:::     :::

คุยกับโค้ชจุ่น ณ บีจี : "วันนี้พวกเรารู้แล้วว่ากำลังใจมีค่าแค่ไหน"

วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม 2561 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
4,054
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
วันนี้ผมจะพาไปคุยกับ "โค้ชจุ่น" อนุรักษ์ ศรีเกิด เฮดโค้ช บีจี เอฟซี หนึ่งในกุนซือที่เป็นที่นิยมของแฟนบอลด้วยสไตล์การเล่นเน้นเกมบุกเอ็นเตอร์เทนคนดู ในหลากหลายประเด็น ส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์นี้ "โค้ชจุ่น" พูดไว้น่าสนใจว่า ในวันนี้จำนวนคนดูทีม "กระต่ายแก้ว" อาจจะลดลง แต่เสียงเชียร์ที่ยังเหลืออยู่กลับมีความหมายต่อทีมมากยิ่งขึ้น ทำให้ทุกคนรู้ว่ากำลังใจนั้นมันมีค่าแค่ไหน

แมน : สวัสดีครับพี่จุ่น สะดวกคุยมั้ยพี่

โค้ชจุ่น : ได้เลยครับแมน

แมน : ช่วงนี้สังเกตว่าพี่จะเปลี่ยนตัวผู้เล่นบีจีในแต่ละเกมค่อนข้างน้อย แต่จู่ๆ พี่ก็เปลี่ยนผู้รักษาประตูจาก นริศ ทวีกุล มาเป็นกรพัฒน์ นารีจันทร์ เลย เป็นเพราะอะไรหรอครับ

โค้ชจุ่น : อ๋อ พอดีว่าไอซ์ (กรพัฒน์) เขาเพิ่งเล่นสนามนี้มาให้ทีมชาติไทยชุดยู-23ที่อุ่นเครื่องชนะฮ่องกง (1-0 ที่สนามบุญยะจินดา) พอเรามาเยือนเทโร ก็เลยให้ ไอซ์ เขาเล่นต่อเพราะน่าจะคุ้นเคยสนามมากกว่า แต่ส่วนหนึ่ง เต้ย (นริศ) เองก็มีความผิดพลาดด้วยซึ่งเขาก็รู้ตัวเองดีนะ แล้วอีกอย่าง เต้ย เขาชอบไปอ่านคอนเม้นต์ในอินเทอร์เน็ตแล้วก็จิตตกเอง เวลาไปเจอคอมเม้นต์ด่า พี่บอกเขาแล้วล่ะว่าอย่าไปอ่านพวกนั้นเยอะ 

แมน : แล้วนัดต่อๆ ไป ไอซ์ ไม่อยู่ติดไปเล่นทีมชาติไทยยู-23 ที่พม่า เต้ยจะได้กลับมาเฝ้าเสามั้ยครับ

โค้ชจุ่น : ก็ต้องดูก่อนแหละว่าสภาพจิตใจเต้ยดีขึ้นหรือยัง ตอนนี้พี่ก็เล็งว่าจะดันมือ3 ขึ้นมาเล่นเลย (อั๋น เฉลิมเกียรติ ภูโต๊ะยา) เพราะตอนซ้อมเขาก็ทำได้ดี

แมน : ช่วงสำคัญของฤดูกาลแบบนี้ การใช้ประตูทื่ไม่เคยมีประสบการณ์ในไทยลีกเลยจะไม่เสี่ยงเกินไปหรอครับ

โค้ชจุ่น : จริงๆ เต้ยก็เป็นน้องพี่นะ เป็นเด็กเทพศิรินทร์เหมือนกัน แต่เขาก็รู้ตัวเองดีแหละว่าตอนนี้เขาเป็นยังไง คือถ้าไอซ์อยู่พี่ก็คงต้องให้ไอซ์ลงเล่นก่อน เพราะไอซ์ก็ถือว่าเป็นคนที่จะสานต่อจากพี่ๆ ในการเป็นผู้รักษาประตูให้กับบีจีต่อไป เขายังอายุน้อยอยู่ด้วย

