นอกจากชัยชนะของทีมชาติฝรั่งเศส เหนือทีมชาติโครเอเชีย 4-2 ในรอบรองชนะเลิศแล้ว มันยังถือว่าเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของพลพรรค "ตราไก่"
พร้อมกันนี้ มันยังเป็นการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ต่อจากปี 1998 ที่พวกเขารับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพอีกด้วย
แน่นอนว่า เมื่อทัวร์นาเมนต์จบลงไปแล้ว มันย่อมทิ้งท้ายด้วยตัวเลขทางสถิติที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของฟีฟ่า ทำการรวบรวมตัวเลขที่น่าสนใจ ในแบบฉบับที่ไม่เหมือนใครมาให้เราได้ดูกัน
519
519 เซนติเมตร คือส่วนสูงรวมกันของลูก้า โมดริช (172), เอเด็น อาซาร์ (173) และอองตวน กรีซมันน์ (174) ซึ่งเป็นกลุ่มนักเตะที่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยม 3 อันดับ
ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสูงรวมที่น้อยที่สุด รองจากโตโต้ สคิลลาชี่, โลธาร์ มัทเธอุส และดิเอโก้ มาราโดน่า ที่รวมกัน 512 เซนติเมตร ในเวิลด์ คัพ 1990
135
135 ปี 3 เดือน คืออายุรวมกันของออสการ์ ตาบาเรซ ผู้จัดการทีมชาติอุรุกวัย และเฟอร์นานโด ซานโตส กุนซือทีมชาติโปรตุเกส ที่โคจรมาเจอกันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ซึ่งเป็นการเจอกันของสองผู้จัดการทีมที่มีอายุรวมกันมากสุดในเวิลด์ คัพ รอบสุดท้าย เป็นการทำลายสถิติเดิมของตาบาเรซ และรอย ฮอดจ์สัน อดีตนายใหญ่ทีมชาติอังกฤษ ที่จำนวนรวม 134 ปี ในฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้าย
72.5
72.5 กิโลเมตร คือจำนวนระยะทางรวมที่อิวาน เปริซิช ดาวเตะทีมชาติโครเอเชีย วิ่งไปในฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย จากการลงสนาม 638 นาที ถือเป็นตัวเลขที่มากกว่าใครเพื่อนเลยทีเดียว
40
ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา จะต้องมีนักเตะจากสโมสรบาเยิร์น มิวนิค และอินเตอร์ มิลาน ผ่านเข้ามาเล่นในฟุตบอลโลก นัดชิงชนะเลิศ อย่างน้อยหนึ่งคน
โดยครั้งที่เพิ่งผ่านพ้นไปนั้น พลพรรค "เสือใต้" มีตัวแทนอย่างโกร็องแต็ง โตลิสโซ นักเตะของทีมชาติฝรั่งเศส ขณะที่พลพรรค "งูใหญ่" มีตัวแทนอย่างมาร์เซโล่ โบรโซวิช และอิวาน เปริซิช
21
21 ชั่วโมง 10 นาที คือจำนวนเวลารวมที่ลิโอเนล เมสซี่ ซูเปอร์สตาร์ของทีมชาติอาร์เจนติน่า และคริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีมชาติโปรตุเกส ไม่สามารถยิงประตูได้ในฟุตบอลโลก รอบน็อคเอาท์
18
18 คือจำนวนเกมที่ทีมจากเอเชีย ไม่สามารถเอาชนะทีมจากอเมริกาใต้ ในศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย จนกระทั่งทีมชาติญี่ปุ่น มาปลดล็อค ด้วยการเอาชนะโคลอมเบีย 2-1 ในรอบแบ่งกลุ่ม
14.3
14.3 คือเปอร์เซนต์การเซฟของดาบิด เดเคอา นายทวารทีมชาติสเปน ซึ่งต่ำที่สุดในฟุตบอลโลกหนนี้ โดยเจ้าตัวทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง เมื่อเซฟไปแค่ครั้งเดียว พร้อมกับโดนคู่แข่งยิงประตูมากถึง 6 ลูก จากการลงเฝ้าเสา 4 เกม
12
12 คือจำนวนการทำเข้าประตูตัวเองในฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ถือเป็นสถิติที่มากสุดในเวิลด์ คัพ แซงหน้าฟุตบอลโลก 1998 ที่มีการทำเข้าประตูตัวเองเพียงแค่ 6 ลูกเท่านั้น
11
11 คือจำนวนครั้งในการลุ้นยิงประตูของแฮร์รี่ แม็คไกวร์ ปราการหลังทีมชาติอังกฤษ เหนือกว่าบรรดานักเตะในแผงแนวรุกอย่างกาเบรียล เชซุส (10), ลูก้า โมดริช (10), กิลฟี่ ซิเกิร์ดสัน (10), ราฮัม สเตอร์ริ่ง (10)
หรือแม้กระทั่ง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (9), ราดาเมล ฟัลเกา (8), คิลียัน เอ็มบัปเป้ (8), ปอล ป็อกบา (8), เซร์คิโอ อเกวโร่ (6) และเดเล่ อัลลี (5) ส่วนนักเตะที่ลุ้นยิงประตูมากสุดประจำทัวร์นาเมนต์คือเนย์มาร์ ที่จำนวน 27 หนด้วยกัน
7
7 ครั้งติดต่อกันที่ทีมชาติเม็กซิโก ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย หรือว่านับตั้งแต่เวิลด์ คัพ 1994 เป็นต้นมา พวกเขาไม่เคยไปได้ไกลกว่ารอบนี้เลย
4
คือจำนวนการเซฟจุดโทษในฟุตบอลโลกของดานิเยล ซูบาซิช นายทวารทืมชาติโครเอเชีย ถือเป็นนายด่านรายที่ 3 ที่ทำได้ต่อจากฮารัลด์ ชูมัคเกอร์ (เยอรมัน) และเซร์คิโอ กอยโคเชีย (อาร์เจนติน่า)
