นาธาเนียล "แนท" ฟิลลิปส์ กองหลังโนเนม ที่แฟนลิเวอร์พูลสงสัยมากที่สุดว่าหมอนี่เป็นใคร ... หาคำตอบได้ ที่นี่
ช่วงบอลอุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาล สิ่งหนึ่งที่เป็นเสน่ห์ของฟุตบอลในช่วงเวลานี้ นั่นคือการได้เห็นผู้เล่นดาวรุ่งจากทีมต่างๆได้รับโอกาสลงสนามโชว์ฝีเท้าให้กับแฟนๆได้เห็น บางคนเล่นดีในบอลอุ่นเครื่องจนเตะตาโค้ช จนกลายเป็นฟันเฟืองสำคัญในฤดูกาลนั้น บางคนเล่นดีแต่ไม่ได้รับโอกาสที่นี่ ก็อาจจะไปเตะตาแมวมองทีมอื่น ที่มาขอยืมหรือซื้อขาด ในขณะที่บางคนได้รับโอกาสได้โชว์แล้ว แต่กลับคว้าโอกาสนั้นไม่ได้ ก็ต้องกลับไปลงเล่นในทีมเยาวชน หรือทีมสำรองต่อไปเพื่อรอโอกาสใหม่อีกครั้ง
นาธาเนียล ฟิลลิปส์ หนุ่มน้อยวัย 21 ปี รายนี้เองก็เช่นกันครับ จากนักเตะที่ไม่มีใครรู้จัก เขาใช้โอกาสที่ได้รับจากเจอร์เก้น คล็อปป์ ในฟุตบอลอุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาล พิสูจน์ให้แฟนฟุตบอล รวมไปถึงสตาฟฟ์โค้ชได้เห็นความสามารถของเขา ฟอร์มการเล่นในเกมล่าสุดที่ต้องยืดวัดกันกับเลอรอย ซาเน่ ทำให้แฟนบอลประทับใจอย่างมาก จนแฟนๆหลายคนเรียกร้องเหลือเกิน อยากที่จะรู้จักหนุ่มน้อยคนนี้ให้มากขึ้น พูดมาถึงขั้นนี้แล้ว เรามาทำความรู้จักหนุ่มน้อยคนนี้กันให้มากขึ้นกันครับ
นาธาเนียล ฟิลลิปส์ เกิดวันที่ 21 มีนาคม 1997 อายุ 21 ปีแล้วตอนนี้ จะว่าไปเขาแก่กว่าโจ โกเมซ รุ่นพี่ในทีมลิเวอร์พูลอยู่ 2 เดือน ดังนั้น จะบอกว่าฟิลลิปส์เป็นดาวรุ่งแบบสดๆซิงๆ ก็คงไม่ถูกต้องนัก ฟิลลิปส์ไม่ใช่นักเตะลูกหม้อของลิเวอร์พูล ทีมที่ปั้นเขาขึ้นมาจริงๆคือ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ที่เขาใช้เวลาอยู่ในทีมนานถึง 10 ปี เลยทีเดียว ที่โบลตัน นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เขาเป็นถูกลูกชายของจิมมี่ ฟิลลิปส์ ผู้อำนวยการศูนย์เยาวชนของโบลตัน ที่มีดีกรีเป็นถึงนักเตะลูกหม้อของทีม รวมไปถึงเป็นอดีตกุนซือขัดตาทัพให้กับทีมชุดใหญ่ของโบลตันมาแล้ว แต่ถึงแม้จะเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของผู้หลักผู้ใหญ่ในสโมสร นั่นก็ไม่ได้ทำให้ฟิลลิปส์ได้รับสัญญานักเตะอาชีพจากสโมสรแต่อย่างใด ด้วยปัญหาทางการเงินของสโมสร ทำให้ทีมเลือกที่จะให้สัญญากับนักเตะดาวรุ่งที่พอจะมีแววจริงๆเท่านั้น
นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ถูกปล่อยตัวออกมาแบบฟรีๆ ในวัย 19 ปี ไม่มีสักทีมในอังกฤษสนใจในตัวเขาเลย ทางออกเดียวเท่านั้นในเวลานั้น คือ การไปเรียนต่อปริญญาตรีที่อเมริกา เพื่อหวังว่าจะมีสักทีมในเมเจอร์ ลีก ซอคเกอร์ เห็นแววแล้วดึงตัวเข้าไปร่วมทีม
ทุนการศึกษาปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยนอร์ท แคโรไลน่า เมืองชาร์ลอตต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา คือ ทางเลือกที่ฟิลลิปส์เลือก ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้หมดแล้ว ทุนการศึกษา ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ที่เรียน เพื่ออนาคตใหม่บนดินแดนแห่งเสรีภาพ
