:::     :::

คำตอบอยู่ที่ฟลอเรนติโน่

วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม 2561 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
2,468
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร เรอัล มาดริด มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการตัดสินใจว่าทีมชุดขาวจะลงทุนเสริมทัพด้วยผู้เล่นระดับ'ซูเปอร์สตาร์'ในช่วงซัมเมอร์นี้หรือไม่

ขณะที่ บาร์เซโลน่า เจ้าของแชมป์ลีกาซีซั่นล่าสุดไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ใช้งบไปมากกว่า 100 ล้านยูโรเพื่อเซ็นสัญญากับ อาร์ตูร์ เมโล่, เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ และ มัลคอม ซิลวา

แต่ เรอัล มาดริด ดีกรีแชมป์ยุโรป 3 สมัยติดต่อกันเพิ่งเซ็นสัญญากับ 2 แข้งดาวรุ่งอย่าง วินิชุส จูเนียร์ กับ อัลบาโร่ โอดรีโอโซล่า ช่วยให้สาวกมาดริดิสต้ารู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมาบ้างเท่านั้น 

ทีมชุดขาวยอมปล่อย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซุปตาร์ชาวโปรตุกีสที่ทำผลงานยอดเยี่ยมมาตลอด 9 ปีย้ายไปค้าแข้งกับ ยูเวนตุส ด้วยค่าตัว 112 ล้านยูโร ก่อนจะมีการตั้งคำถามตามมาว่ามาดริดจะดึงนักเตะคนไหนเข้ามาทดแทนโรนัลโด้

การสูญเสีย โรนัลโด้ ซึ่งเป็นนักเตะทรงประสิทธิภาพมากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร เรอัล มาดริด ส่งผลกระทบต่อทีมชุดขาวแบบหลีกเลี่ยงยาก 

หากดูจากสถิติของซุปตาร์ชาวโปรตุกีสที่ทำไว้กับทีมชุดขาวจากการยิง 311 ประตูจากการลงเล่นลีกา 292 นัด กระทุ้งทุกรายการรวมกัน 450 ประตูจากการลงเล่น 438 นัด มีค่าเฉลี่ยยิงนัดละมากกว่า 1 ประตู 

ตลอด 8 ฤดูกาลที่ผ่านมา โรนัลโด้ ยิงให้ เรอัล มาดริด แต่ละซีซั่นไม่น้อยกว่า 44 ประตู ส่วนปีแรกที่ย้ายมาสวมชุดขาวยิงได้น้อยสุดก็ยิงกดถึง 35 ประตู 


มันคงเป็นเรื่องยากหรือเป็นไปไม่ได้เลยในการหาตัวแทนของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แค่เพียงทำได้ซักครึ่งหนึ่งของผลงานที่กองหน้าชาวโปรตุกีสฝากไว้ในถิ่น'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'ก็นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีแล้ว 

ทัพ'โลส บลังโกส'มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในช่วงซัมเมอร์นี้หลังการประกาศลาออกจากตำแหน่งของ ซีเนดีน ซีดาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสรหลังการนำทีมชุดขาวคว้าแชมป์ยุโรป 3 สมัยติดต่อกัน ตามมาด้วยการอำลาสโมสรของ โรนัลโด้ 

เรอัล มาดริด แก้ปัญหาแรกด้วยการดึง จูเลน โลเปเตกี มารับตำแหน่งต่อจากเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสจนเกิดความบาดหมางกับสหพันธ์ฟุตบอลสเปนตามที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้  

แน่นอนว่าการเข้ามารับช่วงต่อจาก ซีดาน ไม่ใช่ภารกิจที่ง่ายสำหรับโลเปเตกีเนื่องจากซีดานสร้างมาตรฐานไว้สูงลิบลิ่ว รวมถึงการอำลาทีมของนักเตะระดับประวัติศาสตร์อย่าง โรนัลโด้ แต่อดีตเทรนเนอร์ทีมชาติสเปนยังมองโลกแง่ดีว่าเป็นความท้าทายเฉพาะการทำทีมที่ปราศจากซุปตาร์ชาวโปรตุกีส

