:::     :::

เมื่อเรือใบ...ไร้'บรอยน์'

วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม 2561 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
1,260
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
8 ประตู กับ 16 แอสซิสต์ พา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครองแชมป์พรีเมียร์ลีก เควิน เดอ บรอยน์ ถูกยกให้เป็นนักเตะที่ดีที่สุดของ เรือใบสีฟ้า ซีซั่นที่แล้ว

ปี 2018 จึงกลายเป็นปีที่ดีที่สุดของ เดอ บรอยน์ อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะนอกจากความสำเร็จกับสโมสรแล้ว ในนามทีมชาติยังพา เบลเยียม ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ และจบด้วยอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2018

แต่อาการบาดเจ็บเข่าอย่างรุนแรงตอนซ้อมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา กำลังพรากมิดฟิลด์ผมทองจากพื้นหญ้าไปราวๆ 3 เดือน ถือเป็นความเสียหายใหญ่หลวงสำหรับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับภาระกิจป้องกันแชมป์
อย่างไรก็ตาม ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง เพราะอาการบาดเจ็บบริเวณเอ็นหัวเข่าข้างด้านขวา ไม่ได้รุนแรงถึงขึ้นฉีกขาด จึงไม่ต้องผ่าตัด มิเช่นนั้นอาจต้องพักยาว 6-9 เดือน หมายความว่าต้องปิดเทอมยาวทั้งที่ฤดูกาลใหม่เพิ่งเริ่มต้น
หากถามว่า เดอ บรอยน์ มีความสำคัญกับ เป๊ป มากแค่ไหน?
52 นัดรวมทุกรายการเมื่อฤดูกาลที่แล้ว คือคำตอบที่ดีที่สุด
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เป๊ป จะแก้ปัญหาในการจัดทีมอย่างไร?
อาจตอบง่ายๆ ว่า ก็จัดทีมแบบเกมเปิดซีซั่นที่บุกชนะ อาร์เซน่อล 2-0 สิ! เพราะเกมที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เดอ บรอยน์ ยังฟิตสมบูรณ์ไม่เต็มที่พอที่จะเป็นตัวจริง ได้แค่ลงสำรองในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย
เป๊ป เลือก แบร์นาร์โด้ ซิลวา กับ อิลคาย กุนโดกัน ยืนขนาบข้าง แฟร์นันโญ่ ในระบบการเล่น 4-3-3 แต่ภาระหนักในเกมรับตกอยู่กับ แฟร์นันดินโญ่ มากเป็นพิเศษ เพราะปกติแล้วจะมี เดอ บรอยน์ รับหน้าที่ทั้งปั้นเกมรุก และลงไปช่วยเกมรับบ่อยครั้ง
ดังนั้น หาก เป๊ป ต้องมองหาตัวแทน เดอ บรอยน์ แล้ว กุนโดกัน น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า เพียงแต่บทบาทที่ผ่านๆ มา มักจะเห็น มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมนี ถูกจับไปยืนสูง คอยสอดเข้าเขตโทษไปลุ้นทำประตูมากกว่า
แต่จะว่าไปแล้ว กุนโดกัน ก็ถือเป็นมิดฟิลด์กระดูกเปราะคนหนึ่ง ขณะที่ แบร์นาร์โด้ ก็บอบบางเกินกว่าที่จะช่วยเกมรับ ดังนั้นหากสองคนนี้รวมถึง แฟร์นันดินโญ่ มีใครบาดเจ็บหรือติดโทษแบนไปอีก จะส่งผลกระทบกับการจัดทัพของ เป๊ป อย่างแน่นอน
เพราะในช่วงตลาดซื้อขายซัมเมอร์ที่ผ่านมา เรือใบสีฟ้า เป็นทีมเต็งที่จะคว้าตัว เฟร็ด กองกลางบราซิลจาก ชัคตาร์ โดเนตส์ค แต่ก็ถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่ปรับร่วมเมืองชิงตัดหน้า เช่นเดียวกับ จอร์จินโญ่ มิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลีของ นาโปลี ที่น่าจะลงเอยกับทีมอยู่แล้ว แต่ก็ถูก เมาริซิโอ ซาร์รี่ ลากไปร่วมทีม เชลซี ด้วย
ถือเป็นการช่วยกันสกัดกั้นของบรรดาคู่แข่งลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกที่ต้องร่วมมือกันหยุดความไร้เทียมทานของ แมนฯ ซิตี้ เมื่อบวกกับอาการบาดเจ็บของ เดอ บรอยน์ ด้วยแล้ว จึงกลายเป็นโอกาสของทีมอย่าง ลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูไนเต็ด, เชลซี อย่างไม่ต้องสงสัย
แล้วทีมใดจะได้รับผลประโยชน์ในการเผชิญหน้ากับ เรือใบสีฟ้า บ้าง? ไปดูโปรแกรมตลอด 3 เดือนข้างหน้านี้
19 สิงหาคม ฮัดเดอร์สฟิลด์ (เหย้า)
25 สิงหาคม วูลฟ์แฮมป์ตัน (เยือน)
1 กันยายน นิวคาสเซิ่ล (เหย้า)
15 กันยายน ฟูแล่ม (เหย้า)
18-19 กันยายน แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก
22 กันยายน คาร์ดิฟฟ์ (เยือน)
29 กันยายน ไบรท์ตัน (เหย้า)
2-3 ตุลาคม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสอง
7 ตุลาคม ลิเวอร์พูล (เยือน)
20 ตุลาคม เบิร์นลี่ย์ (เหย้า)
23-24 ตุลาคม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสาม
28 ตุลาคม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (เยือน)
3 พฤศจิกายน เซาธ์แฮมป์ตัน (เหย้า)
6-7 พฤศจิกายน แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสี่
11 พฤศจิกายน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เหย้า)

โฉมหน้าของสิบเอ็ดตัวจริงที่คาด เมื่อไร้เงา เดอ บรอยน์

หากเป็นไปตามที่คาดการณ์ เดอ บรอยน์ อาจฟิตกลับมาทันเกมเยือน เวสต์แฮม วันที่ 24 พฤศจิกายน แต่หากเร็วเกินไป ก็น่าจะเป็นเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ห้า วันที่ 27-28 พฤศจิกายน หรือไม่ก็เกมในบ้านกับ บอร์นมัธ วันที่ 1 ธันวาคม
หากตลาดซื้อขายนักเตะในอังกฤษยังปิดเวลาเดิม เป๊ป คงต้องเบิกเงินเสริมทัพอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เมื่อตลาดปิดลงไปแล้ว จากนี้ไปอีกราวๆ 3 เดือน เป๊ป ต้องภาวนาว่าจะไม่เสียกองกลางเพิ่มอีก
เพราะแค่นี้ก็ถือเป็นบททดสอบสำคัญของ เป๊ป แล้วว่าจะหาตัวแทน เดอ บรอยน์ ได้หรือเปล่า หรือจะปรับแท็กติกใหม่ รองรับการสูญเสียมิดฟิลด์เบลเยียม

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด