โดยพลพรรค "กระทิงดุ" กระเด็นตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยการพ่ายเจ้าภาพอย่างรัสเซีย ชนิดที่ครองเกมเหนือกว่ามากๆ และพับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียว
นอกจากผลงานที่ไม่ตรงตามเป้าหมายแล้ว ทีมชาติสเปน ยังมีปัญหาก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่มต้นขึ้น เมื่อทำการปลด "ฆูเลน โลเปเตกี" ที่รับงานคุมทีมเรอัล มาดริด ล่วงหน้าออกจากตำแหน่ง
พร้อมกับแต่งตั้ง "เฟร์นานโด เอียร์โร่" เป็นกุนซือขัดตาทัพ แน่นอนว่า มันตามมาด้วยเสียงวิจารณ์ไม่น้อยว่า เหมาะสมหรือไม่ในการเปลี่ยนแปลงตัวผู้จัดการทีมกลางคันแบบนี้
ซึ่งหลังจากจบการแข่งขันฟุตบอลโลก สมาคมฟุตบอลสเปน จึงแต่งตั้ง "หลุยส์ เอ็นริเก้" เป็นแม่ทัพคนใหม่ โดยอดีตนายใหญ่บาร์เซโลน่า รายนี้มองว่า ทีมชาติสเปน สามารถพัฒนาต่อไปได้ และมีอนาคตที่สดใสรออยู่
ความรู้สึก
หลุยส์ เอ็นริเก้ กล่าวว่า เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้รับงานคุมทีมชาติบ้านเกิด พร้อมกับกำชับว่า จะปลูกฝังแนวคิดแห่งชัยชนะให้กับลูกทีมอย่างแน่นอน
โดยกล่าวว่า "ผมรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก กับความท้าท้ายในครั้งนี้ ผมจะทำทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อให้ทีมก้าวไปอีกระดับหนึ่ง ส่วนตัวของผมมีความพร้อม และกระตือรือร้นที่จะเอาชนะการแข่งขัน ทั้งหมดที่ผมจะพูดคือ ออกไปเอาชัยชนะกัน"
พัฒนาไม่ใช่ปฏิวัติ
เอ็นริเก้ ยืนยันว่า การรับงานคุมทีมชาติสเปน เขาจะไม่เข้ามาเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่มันดีอยู่แล้ว โดยจะเสริมในส่วนที่เป็นจุดบกพร่องของทีมเท่านั้น
โดยกล่าวว่า "เราจะทำงานด้วยแผนการแบบเดิม มันเป็นวิธีเดียวกันกับที่อดีตโค้ชทีมชาติสเปน อย่างหลุยส์ อราโกเนส ใช้มา เราจะสานต่อตรงนี้ต่อไป"
"ผมเชื่อว่าทีมชาติสเปน สามารถพัฒนาได้ เราจะเน้นการเล่นแบบครอบครองบอลต่อไป และเสริมด้วยการเล่นรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นการปรับปรุงให้มันดีขึ้น"
ปรับยุทธวิธี
เอ็นริเก้ บอกว่า เขาเห็นจุดอ่อนของทีมชาติสเปน จากศึกเวิลด์ คัพ ครั้งที่ผ่านมา นอกจากการจบสกอร์แล้ว พื้นที่สุดท้ายยังเป็นจุดที่น่าเป็นห่วง ซึ่งจะพยายามให้ลูกทีมเปลี่ยนโอกาสให้กลายเป็นประตูให้ได้
โดยกล่าวว่า "ในทางกลยุทธ์ เรามีหลายอย่างที่สามารถพัฒนาต่อไปได้ (โดยเฉพาะการเข้าทำในพื้นที่หน้าปากประตูคู่แข่งที่เป็นปัญหาอย่างมากในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย)"
"การเปลี่ยนแปลงโอกาสเป็นประตู ถือเป็นเรื่องที่ยากที่สุด เรามีงานมากมายที่รออยู่ เพื่อให้มันสอดคล้องกับบรรดาผู้เล่นกลุ่มนี้ นี่คืองานของเราเลย"
จิตวิทยา
นอกจากผลงานในสนามแล้ว เรื่องนอกสนามก็ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญเช่นเดียวกัน โดยเอ็นริเก้ จะเน้นในเรื่องของจิตวิทยา และให้ความสำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านนี้อย่างโจอาควิน บัลเดส อยู่ในทีมงานของเขาด้วย
โดยกล่าวว่า "นักจิตวิทยาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เราจะใช้กับบรรดานักเตะ เราจะช่วยพวกเขามากที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของพวกเขาให้ดีขึ้น"
เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับหลุยส์ เอ็นริเก้
- ผ่านการเล่นกับทีมชาติสเปน 66 เกม
- ผ่านฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย กับทีมชาติสเปน ในฐานะนักเตะ 3 ครั้ง นั่นคือ 1994, 1998 และ 2002
- ในฐานะโค้ช สามารถพาสโมสรบาร์เซโลน่า กวาดแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย, สโมสรโลก 1, ลาลีกา 2, โกปา เดล เรย์ 3, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 1 และสแปนิช ซูเปอร์ คัพ 1
กำหนดการต่อไปของทีมชาติสเปน
- 31 สิงหาคม ประกาศรายชื่อผู้เล่นชุดแรก ภายใต้การคุมทีมของหลุยส์ เอ็นริเก้
- 8 กันยายน ลงเล่นกับทีมชาติอังกฤษ ในศึกลูกหนังรายการใหม่ของยุโรปอย่าง "ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก"
- 11 กันยายน ลงเล่นกับทีมชาติโครเอเชีย ในศึก "ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก"