"ไอซ์" กรพัฒน์ นารีจันทร์ คือมือหนึ่ง "กระต่ายแก้ว" ณ ตอนนี้

แมน : มีคำถามที่ผมเชื่อว่าหลายคนอยากรู้เหมือนกันก็คือ ตอนนี้พี่ใช้งาน ตั้ม (ธนบูรณ์ เกษารัตน์) เป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟ แต่แฟนบอลบางคนก็รู้สึกเสียดายว่าตั้มน่าจะเล่นมิดฟิลด์ได้ดีกว่า ช่วงที่พี่ซิโก้ (เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง) คุมทีมชาติไทย แฟนบอลก็ตำหนิแกว่าไม่น่าไปใช้ตั้มยืมเซนเตอร์เลย กองหลังเมืองไทยมีเยอะแยะ สำหรับพี่จะใช้ตั้มเป็นกองหลังแบบนี้ไปจนจบฤดูกาลเลยมั้ยครับ

โค้ชจุ่น : ใช่ครับ พี่จะใช้ตั้มเป็นกองหลังไปจนจบแน่นอน เพราะทีมเรายังขาดเซนเตอร์ที่มีความนิ่ง ไม่โฉ่งฉ่าง และอ่านทางบอลได้ดีแบบตั้ม ล่าสุด แมตต์ สมิธ กับ ปอย (ปิยะชนก ดาฤทธิ์) ก็เจ็บไปอีก ก็อย่างที่แมนถามพี่น่ะแหละว่าช่วงนี้พี่เปลี่ยนผู้เล่นแต่ละเกมค่อนข้างน้อย ก็เพราะเรามีตัวเลือกไม่ได้มากนักโดยเฉพาะในแผงหลัง

แมน : การปรับแผนมายืนหลัง 3 จากที่ก่อนหน้านี้ใช้แบ็คโฟว์ มีผลกับการเลือกตั้มมาเล่นเซนเตอร์มั้ยพี่

โค้ชจุ่น : ใช่เลยแหละ เพราะแต่ก่อนพี่ลองใช้เซนเตอร์คู่ แล้วทีมเราขาดตัวริมเส้นที่มีความสมดุลย์ทั้งเกมรุกและรับ เคยลอง เป็ด (เฉลิมศักดิ์ อักขี) กับ ปลื้ม (สหรัฐ ปองสุวรรณ) ไปยืนก็ยังไม่ดีเท่าไหร่ แล้วพอเลกสองพี่ได้ หนุ่ย (ศราวุฒิ มาสุข) กับ โตติ กลับมา ก็เลยใช้ทั้งสองคนเล่นเกมรุกทางวิงไปเลย แล้วมาเพิ่มสตอปเปอร์แทน ซึ่งช่วงที่ แมตต์ กับ ปอย เจ็บ เป็ดกับปลื้มก็มายืนประสานกับตั้มได้โอเคเลย พี่ก็คงใช้แผนนี้ไปยาวๆ 

ตั้ม ธนบูรณ์ ต้องถอยมาเล่นกองหลังในสีเสื้อ "บลูแมชชีนส์"

แมน : หลายคนมองว่าเสียดายศักยภาพของตั้มที่ว่ากันว่าเป็นกองกลางตัวรับที่ดีที่สุดในเมืองไทย พอจับไปยืนหลังนะพี่

โค้ชจุ่น : แต่สำหรับพี่นะ กองกลางตัวรับที่ดีที่สุดในไทยตอนนี้คือ นิว (ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์) เพราะเขามีก๊อกสองเล่นได้สม่ำเสมอจนครบ 90 นาที เขาวิ่งขึ้นลงได้ไม่มีหมดทั้งเกม เป็นสไตล์กลางรับที่มีส่วนกับเกมเยอะมาก

