:::     :::

เดิมพันเด็ก

วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม 2561 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
5,557
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
วินิชุส จูเนียร์ ดาวโรจน์ชาวบราซิเลียนวัยเพียง 18 ปีที่ เรอัล มาดริด ยอมทุ่มถึง 45 ล้านยูโรดึงเข้าสังกัดตั้งแต่ช่วงปีก่อน

มันผ่านไปนานกว่า 4 ปีนับจากวันสุดท้ายที่สาวกมาดริดิสต้ารู้สึกคึกคักมีความรู้สึกและอารมณ์ร่วมกับการเปิดตัวนักเตะใหม่ของ เรอัล มาดริด 

นั่นคือการเปิดตัว ฮาเมส โรดริเกซ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติโคลอมเบียที่ย้ายมาจาก โมนาโก ก่อนโชว์โฉมอย่างเป็นทางการต่อหน้าแฟนบอลราว 35,000 คนบนสังเวียน'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2014


แม้การหวนกลับมาสวมยูนิฟอร์มสีขาวอีกครั้งของ อัลบาโร่ โมราต้า ในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 อาจจะสร้างความกระชุ่มกระชวยขึ้นมาบ้างก็ตาม แต่มันยังเทียบไม่ได้กับการเปิดตัวแข้งดาวดังรุ่นก่อนหน้านั้นและโมราต้าก็อยู่กับทีมไม่นานก่อนจะย้ายซบ เชลซี อีก 1 ปีต่อมา 

การตัดสินใจปิดฉากช่วงเวลา 9 ปีในถิ่น'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ตัดสินใจย้ายไปค้าแข้งกับ ยูเวนตุส ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมาทำให้สาวกมาดริดิสต้าเฝ้ารอการมาของ'ไอดอล'คนใหม่ 

ตลอดช่วงการนั่งเก้าอี้ประธานสโมสร เรอัล มาดริด ของ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ 2 ช่วง (ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2000-2006, ครั้งสองตั้งแต่ปี 2009 ถึงปัจจุบัน) ประธานวัย 71 ปีสร้างค่านิยมจนทำให้สาวกมาดริดิสต้าจำนวนไม่น้อยเสพติด'ไอดอล'ก็ว่าได้ 


ไล่มาตั้งแต่ยุค'กาลาคติกอส'รุ่นบุกเบิกอย่าง หลุยส์ ฟิโก้, ซีเนดีน ซีดาน, โรนัลโด้ นาซารีโอ, เดวิด เบ็คแฮม, ไมเคิ่ล โอเว่น และ โรบินโญ่ ซึ่งถูกดึงมาร่วมทีมและเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่อลังการแบบปีต่อปีในช่วงแรกของการเป็นประธานสโมสรของฟลอเรนติโน่

การกลับมานั่งเก้าอี้ตัวเดิมอีกรอบของฟลอเรนติโน่ก็ยังใช้วิธีการบริหารทีมไม่ต่างจากเดิม เขาประเดิมการคัมแบ็กด้วยการเปิดตัว ริคาร์โด้ กาก้า กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในปี 2009, เมซุต โอซิล กับ อังเคล ดิ มาเรีย ในปีถัดมา ต่อด้วย ลูก้า โมดริช และ แกเร็ธ เบล ซึ่งย้ายมาสวมชุดขาวในปี 2012 กับ 2013 ตามลำดับ

ก่อนที่ ฮาเมส โรดริเกซ กับ โทนี่ โครส จะเป็นสองผู้เล่นดาวเด่นก๊วนสุดท้ายที่ย้ายเข้าสู่ถิ่น'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'ในช่วงซัมเมอร์ปี 2014

ตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ปรับเปลี่ยนแนวทางการทำทีมด้วยการดึงผู้เล่นพรสวรรค์อายุน้อยเพื่อรองรับอนาคตของทีมไล่มาตั้งแต่ อีสโก้ อาลาร์กอน ที่ย้ายมาจาก มาลาก้า ตั้งแต่ปี 2013 ตามมาด้วย มาร์โก อาเซนซีโอ, ดาเนียล เซบายอส, เตโอ แอร์กน็องเดซ รวมถึงสองรายล่าสุด อัลบาโร่ โอดรีโอโซล่า กับ วินิชุส จูเนียร์ 


ขณะที่สาวกมาดริดิสต้ากำลังเฝ้ารอ'ไอดอล'คนใหม่ของพวกเขา ฟลอเรนติโน่คั่นอารมณ์ด้วยการเปิดตัว วินิชุส จูเนียร์ กองหน้าดาวโรจน์ชาวบราซิเลียนวัย 18 กะรัตที่ย้ายมาจาก ฟลาเมงโก้ ซึ่งทีมชุดขาวเป็นเจ้าของตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมปีก่อนหลังจ่ายเงิน 45 ล้านยูโรให้ต้นสังกัดนักเตะ 

ไม่ใช่สองเมกกะดีลอย่าง เนย์มาร์ หรือ คิลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่ถูกประโคมข่าวอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้หลังนักเตะต่างยืนยันว่าต้องการค้าแข้งกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ต่อไป 

เรอัล มาดริด หันมาลงทุนกับผู้เล่นดาวรุ่งพรสวรรค์สูงที่มีแววเติบโตเป็นนักเตะชั้นยอดในอนาคต มันเป็นการเสี่ยงเดิมพันที่มีโอกาสออกได้สองด้านทั้ง'ประสบความสำเร็จ'หรือ'ล้มเหลว'

ทีมชุดขาวยอมทุ่มเงิน 45 ล้านยูโรซื้ออนาคตกับ วินิชุส โชเซ่ ไปเชา เดอ โอลิเวยร่า จูเนียร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อสั้นๆว่า วินิชุส จูเนียร์ ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 17 ปี ซึ่งอยู่อันดับ 39 ในลิสต์ผู้เล่นอายุไม่เกิน 21 ปีที่ดีที่สุดในโลกของ'เดอะ เทเลกราฟ'ที่เคยทำไว้ในปี 2017 และเป็นนักเตะคนเดียวที่เล่นอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ในช่วงเวลานั้น 

ตามกฎของฟุตบอลลีกา นักเตะจะเซ็นสัญญาอาชีพได้ก็ต่อเมื่อมีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ ดังนั้น เรอัล มาดริด จึงต้องปล่อย วินิชุส จูเนียร์ เล่นกับ ฟลาเมงโก้ ต่อจนกว่าจะอายุครบตามเกณฑ์ในวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมาจึงเดินทางมาเซ็นสัญญาและเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับต้นสังกัดใหม่ 


วินิชุส จูเนียร์ เซ็นสัญญาเข้าทีมเยาวชนของ ฟลาเมงโก้ ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ เขามีพัฒนาการเหนือกว่านักเตะรุ่นราวคราวเดียวกันจนถูกเรียกตัวติดทีมแซมบ้าชุดยู-15 ตั้งแต่อายุ 13 

เขานำ ฟลาเมงโก้ คว้าแชมป์'โกปา โวโตรานติม'(ทัวร์นาเมนต์ของทีมชุดยู-15) วินิชุส เป็นหนึ่งในนักเตะดีที่สุดของทัวร์นาเมนต์และคว้ารางวัลดาวซัลโวจากผลงาน 6 ประตูในการลงเล่น 9 นัด ก่อนเลื่อนชั้นขึ้นสู่ทีมชุดยู-17 ด้วยวัยน้อยกว่าเพื่อนร่วมทีมหนึ่งปี แต่ วินิชุส จูเนียร์ พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเจ๋งจริงด้วยการยิง 10 ประตูและทำยอดแอสซิสต์สูงสุดของลีกก่อนนำ ฟลาเมงโก้ คว้าแชมป์รัฐ ริโอ เดอ จาเนยโร่ รุ่นยู-17 ปี ก่อนจะถูกดันขึ้นทีมชุดยู-20 ทั้งที่อายุน้อยกว่าเพื่อนร่วมทีมถึง 3 ปี 

ฟลาเมงโก้ จับ วินิชุส จูเนียร์ เซ็นสัญญา 3 ปีเมื่อนักเตะอายุครบ 16 ซึ่งเป็นเกณฑ์ต่ำสุดที่สามารถเซ็นสัญญาอาชีพได้ตามกฎของฟุตบอลบราซิล โดยตั้งคอร์สฉีกสัญญาไว้ 30 ล้านยูโรและสโมสรถือสิทธิ์ในตัวนักเตะ 90 เปอร์เซนต์ หลังถูกสองสโมสรยักษ์ใหญ่จากสเปนอย่าง เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า จับตามองมาตั้งแต่ระดับเยาวชน 

วินิชุส จูเนียร์ ลงประเดิมกับ ฟลาเมงโก้ ก่อนอายุครบ 17 ปี (เกิดวันที่ 12 กรกฎาคม 2000) เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2017 และสองวันหลังการลงเจิมสโมสรจับขยายสัญญาจากปี 2019 ไปจนถึงปี 2022 พร้อมปรับค่าฉีกสัญญาจาก 30 ล้านยูโรเพิ่มขึ้นเป็น 45 ล้านยูโร ก่อนที่ เรอัล มาดริด จะยอมจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวเพื่อเป็นเจ้าของนักเตะ 


เรอัล มาดริด ไม่ได้เดิมพันอนาคตไว้กับ วินิชุส จูเนียร์ เพียงคนเดียวเท่านั้น หลังทีมชุดขาวใช้วิธีการเดียวกันกับ โรดริโก้ ซิลวา เดอ โกเอส อีกหนึ่งแข้งดาวโรจน์ชาวบราซิเลียนของ ซานโตส ซึ่งเป็นการปาดหน้าทีมคู่ปรับอย่าง บาร์เซโลน่า เพื่อดึงนักเตะเข้าสังกัดอีกครั้ง 

โรดริโก้ โกเอส อายุน้อยกว่า วินิชุส จูเนียร์ เขาเกิดเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2001 เพิ่งเซ็นสัญญาอาชีพ 5 ปีกับ ซานโตส เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมปีก่อนและถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน ก่อนลงประเดิมสนามเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนหลังถูกส่งลงเล่นแทน บรูโน่ เอ็นรีเก้ ในช่วงครึ่งหลังของเกมชนะ อัตเลติโก มิเนยโร่ 3-1

บาร์เซโลน่า พยายามจะเซ็นสัญญากับ โรดริโก้ โกเอส ก่อนด้วยซ้ำ ทีมยักษ์กาตาลุนย่าส่งผู้บริหารระดับสูงทั้ง ออสการ์ เกรา ซีอีโอ, เป๊ป เซกูร่า ผู้จัดการทั่วไป พร้อมผู้ช่วย อันเดร กูรี่ เดินทางไปบราซิลเพื่อเจรจากับ โชเซ่ การ์ลอส เปเรส ประธานสโมสรซานโตส แต่ข้อเสนอ 30 ล้านยูโรของทีมอาซูลกราน่าถูกปัดแบบไม่มีเยื่อใยและไม่มีการเจรจากันต่อ 

แต่บาร์ซ่ายังเชื่อมั่นว่าท้ายที่สุดพวกเขาจะสามารถเซ็นสัญญากับ โรดริโก้ โกเอส ก่อนที่นักเตะจะย้ายมาร่วมทีมในปี 2020 เพราะมันเป็นความปรารถนาของแข้งวัย 17 กะรัต นักเตะยังมีสัญญากับ ซานโตส จนถึงปี 2022 และทีมอาซูลกราน่ายังคุยกับเอเยนต์ของนักเตะอย่างต่อเนื่องจนไม่คาดคิดว่าสถานการณ์จะพลิกผัน


ทีมยักษ์กาตาลุนย่าหวังใช้เงินเพียง 30 ล้านยูโรเพื่อเป็นเจ้าของนักเตะและยังหวังจ่ายเป็นงวดโดยเริ่มผ่อนก้อนแรกตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคมและจะปล่อยนักเตะเล่นกับ ซานโตส ไปจนถึงปี 2020 หรือ 2021 ด้วย ทว่าการคาดการณ์ของบาร์ซ่าผิดถนัด เนื่องจาก ซานโตส ทราบดีว่า โรดริโก้ โกเอส ยังเป็นเป้าหมายของหลายสโมสรทั้ง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, เรอัล มาดริด และ เชลซี ถ้าหาก บาร์เซโลน่า ไม่ยอมจ่ายเงิน 45 ล้านยูโรเพื่อฉีกสัญญานักเตะ พวกเขาก็พร้อมปล่อยให้ทีมอื่นที่ยินดีจ่ายเงินจำนวนนั้น 

เรอัล มาดริด สบโอกาสเข้ามาเสียบทันทีและทีมชุดขาวยอมจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวเพื่อดึง โรดริโก้ โกเอส เข้าสู่คลับ'โลส บลังโกส'โดยจะเซ็นสัญญาตั้งแต่ปี 2019-2025 

โรดริโก้ โกเอส เป็นอีกหนึ่งแข้งดาวรุ่งอนาคตไกลของวงการฟุตบอลบราซิเลียนไม่ต่างจาก วินิชุส จูเนียร์ ซึ่ง เรอัล มาดริด ยอมจ่ายเงินรวมกันถึง 90 ล้านยูโรเพื่อเดิมพันอนาคตกับเด็กสองคนนี้ ซึ่งแน่นอนว่าการลงทุนย่อมมีความสุ่มเสี่ยงเพราะมีความเป็นไปได้ทั้ง'ประสบความสำเร็จ'หรือ'ล้มเหลว'


อย่างไรก็ตามการลงทุนของ เรอัล มาดริด ซึ่งอาจจะเป็นเงินก้อนโตถึง 90 ล้านยูโรก็ตาม แต่เหมือนเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ทั้งการได้สองนักเตะดาวโรจน์อนาคตไกลพร้อมสกัดกั้นทีมคู่ปรับตลอดชาติอย่างทัพอาซูลกราน่าไปในเวลาเดียวกันด้วย 

แต่เด็กวันนี้ของ เรอัล มาดริด จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันหน้าอย่างไร เราคงต้องติดตามผลงานของ วินิชุส จูเนียร์ กับ โรดริโก้ โกเอส กันต่อไป 

ส่วนสาวกมาดริดิสต้าจะสมหวังการเปิดตัว'ไอดอล'คนใหม่โดยเฉพาะเป้าหมายเบอร์ต้นๆอย่าง เอแด็น อาซาร์ หรือว่าต้องทนรอต่อไปอีกหนึ่งปีก็ขึ้นอยู่กับฟลอเรนติโน่ว่าจะกล้าทุ่มทุนเพื่อเป้าหมายของเขาหรือไม่เท่านั้น 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด