:::     :::

5 ดาวเตะฝีตีนดีที่ "ยืมเพื่อนมา"

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ไม่ใช่เพียงแวดวงการเมืองเท่านั้น ที่เป็นพวก "ขี้ยืม" ของเพื่อน หากแต่ในอุตสาหกรรมลูกหนังไทย "การยืม" ถือเป็นธุรกิจที่เห็นกันได้ทั่วไป (และสามารถตรวจสอบได้)

บางคนคือยอดแข้งฝีตีนดีที่รอวันติดปีกบิน เป็นแข้งดาวรุ่งที่อยู่ระหว่างเจียระไนขึ้นสู่ตัวหลัก บางคนเล่นอาจไม่เข้ากับแท็คติกโค้ช หรือเป็นตัวเลือกในสโมสรอันดับ 2-3

ครั้นจะปล่อยตัวไป คงน่าเสียดายเวลาที่ฟูมฟัก “การให้ยืมตัว” จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือก เพื่อให้นักเตะเหล่านี้ สร้างเสริมประสบการณ์ลูกหนัง พัฒนาฝีตีนเพื่อกลับมารับใช้สโมสรในอนาคต

“ฉันดูฟุตบอลในร้านเหล้า” ฉบับนี้ ขออนุญาตกระแทกแป้นพิมพ์นำเสนอ 5 แข้ง ที่ยืมเพื่อน หรือ สโมสรพันธมิตรมา แล้วผู้เล่นเหล่านี้ทะลึ่งกลายเป็น “ส่วนสำคัญ” ให้ต้นสังกัดใหม่ในเลกที่สอง

 

อานนท์ อมรเลิศศักดิ์
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สู่ บีจีเอฟซี

1 ในดาวรุ่งเจนใหม่ที่น่าจับตามองอย่างมาก มีหมวกทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี การันตีฝีตีน อย่างไรก็ตามบทบาทในถิ่น ช้าง อารีนา ของ “นนท์” ดูเหมือนจะมีเพียงจำกัดจำเขี่ย

เจ้าตัวถูกเป็นตัวเลือกอันดับ 3 ในตำแหน่งคีย์แมนหลังกองหน้า รองจาก ยู จุน-ซู และ สุภโชค สารชาติ เด็กนรกแตกรุ่นน้อง (ไม่รับ ศุภชัย ใจเด็ด ที่โดนจับมาเล่นตำแหน่งนี้บางครั้ง) ครั้นถูกส่งไปประจำการริมเส้น ก็ไม่ใช่ตำแหน่งถนัดอีก

เมื่อไม่มีเกมลงเล่น การหยุดพัฒนาย่อมมี และ บุรีรัมย์ ไม่ยอมให้ดาวรุ่งที่ปลุกปั้นมาถูกดอง สโมสรนำข้อเสนอ “ยืมตัว” ไปยื่นให้ บีจี ในช่วงที่ อนุรักษ์ ศรีเกิด คัมแบ็กมาคุมทีมพอดี และ “โค้ชจุ่น” ที่ชอบเจ้านนท์และเคยร่วมงานสมันทีมชาติ U19 ไม่พูดเยอะให้เจ็บคอ จัดการ “ยืม” ทันที

ผลลัพธ์คือ ดาวรุ่งวัย 20 ปี กลายเป็น คีย์แมนที่บีจีขาดไม่ได้ และเป็นกำลังสำคัญในแนวรุก ทั้งยิง ทั้งจ่าย ช่วยทีมหนีตกชั้นในฤดูกาลนี้

 

ศรายุธ สมพิมพ์
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สู่ แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล

เด็กหนุ่ม “ตาหวาน” เหมือนชื่อเล่น ที่มาตะบันชีวิตในเมืองหลวง และเจ้าสังกัด ทรู แบงค็อกฯ ทว่าด้วยขวบวัยที่ยังไม่สามารถถีบตัวเองขึ้นชุดใหญ่ได้ การลงเล่นในทีมจึงมีจำกัดขำเขี่ย

สวนทางกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่กำลังมองหาดาวรุ่งฝีตีนดี และได้ดึง “ตาหวาน” กลับไปเล่นยังบ้านเกิดที่ แม้จะผ่านทีมชาติในระดับ 19 และ 21 ปีมา ทว่าโอกาสในการลงสนามกับทีมระดับแชมป์ไทยลีก ยังเลือนราง จนช่วงเลกสองที่ผ่านมา เขาถูกปล่อยตัวมาให้ “อินทรีทัพฟ้า” ใช้งาน

“ตาหวาน” ใช้เวลาเพียงไม่นาน จนสามารถเอาชนะใจโค้ชได้ จนกลายเป็นกำลังหลักช่วย แอร์ฟอร์ซ หนีตายอยู่ปัจจุบันขณะ รวมถึงมีโอกาสสวมปอกแขนกัปตันทีมในโมงยามปัจจุบันอีกด้วย

ไม่ต้องสาธยายให้มากความ บนวัยเพียง 21 ปี แนวรับรายนี้คืออนาคตของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บ้านเกิดของเขาอย่างแน่นอน

 

กานต์นรินทร์ ถาวรศักดิ์
ราชบุรี มิตรผล สู่ สุพรรณบุรี เอฟซี

กองกลางหน้าหล่อ มาดนิ่ง สมบัติสำคัญของ ราชบุรี มิตรผล ที่รอวันก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของสโมสร ขณะที่ระดับทีมชาติเจ้าตัวคือขุนพลหลักทั้งชุด 19, 21 และ 23 ปี

ฤดูกาลที่ผ่านมา “ฟลุ๊ค” ถูกปล่อยตัวไปเล่นให้ ศรีสะเกษ เอฟซี และเป็นกำลังหลักช่วยทีมได้จนถึงนาทีสุดท้าย จนกลับคืนรังมิตรผลบ้านหลังประจำ ทว่าด้วยตำแหน่งแผงมิดฟิลด์ ที่มีแข้งเก๋าอย่าง ปฐมชัย เสือสกุล หรือ ชุติพนธ์ ทองแท้ จองอยู่ ทำให้โอกาสเจ้าตัวมีน้อยที่จะได้วาดฝีตีนบนผืนหญ้า

จนเมื่อเลกสองที่ผ่านมา สุพรรณบุรี เอฟซี ยื่นข้อเสนอ “ยืมตัว” ฟลุ๊ค ใช้งาน และเขากลายเป็นหนึ่งในแข้งหลักที่สามารถปรับตัวเข้ากับแวดล้อมสโมสรใหม่ได้ทันที หลังย้ายมาร่วมทีมเพียงไม่นาน จนได้รับการไว้วางใจให้ลงทำหน้าที่แดนกลางทัพ “ช้างศึกยุทธหัตถี” อย่างสง่าผ่าเผย

 

วิศรุต อิ่มอุระ
ทรู แบงค็อกฯ สู่ แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล

หนึ่งในผลิตจากโรงเรียนเพาะเมล็ดพันธุ์ลูกหนัง สุรศักดิ์มนตรี เจ้าตัวถูกจับตามองตั้งแต่วัยละอ่อน จนเป็น ทรู แบงค็อกฯ ที่ดึงตัวเข้าไปร่วมชายคา

อย่างไรก็ดีแม้จะเป็นกำลังสำคัญให้ทีมชาติชุดอายุ 19 และ 21 ปี แต่การอยู่สโมสรใหญ่ ทำให้เขาแทบไม่มีโอกาสได้ลงวาดลวดลายกับทีมนัก จนเมื่อช่วงเลกสองที่ผ่านมา สโมสรได้ปล่อยยืม “เตี้ย” ไปร่วมทีม “อินทรีทัพฟ้า”

ด้วยความที่เล่นสารพัดตำแหน่งเป็นทุนเดิม ทั้งริมเส้นและตัวกลาง ยิ่งเมื่อมีเวทีให้ปล่อยของ “เตี้ย” คว้าโอกาสไว้ในมืออย่างเหนียวแน่น กับบทบาทมิดฟิลด์ เขาทำได้อย่างดี จนแทบการันตีตำแหน่งตัวจริงตลอด ช่วยให้ อินทรีทัพฟ้า ดิ้นเฮือกสุดท้ายอยู่ ณ ปัจจุบันขณะ

 

อธิบดี เอติรัตน์
การท่าเรือ เอฟซี สู่ ราชนาวี  

บนวัยเพียง 26 ปีทว่า “เอก” กลายเป็นแข้งที่พเนจรสุดคนหนึ่งในเมืองไทย แม้จะไม่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับซุป’ตาร์ ทว่าสไตล์การเล่นของ อธิบดี กลายเป็นผู้เล่นที่โค้ชหลายคนอยากอุ้มไปร่วมงาน

กับการอ่านเกมที่ยอดเยี่ยม ดุดัน เล่นได้คล่องทั้งสองเท้า และทางบ้านที่ไม่ธรรมดา ทำให้เขาเป็นผู้เล่นสไตล์ “ซัพพอร์ต” ทีมได้อย่างชั้นดี

กับต้นสังกัดปัจจุบันอย่าง การท่าเรือ เอฟซี “เอก” ไม่มีพื้นที่ให้โชว์เท่าไหร่นัก หลังต้องตกเป็นตัวสำรอง การเดินทางเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อ ราชนาวี ยื่นมือมาขอยืมเจ้าตัวไปช่วยรังเก่าหนีตายอีกหน

แน่นอนเขากลายเป็นแกนหลักในแดนกลางทันที หลังย้ายเข้าสู่รั้วสัตหีบ และทำผลงานได้ยอดเยี่ยมระดับหนึ่งจากการประสานงานคู่กับ เกรียงไกร พิมพ์รัตน์ ในแดนกลาง คอยปัดกวาดเกมรุกคู่แข่ง และอยู่ในระหว่างเร่งโค้งสุดท้ายเพื่อหนีจากโซนตกชั้นให้ได้


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด