รอบรั้ว ‘ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว’ ยังคงมีเรื่องให้พูดถึงอยู่เรื่อยๆ เพราะเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้า สถานที่แห่งนี้เพิ่งเป็นประเด็นข่าวคึกโครมสนั่นวงการฟุตบอลทั่วทั้งโลก
เมื่อ ‘โรนัลโด้’ ซุป’ตาร์ประจำทีมราชันชุดขาวเพิ่งแยกทางกับสังกัดเก่าไปหาความท้าทายใหม่ที่ตูรินกับทัพม้าลายยูเวนตุส ด้วยค่าตัวมหาศาล
ทันทีที่โรนัลโด้เก็บข้าวของออกจากมาดริด ทีมบอร์ดก็เริ่มปวดหัวกับการมองหาตัวตายตัวแทนที่ศักยภาพทัดเทียม ‘อาซาร์’ ดูเหมือนจะมีความเป็นไปได้มากที่สุดแล้วในเวลานี้ เพราะทั้งสองแข้งฟอร์มร้อนแรงแห่งยุคอย่าง ‘เนย์มาร์’ และ ‘เอ็มปับเบ้’ ก็ออกมายืนยันแล้วว่าจะไม่ย้ายออกจากเปแอชเชแน่นอน
แต่ถึงตอนนี้การเจรจาระหว่างเชลซีและมาดริดก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเริ่มต้นขึ้น มิหนำซ้ำข่าวที่หลุดลอยออกมาว่าอาซาร์คือเป้าหมายเบอร์ต้นที่มาดริดจะซื้อมาเพื่อรับบทบาทราชันของทีมต่อจากโรนัลโด้เหตุนี้จึงทำให้เชลซีโก่งค่าตัวแบบสุดกู่ถึง 200 ล้านปอนด์
พูดง่ายๆเลยแล้วกันว่า “ใครจะบ้าทุ่มเงินซื้อ”!
ในเมื่อเชลซีเปิดราคามาสูงขนาดนี้และเหมือนว่าเชลซีจะไม่ขายอาซาร์ออกจากทีมแน่นอนทำให้ตอนนี้มาดริดต้องเตรียมการวางแผนใหม่ทั้งหมด เพื่อดึงนักเตะใหม่เข้ามาทดแทนการขาดหายไปของโรนัลโด้
แต่บางทีทายาทราชัน อาจไม่ต้องซื้อเพิ่มก็ได้!
มีข่าววงในเล็ดลอดออกมาว่าประธานมาดริดมีแผนที่จะพยายามดันให้ ‘แกเร็ธ เบล’ ปีกจรวดของทีมเป็นผู้สานงานต่อจากโรนัลโด้ โดยเปเรซได้ทบทวนความคิดเดิมที่เคยจะโละแข้งวัย 29 ปี รายนี้ออกจากทีมเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา
เหตุที่มีน้ำหนักมากพอที่ทำให้เปเรซคิดเช่นนั้นอาจเป็นไปได้ว่า “เบล” คือนักเตะที่อยู่กับทีมมาหลายฤดูกาล เข้าใจระบบการเล่น และมีปฏิสัมพันธ์ภายในที่ดีเยี่ยม
อีกความเป็นไปได้ก็คือมาดริดไม่สามารถดึงสตาร์เข้าทีมได้แล้วจึงเบนความสนใจมาให้ความสำคัญกับนักเตะในทีมมากกว่ามองหาคนนอก
ซึ่งนั่นก็ช่างไปพ้องกับความคิดเห็นของ ‘รามอน กัลเดรอน’ อดีตบิ๊กบอสของมาดริดที่เคยออกมาพูดเมื่อครั้งที่ “เบล” จรดปากกาต่อสัญญาฉบับใหม่กับสโมสร
กัลเดรอนบอกไว้ว่า เบลคือนักเตะชั้นยอด เป็นคนที่มีศักยภาพสูง และเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ เขาดีใจเหลือเกินที่เหตุสโมสรยื่นสัญญาฉบับใหม่ให้ และเชื่อว่าเบลจะสามารถพาทีมประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน!
นั่นเป็นคำพูดเมื่อสองปีก่อนที่อาจแสดงผลชัดเจนในฤดูกาลใหม่ที่กำลังมาถึงก็ได้..
แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาที่น่ากังวลสำหรับพญาวานร คือ อาการบาดเจ็บ!
เพราะหลังจากที่เบลขยายสัญญาไปจนถึงปี 2022 อาการบาดเจ็บได้เริ่มคืบคลานเข้ามารบกวนเขาเป็นระยะๆ ทำให้ต้องใช้เวลาพักรักษาตัวมากกว่าการลงเล่นให้สโมสร ส่งผลให้ฟอร์มของเจ้าตัวหลุดวงโคจรไปเสียดื้อๆ
ถึงขนาดมีการคาดการณ์ว่าเบลจะถูกขายทิ้งหลังจบซีซั่น2017-2018ด้วยซ้ำ
แต่ด้วยผลงานหลังจากสลัดอาการบาดเจ็บไปได้เบลคนเดิมเหมือนจะถูกเรียกกลับมาเมื่อ “พญาวานร” ลงประทับร่างก็ยากที่มีคู่แข่งหยุดเขาอยู่
หากจำกันได้นัดชิงฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกกับ ‘ลิเวอร์พูล’ ก็เป็นแกเร็ธเบลนี่แหละระเบิดฟอร์มสุดยอดซัดพาทีมดับซ่าหงส์แดงแบบเบ็ดเสร็จ พาทีมคว้าแชมป์ 3 สมัยติดต่อกันไปอย่างหน้าตาเฉย
ถึงแม้ว่าระยะหลังมานี้ ‘โฆเซ่ มูรินโญ่’ นายใหญ่ทีมแมนฯยูไนเต็ดจะออกหน้าออกตาบอกว่า“อยากได้ตัวเบล”ใจจะขาด แต่จนแล้วจนแล้วก็กลายเป็นข่าวที่สลายไปในอากาศ ในเมื่อค่าจ้างต่อสัปดาห์ของเบลนั้นมีมูลค่าสูงถึง 3 แสนยูโรต่อสัปดาห์ ในขณะที่แมนฯยูมีกำลังจ่ายในเรทราคานี้ไปแล้ว 2 รายคือ ‘ป็อกบา’กับ ‘อเล็กซิส’
ถ้าดึงเบลเข้าร่วมก๊วนอีกรายจะเป็นการเพิ่มภาระรายจ่ายของทีมให้มากขึ้น ข้อนี้ทางแมนฯยูเองน่าจะเข้าใจดีว่าการที่ทุ่มทุนมากเกินไปนั้นมันจำเป็นหรือไม่?
“สถานการณ์มันเปลี่ยนแล้ว หลังจากที่ โรนัลโด้ ย้ายออกไป ผมคิดว่ามันเปิดกว้างมากขึ้น เขาจำเป็นต้องเป็นตัวหลักของทีม และเขาก็สมควรที่จะได้เป็นตัวหลักของทีมด้วย”เคร็ก เบลลามี่ อดีตหัวหอกทีมชาติเวลส์ กล่าวด้วยความมั่นใจในศักยภาพที่เปี่ยมล้นในตัวของเบล ก่อนสำทับว่า ด้วยค่าเหนื่อยและความสามารถระดับนี้ สโมสรใดในโลกที่จะเหมาะสมกับเบลไปมากราชันชุดขาว
ปัจจุบันแกเร็ธเบลยิงประตูให้มาดริดไปแล้ว 70 ประตูจากการลงเล่น 126 นัดเป็นกำลังหลักในการพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก 3 สมัย แชมป์โกปาเดลเรย์ 1 สมัย ยูฟ่าซูเปอร์คัพ1สมัย และ แชมป์ฟุตบอลสโมสรโลกอีก 1 สมัย
แม้ผลงานส่วนตัวจะไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบโรนัลโด้ แต่จากผลงานโดยรวมแล้ว เบล ถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้มาดริดประสบความสำเร็จในรายการเมเจอร์มากมาย
ภายใต้ร่มเงาของโรนัลโด้เขาอาจจะเป็นเพียงจิ๊กซอว์ตัวหนึ่งเท่านั้น แต่หลังจากนี้เบลอาจจะกลับมาผงาดง้ำค้ำโลก กลายมาเป็นแกนสำคัญที่ระเบิดฟอร์มคอยขับเคลื่อนให้ทีมรุกไล่คว้าชัยชนะก็เป็นได้
หาก เปเรซ มองคนไม่ผิด และคำพูดของ กัลเดรอน เป็นจริงขึ้นมา
เบลคนนี้แหละจะกลายมาเป็นราชันของถิ่นเบอร์นาบิว!