โลเปเตกี ประเมินผลงานของตนเองว่า'เต็มไปด้วยความเข้มข้นและแรงกระตือรือร้น นับจนถึงตอนนี้ผมพึงพอใจเพราะเรายังไม่มีนักเตะคนใดได้รับบาดเจ็บจากการฝึกซ้อมตลอด 20 ครั้งที่ผ่านมา'  

เทรนเนอร์วัย 51 ปีตกลงรับงานเทรนเนอร์ของ เรอัล มาดริด โดยไม่คาดคิดว่า โรนัลโด้ จะตัดสินใจอำลาสโมสร แม้ว่าเขาจะโน้มน้าวให้ซุปตาร์ชาวโปรตุกีสอยู่กับทีมต่อไปก็ตาม แต่ความพยายามดังกล่าวไม่ประสบผลสำเร็จ ทว่าโลเตเปกียังมองโลกแง่ดีว่ามันเป็นงานท้าทายความสามารถและเชื่อมั่นว่า แกเร็ธ เบล เป็นนักเตะที่มีศักยภาพพอจะก้าวขึ้นมาแทนที่โรนัลโด้ได้เช่นกัน 


'ตอนที่ผมรับงาน โรนัลโด้ยังเป็นนักเตะของ เรอัล มาดริด แต่หลังจากนั้นไม่นานนักเขาก็ตัดสินใจย้ายทีม'

'ในฐานะเทรนเนอร์ มันเป็นความท้าทายที่น่าตื่นเต้นในการทำทีมที่ไม่มีคริสเตียโน่'

'ผมรับรู้ได้ถึงความเป็นหนึ่งในนักเตะที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของ เรอัล มาดริด สโมสรชื่นชมความสำเร็จที่เขาทิ้งไว้เป็นมรดกให้กับทีมก่อนลาจากไป'

'เรามั่นใจว่า (แกเร็ธ) เบล จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นกำลังสำคัญและเราคาดหวังจากเขามาก เราจะทำงานร่วมกันเพื่อให้เขาสร้างผลงานออกมาให้ดีที่สุด'

ขณะที่มุมมองคนนอกอย่าง กาอิซก้า เมนดิเอต้า อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติสเปนระบุว่าการสูญเสีย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะส่งผลกระทบต่อ เรอัล มาดริด ซึ่งต้องใช้เวลาปรับตัวอีกสักระยะหลังซุปตาร์ชาวโปรตุกีสสร้างผลงานที่ยากต่อการลอกเลียนแบบเพื่อกลับสู่สภาพเดิมเหมือนอดีตที่ผ่านมา ซึ่งมียอดนักเตะจากไปแต่ก็มีคนใหม่ก้าวขึ้นมาทดแทน 

'แน่นอนว่าจะต้องมีเวลาปรับตัวใน เรอัล มาดริด, คริสเตียโน่ เป็นผู้เล่นคนสำคัญสำหรับ เรอัล มาดริด ตลอดช่วงหลายปีหลัง ทั้งกับจำนวนประตูที่ทำได้และวิธีการเล่นของเขาที่มีผลต่อเกมและความเป็นผู้นำในห้องแต่งตัวของเขาจะขาดหายไป'

'จะมีบางอย่างที่ขาดหายไปเมื่อไร้คริสเตียโน่ แต่ก็ยังเป็น เรอัล มาดริด มันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว มีผู้เล่นชั้นยอดจากไปและมีนักเตะดีๆเข้ามาทดแทน ในทีมยังมีผู้นำอย่าง เบล, เบนเซม่า, โมดริช หรือ รามอส ซึ่งจะช่วยเติมเต็มช่องว่างดังกล่าว เรอัล มาดริด ยังเป็นทีมที่มีผู้เล่นชั้นยอดเสมอ'เมนดิเอต้ากล่าว