แมน : ที่เขาเรียกว่าสไตล์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์อะนะพี่

โค้ชจุ่น : นั่นแหละครับ นิวเขาก็จะช่วยให้ นนท์ (อานนท์ อมรเลิศศักดิ์), โตติ, หนุ่ย (ศราวุฒิ มาสุข) เล่นง่ายขึ้นด้วย ส่วนตั้ม ถ้าเล่นกลางเขาจะเป็นสไตล์ตัวตัดเกม คือคอยตัดบอลดีเลย์เกมรุกคู่ต่อสู้แล้วก็จ่ายบอลง่ายๆ ให้เพื่อนทำเกมขึ้นมา เขาจะเล่นคนละสไตล์กันอยู่ที่ว่าโค้ชแต่ละทีมที่ใช้เขาจะใช้แท็กติกแบบไหน

แมน : แนวรุกดูเหมือนว่า อาเรียล โรดริเกวซ จะยังคลำเป้าไม่ค่อยเจอเท่าไหร่นะพี่

โค้ชจุ่น : ครับคือ คาแร็กเตอร์ของ อาเรียล จะเป็นคนที่เอาแต่ใจสักหน่อย คือเขาจะพยายามยิงประตูให้ได้นั่นแหละ แต่ถึงยิงไม่ได้เขาก็ยังสร้างประโยชน์ให้ทีมได้เยอะ แล้วเขาก็พูดภาษาเดียวกับ โตติ ด้วย (ภาษาสแปนิช) ก็ทำให้เขาเล่นด้วยกันได้ดี และก็โชคดีของทีมเราด้วยที่กองกลางสามารถช่วยทำประตูแทนกองหน้าได้ นัดล่าสุด นิว กับ โตติ ก็ยิงกันไปคนละลูก แล้วยังมี ดาวิด บาลา ที่พอได้ลงเล่นเขาก็ยิงประตูได้เรื่อยๆ

แมน : กลับกลายเป็นกองหน้าไทยอย่าง เก่ง (สุรชาติ สารีพิมพ์) เป็นแกนหลักที่ขาดไม่ได้ไปเลยนะครับ

โค้ชจุ่น : เก่งเขาเป็นคนที่มีวินัยสูงมาก เขาเป็นคนดีด้วย พี่รู้สึกสบายใจมากเลยเวลามีเขาอยู่ในทีม 

แมน : ผมเคยคุยกับนักบอลของเพื่อนตำรวจตอนที่ทีมแตกแล้วไม่ได้รับเงินเดือน หลายคนก็บอกว่าได้เก่งนี่แหละ เป็นคนช่วยเอาเงินเดือนของตัวเองมาให้น้องๆ ยืมใช้ไปก่อน แล้วก็ไม่ได้ทวงคืนเลย

โค้ชจุ่น : ครับ เก่งเขาก็เอาเงินเดือนที่ได้จากบีจีนี่แหละไปให้น้องๆ แล้วพี่ก็ชื่นชมว่าคนแบบนี้แหละที่วันหนึ่งเขาอาจจะมาเป็นโค้ชหรือสตาฟฟ์ แล้วก็จะได้ใจจากผู้เล่น คือเขาก็มีข้อดีในเรื่องการปฏิบัติตัวในฐานะนักเตะอยู่แล้วด้วย เวลาเรามองโค้ชสักคน ให้เรานึกถึงสมัยที่เขาเป็นนักเตะก็ได้ เพราะถ้าเป็นนักเตะที่ระเบียบวินัยดีก็ย่อมเป็นโค้ชที่มีวินัยดีด้วย 

เก่ง สุรชาติ เป็นคนดีฝังในมาตั้งแต่สมัยอยู่เพื่อนตำรวจแล้ว

แมน : แสดงว่าพี่ก็รู้เรื่องนี้อยู่แล้วใช่มั้ยครับ ว่าเขาช่วยน้องๆ ทีมเพื่อนตำรวจ อ๋อคือตอนนั้นเขามาอยู่บีจีแล้ว 

โค้ชจุ่น : ใช่พี่เป็นคนดึงเขามาเองแหละ ตอนนั้นจะเอา ปก (ปกเกล้า อนันต์) มาด้วย คือจะเอา 2 คนแต่ปกเขาไปเซ็นกับ ชลบุรี ก่อนแล้ว 

แมน : ฤดูกาลหน้าทีมจะเปลี่ยนชื่อเป็น บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พี่คิดยังไงบ้าง

โค้ชจุ่น : ใจหายนะ เพราะพี่รู้สึกผูกพันกับชื่อบางกอกกล๊าสไปแล้ว จริงๆ แล้วเรายังมีบีจีซี เอฟซี อีกทีมที่ชื่อเดิมคือ รังสิต เอฟซี แต่ก็ดีตรงที่จะได้มีความชัดเจนว่าเราคือทีมของจ.ปทุมธานี แฟนบอลละแวกนี้จะได้มีความรู้สึกร่วมด้วยว่าได้เชียร์ทีมในท้องถิ่นของตัวเอง 

แมน : แล้วแบบนี้จะต้องเปลี่ยนโลโก้อีกมั้ยล่ะครับ

โค้ชจุ่น : ไม่น่าจะเปลี่ยนแล้วนะ คงแค่มีชื่อจังหวัดเข้ามาเพิ่มเท่านั้นครับ

แมน : ไม่ว่าจะตกชั้นหรืออยู่ไทยลีกต่อ ฤดูกาลหน้า พี่จุ่นจะยังคุมบีจีอยู่มั้ยครับ

โค้ชจุ่น : ต้องบอกก่อนว่าตอนที่พี่เข้ามา ความต้องการของผู้บริหารคือ "เฮ้ยจุ่น เอ็งช่วยเข้ามาทำให้ทีมรอดตายหน่อย" ซึ่งนั่นก็คือโจทย์แรกเป็นการบ้านที่พี่ต้องทำให้ก่อน ถ้าบรรลุเป้าหมายแล้ว ลำดับต่อไปจะยังไงต่อก็คงต้องมาคุยกันใหม่อีกที แต่ที่พี่สามารถยืนยันได้ก็คือพี่จะไม่ทิ้งทีมไปไหน ณ ตอนนี้ จะรอดหรือตกชั้นก็ต้องเกิดมาจากความสามารถของทั้งพี่และนักเตะของเราที่จะต้องช่วยกัน

แมน : เอเชียนเกมส์ปีนี้มีแนวโน้มว่าจะไม่มีนักเตะบีจีติดทีมชาติไทยเลย พี่มองว่าเป็นเรื่องแปลกมั้ยเพราะในทีมก็มีนักเตะที่อาุยุอยู่ในเกณฑ์หลายคน

โค้ชจุ่น : ใจหายนะ เพราะพี่เองก็มองว่าบางคนน่าจะเล่นได้ อย่าง อานนท์ เขาก็เล่นได้ทั้งกลางรุกและปีก และถ้าเกมไหนเริ่มตันก็อาจสลับเขากับ สุภโชค (สารชาติ) คือนักเตะที่เล่นได้ 2 ตำแหน่งขึ้นไปน่าจะมีโอกาสที่ดีในบอลทัวร์นาเม้นต์แบบนี้

แมน : ผมเคยคุยกับพี่โย่ง แกบอกว่า นนท์ เล่นเกมรุกดีแต่ไม่ค่อยลงมาช่วยเกมรับ ซึ่งแท็กติกของแกเวลาเล่นเกมรับต้องช่วยกันทั้งทีม แถมเอเชียนเกมส์คราวนี้ใส่ชื่อได้แค่ 20 คนเท่านั้น 

อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ คือเด็กบีจีที่ "โค้ชจุ่น" เชียร์ให้ติดทีมเอเชียนเกมส์ที่สุด

โค้ชจุ่น : ใช่พี่ก็เคยคุยกับพี่โย่งแบบนั้นแหละ แต่ก่อน ยิม (วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ) ก็เป็นนะจน เทิดศักดิ์ (เทิดศักดิ์ ใจมั่น อดีตเฮดโค้ช ชลบุรี เอฟซี) เขาไม่ค่อยใช้งานในทีมชลบุรี เพราะมันวิ่งน้อย แต่พอโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นน้องๆ ก็รู้กันเองแหละว่าควรทำอะไร

แมน : กรพัฒน์ นี่ก็น่าจะยากมาก เพราะพี่โย่งเขามีแคนดิเดตไว้แค่ 3 คนคือ นนท์ ม่วงงาม, รัตนัย ส่องแสงจันทร์ และ ขวัญชัย สุขล้อม และจะส่งชื่อได้แค่ 2 คน

โค้ชจุ่น : ชั่วโมงนี้ต้องประตูของ ประจวบ เท่านั้น (ขวัญชัย สุขล้อม) พี่ว่าเขาเก่งที่สุดในรุ่นนี้แล้วล่ะ นนท์เองก็ดร็อปไปเยอะ เพราะแนวรับ โปลิศ เทโร ไม่แน่นเท่าไหร่ด้วย เขาก็อาจจะเสียความมั่นใจไปเพราะเสียประตูเยอะ ส่วน รัตนัย เองก็เป็นคนโชคไม่ค่อยดี มักจะเจ็บเวลาใกล้ต้องรับใช้ชาติ นี่ล่าสุดก็เจ็บไปอีกแล้ว พี่มองว่าถ้าหมดจากยุคของรุ่น ตอง กวินทร์ ไป ประตูของประจวบคนนี้นี่แหละที่จะขึ้นมาแทน

ขวัญชัย สุขล้อม คือประตูที่เก่งที่สุดในรุ่นนี้สำหรับ "โค้ชจุ่น"

แมน : ช่วงหลังผมดูบีจีมาหลายเกม สังเกตเห็นนักเตะคนนึงที่เป็นลูกครึ่งฝรั่งเศสคือ จักรกฤษณ์ ลาภตระกูล ที่พี่ส่งมาเล่นเป็นวิงแบ็กบ้างปีกบ้าง นัดล่าสุดก็ลงมาจ่ายให้ นิว ยิงประตูสุดท้าย เห็นว่ายังไม่เคยเล่นไทยลีกมาก่อนเลย ไปดึงมาจาก อ่างทอง พี่มองเห็นอะไรในตัวเด็กคนนี้ถึงได้ไว้วางใจครับ

โค้ชจุ่น : อ๋อเจ้าแจ็คน่ะหรอ เขาเป็นเด็กที่สไตล์ฝรั่งเลย คือมุ่งมั่นทุ่มเททำหน้าที่ของตัวเองไม่สนคำวิจารณ์ของใคร น้องมันพูดไทยฟังไทยไม่รู้เรื่องเลยนะ เขาเด่นมาตั้งแต่เล่นให้อ่างทองแล้วล่ะ เป็นตัวรุกริมเส้น แล้วอายุก็ยังน้อย พี่เห็นว่าเขาไปกับบอลได้ดี เลี้ยงบอลเก่งและสภาพร่างกายดี แต่ตอนนี้ยังไม่เหมาะที่จะเป็นตัวจริง เคยลองแล้วคิดว่าต้องให้เก็บเลเวลไปก่อนด้วยการเป็นตัวสำรองลงมาเปลี่ยนเกมช่วงท้ายๆ เวลาเขาลงประมาณ 10-20 นาทีสุดท้ายเขาจะทำได้ดีมาก

แมน : แล้วลูกครึ่งอีกคน โรบิน โฮล์ม ไปไหนแล้วล่ะพี่ เห็นเคยมีข่าวว่าจะปล่อยยืมแล้วก็เงียบไปเลย

โค้ชจุ่น : อ๋อ เรายกเลิกสัญญากับเขาไปแล้ว ตอนนี้เขาก็กลับไปบ้านที่สวีเดนแล้วล่ะ คือพี่ไม่สบายใจนะเวลาที่เราเอาเด็กมาแล้วไม่ได้ใช้งาน โรบิน เองก็เป็นเด็กดีและมีความมุ่งมั่นสูงนะตามสไตล์ลูกครึ่ง แต่เมื่อเราไม่ใช้เขาก็ตกลงกันว่าปล่อยเขาออกไปดีกว่า ได้ยินว่าเขากลับไปหาทีมที่บ้านเล่นตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ทีมไหนแล้ว 

แมน : ชัยชนะในเกมล่าสุดทำทีมให้ขึ้นมาโซนตกชั้นได้แล้ว หลังจากตกไปอยู่ในโซนแดงมานาน มันทำให้พี่รู้สึกหายใจคล่องคอขึ้นบ้างมั้ย 

โค้ชจุ่น : ก็ดีขึ้นนะ แต่ยังเบาใจไม่ได้หรอก เพราะนำกันอยู่แค่แต้มเดียวเอง และไม่ใช่แค่พี่หรอก มีอีกหลายทีมที่ยังต้องสู้กันจนถึงเกมสุดท้าย พี่เองก็ยังเป็นห่วงเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคน ทั้งพี่แบน (ธชตวัน ศรีปาน), พี่หนุ่ย (เฉลิมวุฒิ สง่าพล), พี่เบ๊ (ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก) แต่ทุกคนก็ต้องสู้เพื่ออยู่รอดให้ได้

แมน : ถามถึงทีมชาติไทยในเอเชียนเกมส์บ้างครับ พี่คิดว่าทีมของเราจะไปได้ไกลแค่ไหน เด็กๆ หลายคนในทีมชุดนี้ก็มาจากรุ่นที่พี่เคยคุมตอน ยู-19 ด้วย

โค้ชจุ่น : ก็ถือว่าอยู่ในสายที่ค่อนข้างหนักนะ เจอกาตาร์พี่คิดว่าเราเสมอได้ ส่วนอุซเบกิสถานก็ต้องยอมรับว่าหนัก อีกทีม บังคลาเทศ เราน่าจะชนะได้ไม่ยาก พี่ว่าอย่างน้อยเราประคองเข้ารอบอันดับ 3 ที่ดีที่สุดได้อยู่แล้ว และก็ต้องมาดูว่าสภาพร่างกายของเราสมบูรณ์แค่ไหน บอลทัวร์นาเม้นต์แบบนี้บางทีไม่จำเป็นต้องเล่นดีทุกนัดหรอก อยู่ที่ว่ารอบน็อคเอาท์แต่ละทีมรักษาความสดของผู้เล่นได้แค่ไหน ถ้าเราเจอแชมป์ของกลุ่มอื่นที่เขาซัดมาเต็มที่ในรอบแรกแล้ว เราสภาพดีกว่าก็อาจชนะได้เหมือนกัน

แมน : โค้ชโย่งแกมีสถิติคุมทีมชาติไทยมาร่วม 2 ปียังไม่แพ้ใครเลยนะพี่ ตัวเลขนี้น่าจะส่งผลต่อโอกาสในเอเชียนเกมส์ของไทยด้วยมั้ย

โค้ชจุ่น : เฮ้ยจริงดิ พี่ไม่รู้เลย งั้นพี่โย่งก็คงเหมือนอ.หรั่ง (ชาญวิทย์ ผลชีวิน) อาจารย์ของเขาที่ทำทีมสไตล์แพ้ยากเหมือนกันน่ะนะ