แต่แล้วก็มีเรื่องที่ทำให้เขาประหลาดใจ จนกลายเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของเขาในที่สุด
"ผมกำลังซ้อมเพื่อรักษาความฟิตของตัวเองที่สนามซ้อมของทีมฮัดเดอร์ฟิลด์ ซึ่งพวกเขาใจดีให้ผมเข้าไปใช้สถานที่ได้ ผมซ้อมอยู่ที่นั่นราว 3 วันได้ วันหนึ่งก็มีสายเรียกเข้ามาที่โทรศัพท์ผม เป็นเบอร์แปลกๆ"
"นั่นนาธาเนียลใช่ไหม ? ผมโทรจากสโมสรลิเวอร์พูล พวกเรากำลังจะไปเก็บตัวเตรียมความพร้อมก่อนเปิดฤดูกาลกันที่เยอรมัน เราอยากจะชวนนายให้ลองมาซ้อมกับพวกเราดู นายสนใจไหม ? เสียงดังออกจากปลายสายที่สนทนา
"ผมแทบช็อคกับสิ่งที่ได้ยิน แน่นอนผมกระโจมคว้าโอกาสนั้นในทันที สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นมันน่าเหลือเชื่อมาก นี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว ที่จะทำให้ผมยังได้เล่นในอังกฤษต่อไป โชคดีเป็นของผม ผมโชว์ฟอร์มได้ดีในเกมทดสอบฝีเท้า และผมก็ได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับทีมลิเวอร์พูลในที่สุด"
"วันที่ผมเซ็นสัญญากับลิเวอร์พูล มันเป็นวันเดียวกับที่ผมต้องขึ้นเครื่องบินไปเรียนต่อที่อเมริกา ผมมีช่วงหลายสัปดาห์ก่อนหน้าที่บ้าเอามากๆ และผลลัพธ์ที่ออกมา มันก็เกินกว่าที่ผมจะจินตนาการไหวจริงๆ ผมพยายามหยิกตัวเองหลายต่อหลายครั้ง ว่านี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม ตอนนี้ผมได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพแล้ว"
ในวัย 19 ปี ในตอนนั้น ฟิลิปส์มาร่วมทีมในฐานะนักเตะทีมสำรอง นั่นไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดนั่นก็ คือ หน้าที่ของเขาจริงๆจะกลายเป็นตัวสำรองของทีมสำรองอีกที
"ตอนแรกที่ย้ายมาที่นี่ มันลำบากเอาการเลย เวลานั้นมามาดู ซาโก้ และตีเอโก้ อิลอริ ถูกลดชั้นจากทีมชุดใหญ่ลงมาเล่นทีมสำรอง ทำให้บรรดาเด็กๆอย่างผม, ทอม บริเวตต์ และคอรี่ วีแลน ต้องกลายเป็นตัวสำรองของทีมสำรองไปโดยปริยาย พวกเรานั่งตบยุงกันจนถึงชั่วคริสมาสต์เลยแหละ กว่าจะได้รับโอกาส"
"มองย้อนกลับไปเรื่องนี้มันก็ช่วยผมได้เยอะเหมือนกันนะ ผมได้เวลาในการปรับตัวกับทีมมากขึ้น ไม่ต้องกดดันตัวเอง แถมได้ซ้อมกับมาม่า และติอาโก้ ที่มีประสบการณ์ในการเล่นระดับสูงมาแล้ว ผมได้เรียนรู้หลายสิ่งจากทั้งคู่"
ฟิลิปส์เป็นเซนเตอร์ฮาลฟ์ที่รูปร่างสูง โปร่ง เขาสูงถึง 194 เซนติเมตร (6 ฟุต 4 นิ้ว) เทียบเท่ากับเซนเตอร์ทีมชาติอังกฤษอย่างแฮรี่ แม็คไกวร์ และคริส สมอลิ่ง ดูแข็งแกร่งยามปะทะกับคู่ต่อสู้ แต่ก็สามารถเล่นฟุตบอลกับเท้าได้ดีด้วย นั่นก็เพราะว่าในวัยเด็ก เขาเคยเล่นเป็นปีกอาชีพมาก่อน
"ตอนเด็กๆผมตัวเล็กมากครับ โค้ชชอบจับผมไปเล่นตำแหน่งนู้นนี้เสมอ ผมเคยเล่นเป็นปีกอยู่ประมาณ 2 ปี ตอนสมัยเด็กๆ ผมเลยค่อนข้างมีเบสิก และสัญชาติญาณในการเล่นเกมรุกอยู่ในตัวหน่อยๆ"
หลังจากมีฤดูกาลแรกที่กระท่อนกระแท่นกับทีมสำรอง แต่ด้วยความสามารถของเขา ฤดูกาลที่ผ่านมาเขาได้รับการเลือกให้เป็นกัปตันทีมจากโค้ช เป็นตัวหลักของทีมอย่างจริงจัง แถมยังได้รับสัญญาฉบับใหม่กับสโมสรอีกต่างหาก ดูเหมือนปี 2017 จะเป็นปีที่ดีของเขา แต่แล้วอาการบาดเจ็บก็มาพลากทุกสิ่งทุกอย่างจากเขาไป เป็นเวลาถึง 5 เดือนเต็ม
"ผมมีอาการบาดเจ็บที่หลัง ดูจากขนาดตัวของผมคงเดาได้ไม่ยากครับ บรรดาผู้เล่นที่ตัวสูงๆส่วนมากก็มักจะคุ้นเคยกับอาการบาดเจ็บแบบนี้ดี"
"ผมต้องพยายามสร้างกล้ามเนื้อให้มากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้อาการบาดเจ็บแบบนี้เกิดขึ้นกับผมอีก"
ฟิลลิปส์หายเจ็บกลับมาลงสนามได้อีกครั้งในเดือนมีนาคม ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็ถูกเรียกไปซ้อมกับทีมชุดใหญ่
"อาการบาดเจ็บของโจ โกเมซ และโจเอล มาตีป ทำให้ทีมชุดใหญ่เหลือเซนเตอร์ฮาลฟ์อาชีพจริงๆแค่ 3 คน ผมจึงถูกเรียกไปเพื่อร่วมลงทีมซ้อมกับทีมชุดใหญ่"
"ผมได้ซ้อมกับพวกเขามาตั้งแต่ตอนนั้น พวกเขาช่วยผม และให้คำแนะนำดีดีกับผมเยอะมาก ตอนไปค่ายฝึกซ้อมที่สเปนช่วยปลายฤดูกาลก่อน ผมได้นอนห้องเดียวกับแอนดี้ โรเบิร์ตสัน เขาเป็นคนดีมากจริงๆ"
"ผมมีชื่ออยู่ในทีมที่เดินทางไปยูเครน เพื่อเป็นอะไหล่สำรองให้กับทีมด้วย แต่ก็นั่นเพราะกองหลังในทีมมีอาการบาดเจ็บกันหลายคน ผมเองก็ไม่แน่ใจนักว่าพอพวกเขาหายกลับมากันแล้วผมยังจะได้รับโอกาสต่อหรือไม่ในช่วงซ้อมก่อนเปิดฤดูกาล"
"ผมได้รับข้อความจากโค้ช ก่อนที่จะกลับมารายงานตัวที่สโมสรว่า นายไม่ต้องมารายงานตัวที่เคริกบี้แล้วนะ ให้ตรงไปที่เมลวู้ดเลย นายจะได้ซ้อมกับทีมชุดใหญ่ นั่นทำให้ผมแทบคลั่ง"
ฟิลลิปส์กลายเป็นตัวหลักของทีมและได้โชว์ฝีเท้าตลอดการอุ่นเครื่องในประเทศ 4 เกมแรก บรรดาแฟนๆต่างชื่นชมในความนิ่งทั้งลูกกลางอากาศ และลูกบนพื้นของเขา นั่นทำให้คล็อปป์ตบรางวัลใหญ่ พาเขาร่วมทีมมาร่วมศึก ICC 2018 ในที่สุด
"เป้าหมายของผม คือ เล่นให้ดีที่สุดเพื่อที่จะได้มาทัวร์อเมริกากับทีม ทันทีที่ผมรู้ว่าตัวเองติดทีมมาอเมริกาด้วย ผมตะโกนดีใจอย่างสุดเสียง การที่จะได้ลงเล่นเจอยอดทีมอย่างโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นอะไรที่สุดยอดมากๆในชีวิตของผม"
"การได้ลงสนามกับผู้เล่นเก่งๆอย่างเฟอร์จิล ฟาน ไดร์ค รวมไปถึงผู้เล่นตัวจริงคนอื่นๆ นั่นทำให้คุณเป็นผู้เล่นที่ดีขึ้นได้ ผมจะใช้โอกาสนี้พยายามเล่นให้ดีที่สุดในชีวิต รักษาความฟิตไว้ให้ได้มากที่สุด และหวังว่าฟอร์มการเล่นของผมจะเตะตาผู้จัดการทีมบ้าง ไม่มากก็น้อย"
เตะตาคล็อปป์หรือไม่ มีแค่คล็อปป์คนเดียวที่รู้ แต่สำหรับกองเชียร์ลิเวอร์พูล พวกเขาต่างกำลังเอาใจช่วยให้เด็กหนุ่มรายนี้ได้แจ้งเกิดอยู่ บางที ลิเวอร์พูลอาจจะมีนักเตะอย่างแฮรี่ แม็คไกวร์ อยู่ในมือพวกเขาโดยที่เขาไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลยก็ได้
และนี่ก็คือ เรื่องราวของ "น้องแนท" ที่แฟนๆอยากรู้จักกันครับ อย่าลืมเอาใจช่วยเขาในเกมคืนนี้ที่จะพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นะครับ
