เริ่มต้นซีซั่นใหม่มาได้เพียงสองนัดสำหรับศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ แต่กลับมีเรื่องให้ต้องพูดถึงกัน "เยอะ" เลยทีเดียว โดยเฉพาะเรื่อง "เก้าอี้ร้อนๆ"
ไปที่กรุงลอนดอน อาร์เซนอล ของ ‘อูไน เอมิรี่’ กุนซือใหม่ป้ายแดง โดนบททดสอบชุดใหญ่ ชนิดที่เรียกได้ว่าพิเศษใส่ไข่ จากทั้ง‘เป๊ป กวาดิโอล่า’และ‘ซาร์รี่’ และเขาก็ไม่ผ่านบททดสอบแรกพ่ายแพ้สองนัดติดต่อกันทั้งๆที่เพิ่งจะเปิดฤดูกาล
แต่ความพ่ายแพ้ล่าสุดที่แสตมป์ฟอร์ดบริดจ์ อาจยังไม่ถึงกับสุมไฟใต้เก้าอี้ เชื่อว่ายังไงเอมิรี่ยังคงได้นั่งคุมทีมต่อไปได้แบบเย็นๆก้น เพราะของแบบนี้มันต่อให้เวลากันหน่อย
แต่กับบางกุนซือเวลาสำหรับการทำทีมเริ่มนับถอยหลังแล้ว!
โฟกัสไป "ตรงเป้า" ที่เมือง แมนเชสเตอร์ ในขณะที่ เป๊ป กวาดิโอล่า พาลูกทีมเก็บชัยสองนัดติดเป็นสองนัดที่ต้องบอกว่า“โคตรโหด”สอนบอลอาร์เซนอลเบาะๆสองเม็ด และยังเกรี้ยวกราดสาดกระสุนใส่ ‘ฮันเดิ้ลฟิดล์ทาวน์’ทีมน้องใหม่ด้วยสกอร์ 6-1 !!!
แต่อริร่วมเมืองอย่าง ‘แมนฯยูไนเต็ด’กลับทำผลงานได้น่าผิดหวัง!
แมนฯยูไนเต็ด ออกไปเยือน‘ไบร์ทตัน’ ด้วยความมั่นอกมั่นใจเต็มร้อยว่าจะคว้าสามแต้มต่อเนื่อง หลังเฉือน ‘เลสเตอร์ซิตี้’ ไปเมื่อนัดเปิดหัว แม้ในนัดนี้จะไร้ชื่อ‘อเล็กซิส’ที่ได้รับบาดเจ็บ และสภาพร่างกายไม่ฟิตสมบูรณ์ แต่ด้วยศักยภาพของนักเตะรวมถึงโค้ชอย่าง‘มูรินโญ่’ยังไงเสียแมตช์นี้ก็ต้องมีสามแต้มกลับบ้าน
แต่เพียง 20 นาที โลกทั้งใบก็พลิกคว่ำไปต่อหน้าต่อตา
สกอร์ที่เกิดขึ้น 2-0 ในช่วงต้นเกม หากย้อนไป 10 ปีก่อน คงหนีไม่พ้นแมนฯยู แต่ไม่ใช่กับในเวลานี้ เมื่อไบร์ทตันจัดไปสองประตูต่อเนื่องทำเอาแฟนบอลแมนฯยูฯเงียบสนิททั้งสนาม
แม้ว่าลูกทีมของมูรินโญ่จะไล่ตีตื้นมาเป็น 2-1 แต่ก็ไม่วายโดนเม็ดสาม ก่อนที่‘พอล ป็อกบา’จะมายิงจุดโทษแก้เขินไม่ให้พังยับเยิน จบเกมไบร์ทตันหักปากกาเซียนด้วยการเฉือนชนะไป 3-2
ถ้าไม่ใช่ทีมใหญ่อย่าง "แมนฯยูไนเต็ด" ผู้จัดการทีมที่ไม่ได้ชื่อว่า "มูรินโญ่" และผู้เล่นที่ไม่ได้ชื่อว่า "ป๊อกบา" เชื่อว่าสื่อผู้ดีคงไม่หยิบจับไปเล่นแรง เล่นใหญ่ ล้อเลียนจนสนุกมือในหน้าหนังสือพิมพ์อังกฤษ
‘I Sport’ นำภาพป็อกบาและกุนอเกวโร่ขึ้นปกพร้อมกับข้อความ“Classy” และ“Outclassed” แปลได้ง่ายๆ ตรงๆ ว่า "ก็เรานั้นมันคนละชั้น"
‘Miror Sport’ นี่เล่นใหญ่ขึ้นปกด้วย ดาวิด ซิลบา กำลังอุ้มลูกตัวน้อยพร้อมกับข้อความ “Class” ตัวเบ่อเริ่ม แต่มีภาพป็อกบาเล็กๆ แต่ตัวหนังสือใหญ่ๆกำกับว่า “Clowns” มันหมายถึงไอ้ตัวตลกนั่นเอง
ยังไม่นับรวมกับสื่อออนไลน์ที่จัดเต็มกันทุกเพจ!
อย่างที่ทราบกันว่านับตั้งแต่มูรินโญ่เข้ามาทำทีม สไตล์การเล่นของปีศาจแดงเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จากที่เป็นทีมบุกสนุกรุกเร้าใจ กลายเป็นทีมตั้งรับแน่น "จอดรถบัส" รอสวนกลับราวกับเป็นทีมเล็ก แต่ในจังหวะสวนกลับไม่วูบวาบ แข็งทื่อ ไร้จินตนาการ
ที่สำคัญแผงกองกลางที่ควรจะเป็น "จุดแข็ง" ของทีม กลับกลายเป็น "จุดอ่อน" เมื่อไม่สามารถเชื่อมเกมกับแผงหลัง ควบคุมความเร็วช้าของเกม และเปลี่ยนจังหวะจากรับเป็นรุกได้สมราคาค่าตัวของแต่ละคนเลยแม้แต่น้อย
เรียกได้ว่าเจอ แมนฯยู ช่วงนี้ แค่วิ่งเข้าใส่ก็ "ตกใจ" ลนลานเสียบอลให้แล้ว!
จากความพ่ายแพ้ในนั้นนี้ัสำนักข่าวต่างประเทศต่างรายงานตรงกันว่า มูรินโญ่ ได้กลายเป็นกุนซือเบอร์หนึ่งที่จะถูกตะเพิดก่อนใครเพื่อน นอกจากนี้ยังมีการระบุด้วยว่า‘เอ็ด วู้ดเวิร์ด’รองประธานแมนฯยูฯมีสีหน้าไม่สู้ดีนักหลังสิ้นเสียงนกหวีด และพุ่งตรงเข้าไปในห้องแต่งตัวนักเตะทันที
ไม่มีรายงานต่อจากนั้นว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องแต่งตัว แต่หากดูจากสีหน้าและแววตาที่โกรธกร้าวคงจะเดาได้ไม่ยากว่าคงไม่ได้เข้าไปปลอบขวัญ "จ่ามู" แน่นอน (ฮา)
แม้ว่าเกมฟาดแข้งจะดำเนินมาได้เพียงแค่สองนัด เหลือเวลาอีกหลายแมตช์ให้แข่งขัน แต่ขณะนี้เวลาของ มูรินโญ่ เริ่มนับถอยหลัง เก้าอี้เริ่มร้อน
หากยังไม่สามารถเรียกฟอร์มดุกลับมาได้ ก็เตรียมถูกดีดกระเด็นโบกมือลาเมืองแมนเชสเตอร์ได้เลย
