เหตุผลที่ยกคำพูดอดีต บก. ออกจากลิ้นชักความทรงจำ เนื่องจากประเด็นโลกลูกหนังไทยเวลานี้ นอกเหนือผลงานจอดป้ายรอบแรก เอเชียนเกมส์ การออกมาตอบโต้แฟนบอลของนักเตะบางคน อยู่ในระดับเดือดประหนึ่งหม้อไฟ
อาจเพราะเราอยู่ในยุคเก็บความรู้สึกไม่เก่ง คิดอะไรในใจไม่ได้ ต้องระบายสำเร็จความใคร่เป็นตัวหนังสือใส่คีย์บอร์ด เหมือนที่เด็กในทีมของ วรวุธ ศรีมะฆะ เป็นอยู่
การคุมอารมณ์ไม่อยู่ในสนามถือว่าแย่แล้ว แต่การคุมอารมณ์นอกสนามไม่อยู่ เป็นอะไรที่ยิ่งกว่า เด็กเหล่านี้คิดว่า นักฟุตบอลก็คนปกติ มีหัวใจ “มึงด่ามา กูด่ากลับ” แต่ไม่ได้มองว่า เมื่อภาพรวมผลงานแม่งแย่ จะให้แฟนบอลประเคน “คำชม” ใส่อย่างเดียวคงไม่ใช่
แวดวงนักเลงคีย์บอร์ดสัญชาติไทย “นักฟุตบอล” เจนก่อนหน้า หลายคนพุ่งชนเสียงก่นด่า คำสบถมากมาย ทว่าสุดท้ายแข้งเหล่านี้เลือกที่นจะเงียบไม่ตอบโต้ โดยใช้ฝีตีนในสนามขีดเขี่ยเป็นคำตอบแทน
เหล่านี่คือ 5 ผู้เล่นที่ใช้” สตั๊ด” อุดปากแฟนบอลแทน “คีย์บอร์ด”
ชิติพัทธ์ แทนกลาง
CT14 ลูกรักเนวิน เด็กเส้น วิเคราะห์ถูกต้องค่ะ คำถากถางต่างๆนานา ที่ “แบงก์” ต้องเจอในโลกออนไลน์จากคนแปลกหน้า หรือกระทั่งแฟนบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอง ยังรุมแซะอยู่ตลอด
ถึงกระนั้นอดีตปราการหลังรั้วสวนกุหลาบ ยังคงใช้ชีวิตบนฟลอ์หญ้าตามเดิม ไม่มีมาสวมบทพระเอกตัดพ้อน้อยใจใส่โซเชียล ด่าแฟนบอลกลับ หรือเรียกคะแนนสงสารใดๆ
ว่ากันว่าสาเหตุที่ ชิติพัทธ์ ยืนหยัดในรั้วปราสาทสายฟ้าได้ คือความมีวินัย ไม่แยสเสียงรอบข้าง ทำงานภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกุนซือ ทำให้เจ้าตัวยังอยู่ท่ามกลางเหล่า “ซุปตาร์” ในทีมได้จวบปัจจุบันขณะ
พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา
สำหรับเขา คือแบ็กที่ถูกแฟนบอลแซะว่า ไม่ต่างจากสี่แยกไฟแดงบางแยกในกรุงเทพมหานคร (ซ้ายผ่านตลอด) ในวันที่ “บาส” ต้องรับบทหนัก ทั้งในรั้วทีมชาติ หรือ สโมสรที่สังกัดอย่าง เอสซีจี เมืองทองฯ
บางช่วงขณะชีวิตบนผืนหญ้า ผลลัพธ์อาจไม่ถูกใจคอลูกหนังนัก ทำให้ชื่อเขา ถูกหยิงจับบูชายัญผ่านสวนอักษร ปู้ยี้ปู้ยำจนแป้นพิมพ์มันแผลบ
แต่เจ้าตัวยังคงลงทำหน้าที่ต่อไปเช่นเดิม ความมุ่งมั่นทุกครั้งที่ลงสนาม โฟกัสที่ฟุตบอลเป็นหลัก ไม่มีมาท้าแฟนบอลให้ไปหาถึงคอนโด หรือ ทักแช็ตส่วนตัวไป แต่อย่างใด
มงคล ทศไกร
หนึ่งในแพะตัวแรกๆที่ถูกหยิบมาชำแหละในโลกออนไลน์เสมอ หากผลการแข่งขันและฟอร์มการเล่นทีมชาติไทยไม่ได้ดั่งใจพี่ๆแฟนบอล
“จ่าเย็น” เป็นปีกขวาที่ไม่หวือหวา ไม่มีลูกสับหลอก ยิงไกลสวยงาม เน้นใช้แรงงานเป็นหลัก ปฏิบัติตามแท็คติกโค้ช ประหนึ่งรับฟังผู้บังคับบัญชา
แม้จะโดนแฟนบอลโขกสับช่วงหนึ่ง แต่เจ้าตัวยังได้รับความไว้วางใจให้ลงเป็น 11 คนแรกต่อไป ตั้งแต่ยุค เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ล่วงผ่านมายัน มิโลวาน ราเยวัช ที่สำคัญ ไม่มีการมาบวกกับแฟนบอลที่ด่า ใช้ความสามารถที่มีปิดปากเสียงเหล่านั้นด้วยตัวเอง
ดัสกร ทองเหลา
แม้จะไม่ได้เปิดธุรกิจขาย “ท้องม้วน” แต่ ดัสกร กลับเป็นหนึ่งในผู้เล่นถูกแฟนบอลไทยด่าว่าเป็น “จอมม้วน” มากที่สุดในโซเชียล
ดัสกร ทองม้วน หรือ ขี้เก๊กบ้าง ถ้อยคำที่ไม่ต่างจากมีดคอยกรีดใจจนอ่อนเปรี้ยเพลียแรง ถึงกระนั้น เขายังคงทำหน้าที่ในสนามตามเดิม มองข้ามเสียงนกกาสารพัดทิศ ผลิตผลงานตามแท็คติกที่ได้มอบรับ
นี่คือนักเตะที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบมากสุด แต่ผลลัพธ์ที่ผ่านมา ดัสกร ทองเหลา คือ กองกลางผู้สร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูมากติดระดับต้นในฤดูกาลเสมอ
ธีรเทพ วิโนทัย
ปัญหาการถูกก่นด่าในโลกโซเชียลของแข้ง เอเชียนเกมส์ จะกลายเป็นเด็กน้อยในทันที เมื่อเทียบเคียงกับแผลที่ “ลีซอ” ได้รับตลอดชีวิตการค้าแข้ง หากคำก่นด่าเปรียบเสมือนคมมีด หลังหรือทั้งตัว ธีรเทพ คงเต็มไปด้วย “รอยแผล”
ขี้เก๊ก แอ๊กอาร์ต ซุปตาร์ เล่นให้ดีได้ครึ่งของการการแต่งตัว เหล่านี้คือสิ่งที่ ดาวเตะ ทรู แบงค็อกฯ เจอมาทุกมุม
ลีซอ เป็นนักเตะที่มีทัศนคติความคิดเหมือนผู้เล่นยุโรป เป็น “นักฟุตบอลอาชีพ” ขนานแท้ ทุ่มเทระดับแปดสิยตีนถีบเมื่อได้รับโอกาส ที่สำคัญเขาไม่เคยตอบโต้ หรือด่าแฟนบอลที่ปาคำวิจารณ์ลบใส่สักครั้ง