แมน : ใช่พี่ คือพี่โย่งคุมตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2016 มีแพ้เกมนึงในดูไบคัพ แต่ตอนนั้นพี่โย่งติดอบรมโปรไลเซ่น เป็นพี่หระ (อิสระ ศรีทะโร) กับ พี่ก้าง (นฤพล แก่นสน) คุมทีมแทน แล้วหลังจากได้แชมป์ซีเกมส์ ก็เปลี่ยนมาเป็นโซรัน ยานโควิช ตอน M-150 คัพ แล้วไปตกรอบแรกชิงแชมป์เอเชียยู-23 ก็กลับมาเป็นพี่โย่งอีกที แกคุมทีมข้างสนามเองยังไม่เคยแพ้ใครเลย แฟนบอลบางคนไม่ค่อยชอบสไตล์แกเพราะเล่นไม่สวยยิงไม่เยอะ แต่ก็ถือว่าแกทำได้ตามเป้าหมายมาทุกรายการ 

โค้ชจุ่น : อ๋อ พี่ก็ไปจำภาพที่โค้ชฝรั่งคุม แบบนี้ไทยก็น่าจะมีลุ้นเหมือนกัน เพราะบอลทัวร์นาเม้นต์แบบนี้ทีมที่เสียประตูยากมักจะประสบความสำเร็จ แล้วพี่โย่งเองเขามีระบบป้องกันที่ดีด้วย เพราะว่าแกมีแอร์แบ็กส่วนตัวติดอยู่ 555

แอร์บ๊งแอร์แบ็กอะไร พี่คุมทีมไม่แพ้ใครมาเกือบ 2 ปีแล้วนะ

แมน : เอางั้นเลยนะพี่ 555 กลับมาที่บางกอกกล๊าสเป็นคำถามสุดท้ายดีกว่าพี่ ถึงตรงนี้พี่มั่นใจแค่ไหนว่าจะอยู่รอดในไทยลีกได้ต่อไป

โค้ชจุ่น : พี่ก็ยังยืนยันเหมือนกับที่เข้ามาคุมตอนแรกว่าเราจะสู้เพื่ออยู่รอดให้ได้ ต้องขอบคุณเสียงเชียร์จากแฟนบอลด้วยที่ทำให้พวกเรามีกำลังใจ ในวันที่เราลำบากเนี่ยแหละ เสียงเชียร์จากแฟนบอลที่อาจจะลดน้อยลงไปกลับมีความหมายกับเรามากยิ่งขึ้น ทำให้พวกเรารู้ว่ากำลังใจมันมีค่าแค่ไหน

แมน : พูดถึงเรื่องการเชียร์ รู้มั้ยพี่ว่าก่อนหน้านี้ แฟนบอลที่ไม่ใช่แฟนบีจี บางคนแช่งให้บีจีตกชั้นด้วยซ้ำไป แต่ตอนนี้สลับกันกลายเป็นคนที่ไม่ได้เชียร์บีจี กลับหันมาเชียร์ให้อยู่รอดเพราะเสียดายทีมที่มีสไตล์เล่นเกมรุกเอ็นเตอร์เทนคนดูแบบนี้

โค้ชจุ่น : ใช่ครับ ด้วยสไตล์การเล่นของเราที่มีผู้เล่นที่ชอบเกมรุก ก็เลยพยายามเปิดเกมบุกแบบเอ็นเตอร์เทนแฟนบอล ซึ่งสไตล์แบบนี้พี่เชื่อว่าแฟนๆ ไม่อยากให้ต้องหายไปจากไทยลีกแน่นอนครับ

แมน : โอเคครับพี่วันนี้ขอบคุณมากๆ นะครับ

โค้ชจุ่น : ยินดีครับแมน


ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์ด้วยนะครับ (แมน โกสินทร์ อัตตโนรักษ์) 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด