ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวสร้าง “มูลค่า” ในตัว “เจ” ได้เป็นอย่างมาก จนปัจจุบันขณะ หมอนี่ถีบตัวเองขึ้นไปเป็นเพลย์เมกเกอร์อันดับ 1 ของทีมชาติไทยอย่างไม่มีใครริอาจปฏิเสธ

 4 ปีล่วงผ่าน จากเกาหลีใต้ สู่ อินโดนีเซีย ขุนพลช้างศึก กำลังลงโม่แข้งในศึกเอเชียนเกมส์ พร้อมคำถามที่ถูกปาใส่หน้ามากมายว่า ทีมชุดนี้ดีพอหรือไม่ ?

เหลียวไปมองผู้เล่นที่พอฝากไข้และ “เปลี่ยนเกม” ในยามคับขันได้ ยังชื้นใจอยู่บ้าง หลังเจอหน้าตี๋ๆ ตาหยีๆ ของ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ โผล่มาให้เห็น

“ยิม” ยังเป็นเพลย์เมกเกอร์หมายเลข 1 ของ วรวุธ ศรีมะฆะ ไม่เปลี่ยน ตั้งแต่ชุดคว้าแชมป์ซีเกมส์ที่ กัวลาลัมเปอร์ และหนนี้เชื่อว่าการจัดทัพของ “โค้ชโย่ง” ยังไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะยืมรถบัสมาอุด หรือใช้แท็คติกใด กองกลางวอนเดอร์คิด ยังคงคือหนึ่งในแนวรุกของ เฮดโค้ชทีมชาติไทย U-23

การที่ไม่เรียกแข้งอย่าง อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ มาคือคำตอบชั้นดีว่า ในรุ่นขวบวัยเดียวกัน วรวุธ ศรีมะฆะ มองว่า วรชิต คือผู้เล่นหมายเลข 1 ในแนวรุก

มีคิลเลอร์พาสที่โหดสัส จังหวะเติมขึ้นไปทำประตู หรือช่วยไล่เกมตรงกลาง วรชิต คนตี๋ 2018 มีมานำเสนอทั้งหมด

ประจวบเหมาะพอดีกับฟอร์มของเขา ที่ก้าวขึ้นมาเป็น “เดอะ แบก” ในรั้วฉลามชลอย่างเต็มตัว บนวัยกำลังย่างเข้าอายุ 21

มูนวอล์กเข็มนาฬิกากลับไป “ยิม” ถูกเป็นผู้ต้องหาลูกหนังจากชาวโซเชียล ว่าเล่นไม่ทุ่มเทมากพอ ในฟุตบอลทีมชาติไทยชิงแชมป์ เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เมื่อสองปีก่อน ที่บาห์เรน

เช่นเดียวกับเมื่อปีกลาย ฟอร์มกับ ชลบุรี เอฟซี ของยิมดิ่งลงเหวไม่ต่างจากตลาดหุ้นที่พุ่งชนพิษเศรษฐกิจโลก ความคาดหวังที่ ชลบุรี เอฟซี ใส่ให้ วรชิต ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ

ฤดูกาล 20 17 ยิม ทำได้เพียง 3 ประตู จาก 23 นัด

ต่อยอดมายันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย U-23 รวมถึงในรายการซีเกมส์ล่าสุด เจ้าตัวโดนกระหน่ำผ่านคีย์บอร์ดอย่างหนัก เรื่องฟอร์มการเล่น แต่เมื่อปลายทางของทีมชุดนี้คว้าเหรียญทองกลับมาได้ เสียงจึงเบาลง

แต่ปีนี้ วรชิต แทบเปลี่ยนเป็นคนละคนจากซีซั่นก่อน ปัจจุบันขณะ เขากลายเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกฉลามชล อย่างขาดไม่ได้ แม้ทีมจะมีการผ่าตัดปล่อยแข้งหลักออกไปก็ตาม

ตัวเลขตอบแทนได้ “ยิม” พังตาข่ายฝ่ายตรงข้ามได้ถึง 14 ตุง จากทุกรายการ และครองดาวซัลโวของ ชลบุรี เอฟซี ณ เวลานี้

เขาเล่นบอลง่ายขึ้นกว่าเดิม ไม่ให้ยากเหมือนเก่า ไม่เก็บบอลไว้กับตัวไว้นาน หาจังหวะสอดขึ้นไปทำประตูบ่อยครั้ง กลายเป็นผู้เล่นที่กำหนดทิศทางในเกมรุกของทีมได้อย่างลงตัว

ด้วยฟอร์มที่ไฉไลเป็นบ้า น่าสนใจว่า วรชิต จะเนรมิตฟอร์มการเล่นใน เอเชียนเกมส์ ที่อินโด นีเซีย ได้อย่างสุดสะเด่าแค่ไหน กับบทบาท “คีย์แมน” แทนที่คนเก่าอย่าง ชนาธิป ที่แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวเมื่อ 4 ปีก่อนในระดับเอเชีย

เขาไม่มีเพื่อนร่วมทีมอย่าง ชาริล ชัปปุยส์ หรือ สารัช อยู่เย็น คอยซัพพอร์ตบอลให้ แต่จะมีผู้เล่นวัยห้าวเป้งอย่าง นพพล พลคำ, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล หรือ สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ เป็นคู่ขาในแผงมิดฟิลด์หนนี้ ซึ่งแก๊งนี้ก็รู้จักมักจี่ลงเล่นด้วยกันมาตั้งแต่สมัย ซีเกมส์ หรือทีมชาติชุดเยาวชน

ฟอร์มสุดโหดในไทยลีกกับ ชลบุรรี เอฟซี จะสามารถต่อยอดมายัง เอเชียนเกมส์ ได้ไหม ?

พรสวรรค์ที่ถูกปลุกให้ตื่นอีกครั้ง จะถูกนำมาใช้รูปแบบไหนบนสนามรบสีเขียว ?

จะสร้างมูลค่าให้ตัวเองในระดับเอเชียได้เหมือนที่รุ่นพี่อย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ทำไว้หรือไม่ ?

ได้เวลาปล่อยของโชว์แล้ว…ไอ้ตี๋