แกเร็ธ เบล เป็นนักเตะที่มีศักยภาพเพียงพอสำหรับการก้าวขึ้นมาทดแทน โรนัลโด้ ได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ยังมีเครื่องหมายคำถามเกี่ยวกับสภาพร่างกายของกองหน้าชาวเวลส์ว่าจะยืนระยะได้ดีเพียงใดหากพิจารณาจากประวัติบาดเจ็บที่ผ่านมาของนักเตะ 

เบล ย้ายจาก สเปอร์ส มาสวมชุดขาวตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ปี 2013 กองหน้าชาวเวลส์โรเตชั่นอาการบาดเจ็บทั่วร่างรวมกัน 25 ครั้งและพลาดการลงเล่น 79 เกม ตลอดช่วง 5 ฤดูกาลที่ผ่านมา เขาจึงลงเล่นทุกรายการรวมกันเพียง 189 นัดเท่านั้น 

ย้อนกลับไปในปีแรกฤดูกาล 2013-14 เบล เดี้ยง 9 ครั้ง พลาดการลงสนาม 15 เกม ซีซั่นต่อมาดีขึ้นบาดเจ็บเพียง 3 ครั้งและชวดลงสนาม 9 นัด ซึ่งเป็นฤดูกาลที่กองหน้าชาวเวลส์ทำสถิติลงสนามมากสุดในอาชีพค้าแข้งกับทีมชุดขาว โดยลงเล่นทุกรายการ 48 เกมในปีดังกล่าว

ฤดูกาล 2015-16 หนุ่มเวลส์เดี้ยง 7 ครั้ง พลาดการลงเล่น 19 เกม, ซีซั่น 2016-17 บาดเจ็บน้อยเพียง 3 ครั้งแต่หนักโดยเฉพาะการบาดเจ็บข้อเท้าขวาทำให้เขาพลาดการลงสนามรวมกัน 27 เกม 

ส่วนฤดูกาลล่าสุด เบลบาดเจ็บ 3 ครั้งและชวดลงสนาม 9 นัด ทว่าช่วงที่ร่างกายฟิตสมบูรณ์ เขาถูกซีดานจับนั่งที่ข้างสนามโดยเฉพาะนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกกับ ลิเวอร์พูล จนกองหน้าชาวเวลส์ออกอาการหงุดหงิดงอแงและคิดถึงการย้ายทีมหลังเกมที่กรุงเคียฟ 


อย่างไรก็ตามสถานการณ์ทุกอย่างไหลมาเข้าทางกองหน้าทีมชาติเวลส์ นับตั้งแต่การลาออกจากตำแหน่งของ ซีดาน มาจนถึงการอำลาสโมสรของโรนัลโด้ อีกทั้งโลเปเตกียังแสดงการหนุนหลังอย่างชัดเจนว่าเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นแข้งตัวท็อปคนต่อไปของทัพ'โลส บลังโกส' ดังนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับเบลว่าจะรักษาสภาพร่างกายให้ฟิตสมบูรณ์ได้นานเพียงใดด้วย

เรอัล มาดริด ยังคงมีขุมกำลังที่แข็งแกร่ง ขณะเดียวกันโลเปเตกีไม่ได้เรียกร้องจากท่านประธานว่าจะต้องเสริมทัพเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอแต่อย่างใด 

'เราพึงพอใจกับขุมกำลังที่เรามีอยู่และเชื่อมั่นว่าเราจะสู้เพื่อเป้าหมายทั้งหมดที่ เรอัล มาดริด สามารถทำได้ เราต้องการเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมในสนาม ถ้าไม่มีนักเตะเข้ามาหรือย้ายออกไป ผมจะเป็นเทรนเนอร์ที่มีความสุขเหมือนเดิม'โลเปเตกียืนยัน

ผู้ที่จะชี้ขาดว่าจะ'ซื้อ'หรือ'ไม่ซื้อ'ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคนชื่อ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ 

แม้ เรอัล มาดริด จะควักกระเป๋าจ่ายไปแล้ว 75 ล้านยูโรแลกกับ วินิชุส จูเนียร์ กับ อัลบาโร่ โอดรีโอโซล่า ก็ตาม แต่การเซ็นสัญญากับกองหน้าดาวรุ่งชาวบราซิเลียนจำนวน 45 ล้านยูโรเป็นงบประมาณของปีก่อน นั่นเท่ากับว่าทีมชุดขาวเพิ่งใช้จ่ายไปเพียง 30 ล้านยูโรเพื่อแลกกับแบ็กขวาดาวรุ่งจาก เรอัล โซเซียดาด เท่านั้น 


จากประวัติที่ผ่านมาของ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ สื่อหลายสำนักมองทิศทางเดียวกันว่าประธานทีมชุดขาวไม่หยุดนิ่งเพียงเท่านี้แน่ เขาต้องการสิ่งดีที่สุดสำหรับทัพ'โลส บลังโกส'เสมอ แต่ไม่มีใครคาดเดาความคิดของฟลอเรนติโน่ว่าจะเลือกชงชื่อนักเตะคนใดขึ้นมาเป็นซุปตาร์คนต่อไปของ เรอัล มาดริด 

ณ ตอนนี้มีทางเลือกไม่มากนักสำหรับทีมชุดขาวหลัง เนย์มาร์ กับ คิลียัน เอ็มบั๊ปเป้ สองช้อยส์ก่อนหน้านี้ต่างยืนยันว่าจะอยู่กับเปแอสเชต่อไป ขณะที่ เอแด็น อาซาร์, แฮร์รี่ เคน, เอดินสัน กาวานี หรือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ถูกนำชื่อกลับมาโยงอีกครั้ง แต่ละคนค่าตัวล้วนกระฉูดทั้งสิ้น 

ปัญหาของ เรอัล มาดริด ไม่ต่างจากที่เกิดขึ้นกับทีมคู่ปรับสำคัญอย่าง บาร์เซโลน่า เนื่องจากนักเตะแกนหลักหลายคนมีอายุใช้งานเหลือไม่มากนัก ทีมชุดขาวมีผู้เล่นอายุแตะหลัก 30 ในทีม 5 คนทั้ง ลูก้า โมดริช (32), เซร์คิโอ รามอส (32), เกย์ลอร์ นาวาส (31), คาริม เบนเซม่า (30) กับ มาร์เซโล่ วิเอยร่า (30) ขณะที่ แกเร็ธ เบล อายุ 29 ปีและยังมีเครื่องหมายคำถามเรื่องสภาพร่างกายที่ค่อนข้างเปราะ 


ทีมชุดขาวคำนึงถึงเรื่องดังกล่าวมาตั้งแต่ช่วงที่มีซีดานเป็นเทรนเนอร์ด้วยการดึงผู้เล่นดาวรุ่งแววดีเข้ามาเสริมทัพอย่างต่อเนื่องทั้ง มาร์โก อาเซนซีโอ, ดาเนียล เซบายอส, เตโอ แอร์กน็องเดซ, วินิชุส จูเนียร์ กับ อัลบาโร่ โอดรีโอโซล่า รวมถึงนักเตะที่ซื้อไว้ล่วงหน้าอย่าง โรดริโก้ โกเอส ดาวรุ่งวัย 17 กะรัตของซานโตส 

เรอัล มาดริด ยังโหยหาผู้เล่นระดับ'ซูเปอร์สตาร์' ที่สโมสรเปิดตัวนักเตะอย่างยิ่งใหญ่ครั้งสุดท้ายตั้งแต่ ฮาเมส โรดริเกซ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2014 สาวกมาดริดิสต้าเฝ้ารอมาถึงปีที่ 4 ซึ่งมีเพียงท่านประธานฟลอเรนติโน่เท่านั้นว่าจะตอบสนองความต้องการของแฟนชุดขาวหรือไม่...


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด