่หลายชาติเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกไม่ว่าจะเป็น แองโกลา, ไอวอรี่โคสต์, เซอร์เบีย แอนด์ มอนเตเนโกร, ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก และ โตโก แต่ทีมอันดับ 3 จากฟุตบอลโลก 2002 อย่าง ตุรกี กลับตกรอบคัดเลือก 

ทัพอินทรีเหล็กที่ยังมีจอมโขกอย่าง มิโรสลาฟ โคลเซ่ เป็นความหวังแดนหน้าเก็บชัย 3 นัดรวดในรอบแรก ขณะที่ อังกฤษ, โปรตุเกส, อิตาลี, บราซิล, ฝรั่งเศส, สเปน รวมถึง อาร์เจนตินา และ ฮอลแลนด์ ที่อยู่กลุ่มเดียวกัน ต่างเข้ารอบน็อกเอาต์ได้ทั้งหมด

เยอรมันทุบสวีเดนนิ่ม 2-0 จาก 2 ประตูของ ลูคัส โพดอลสกี้ ส่วนอาร์เจนตินาหืดจับเล็กน้อยกว่าจะผ่าน เม็กซิโก ในช่วงต่อเวลาพิเศษ เช่นเดียวกับ อิตาลี ที่ได้จุดโทษน่ากังขาในช่วงทดเจ็บช่วยให้เบียดชนะออสเตรเลีย 1-0 


"แชมป์เก่า" บราซิล ถูกฝรั่งเศสเขี่ยตกรอบก่อนรองชนะเลิศ

บิ๊กแมตช์ของรอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็น ฝรั่งเศส ที่ยังมี ซีเนดีน ซีดาน นำทัพโคจรมาพบกับ สเปน ก่อนเป็นขุนพลตราไก่เอาชนะไป 3-1 ส่วนบราซิล กับ อังกฤษ ก็คว้าตั๋วเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศได้ตามคาด

4 คู่ของรอบก่อนรองชนะเลิศสู้กันจนถึงดวลจุดโทษ 2 คู่ เยอรมัน ต้องไล่ตามตีเสมอ อาร์เจนตินา 1-1 และรักษาความยอดเยี่ยมในการสังหารลูกนิ่ง 12 หลาเอาชนะไป 4-2

อังกฤษ เจอฝันร้ายในการยิงจุดโทษอีกครั้งในการตัดสินฎีกากับโปรตุเกส สตีเว่น เจอร์ราร์ด, แฟร้งค์ แลมพาร์ด และ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ต่างยิงพลาดทั้งหมด มีเพียง โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ที่ส่งบอลตุงตาข่าย 

อิตาลี ไม่เจองานยากนักในการดับซ่า ยูเครน ในสกอร์ 3-0 ลูก้า โทนี่ หัวหอกร่างโย่งซัดคนเดียว 2 ประตู อีกลูกเป็นผลงานของ จานลูก้า ซามบร็อตต้า ขณะที่เกมรับยังคงเหนียวแน่นเสียเพียงประตูเดียวจาก 5 นัด และเป็นการทำเข้าประตูตัวเองของ คริสเตียน ซัคคาร์โด้ ในรอบแบ่งกลุ่มกับสหรัฐฯ


"เจ้าภาพ" เยอรมันพ่ายอิตาลีในรอบรองชนะเลิศ 

เกมที่หลายคนจับตามองไม่แพ้คู่อื่นคือ แชมป์เก่าบราซิล พบกับ ฝรั่งเศส หลายคนที่เคยเจอกันในรอบชิงฯ เมื่อ 8 ปีก่อนกลับมาเจอกันอีกครั้งไม่ว่าจะเป็น โรนัลโด้, โรแบร์โต้ คาร์ลอส และ คาฟู ของฝั่งแซมบ้า ส่วนตราไก่ก็ยังคงมี ซีเนดีน ซีดาน, ลิลิยอง ตูราม, ฟาเบียง บาร์กเตซ และ เธียร์รี่ อองรี 

แฟนบอลได้ทึ่งกับฝีเท้าของ ซีดาน ที่งัดฟอร์มเก่งออกมาได้อีกครั้ง เป็นตัวคุมจังหวะเกมรุกทั้งหมด และทำเอาแซมบ้าทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันก่อนเป็นคนเปิดฟรีคิกให้ เธียร์รี่ อองรี ทำประตูชัย 1-0 ช่วยให้ฝรั่งเศสเขี่ยแชมป์เก่าบราซิลตกรอบในที่สุด

ซีดาน ยังคงเล่นด้วยฟอร์มยอดเยี่ยมในรอบตัดเชือกกับโปรตุเกสโดยเป็นยิงจุดโทษในชัยชนะ 1-0 พาทีมเข้าชิงชนะเลิศได้อีกครั้ง แต่คู่ชิงฯ ไม่ใช่เจ้าภาพเยอรมันที่ดันพ่ายอิตาลีในช่วงต่อเวลา 0-2 หลัง 90 นาทีทำอะไรกันไม่ได้

รอบชิงชนะเลิศยังเป็น ซีดาน ที่ถูกพูดถึงอีกครั้ง เขาซัดจุดโทษให้ทีมออกนำอิตาลีตั้งแต่ต้นเกม ทว่า มาร์โก มาเตรัซซี่ ก็มาทำประตูตีเสมอ 1-1 และจากนั้นทำอะไรกันไม่ได้จนต้องไปว่ากันในช่วงต่อเวลาพิเศษ

ขณะที่เกมกำลังตึงเครียดและกดดันสุดๆ เหตุการณ์ช็อกโลกก็เกิดขึ้นเมื่อ ซีดาน โดนใบแดงไล่ออกหลังเอาหัวไปโขก มาเตรัซซี่ ที่พูดยั่วยุถึงบุพการีจนทำให้จอมทัพตราไก่ตบะแตก และปิดฉากอาชีพอย่างสุดดราม่า 

ในช่วงดวลจุดโทษเป็นอิตาลีที่แม่นยำกว่ายิงเข้าทั้งห้าคนทำให้คว้าแชมป์โลกไปครองเป็นสมัยที่ 4 และเป็นสมัยแรกนับตั้งแต่ปี 1982 ส่วนฝรั่งเศสได้เพียงรองแชมป์  


ซีเนดีน ซีดาน เฮดบัตต์ใส่หน้าอก มาร์โก มาเตรัซซี่ จนโดนไล่ออกในรอบชิงชนะเลิศ

แฟกต์ไฟล์ฟุตบอลโลก 

ชาติเจ้าภาพ : เยอรมัน

สนาม : 12 สนาม

จำนวนทีม : 32 ทีม

จำนวนนัด : 64 นัด

วันแข่งขัน : 9 มิถุนายน - 9 กรกฎาคม 2006ป

จำนวนประตู : 147 ประตู (2.3 ประตูต่อนัด

ผู้ชมทั้งหมด : 3,359,439 คน (52,491 คนต่อนัด)  

ทีมแชมป์ :  อิตาลี

รองแชมป์ :  ฝรั่งเศส

อันดับ 3 : เยอรมัน

อันดับ 4 : โปรตุเกส 

รางวัลรองเท้าทองคำ : มิโรสลาฟ โคลเซ่ (เยอรมัน) 5 ประตู

สรุปดาวซัลโว

5 ประตู :  มิโรสลาฟ โคลเซ่ (เยอรมัน)

3 ประตู : เอร์นาน เครสโป (อาร์เจนตินา), มักซี่ โรดริเกซ (อาร์เจนตินา), โรนัลโด้ (บราซิล), เธียร์รี่ อองรี (ฝรั่งเศส), ซีเนดีน ซีดาน (ฝรั่งเศส), ลูคัส โพดอลสกี้ (เยอรมัน), เฟร์นานโด ตอร์เรส (สเปน), ดาบิด บีย่า (สเปน) 



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด