:::     :::

กุนซือกึ่งสำเร็จรูป

วันอาทิตย์ที่ 02 กันยายน 2561 คอลัมน์ ฉันดูบอลที่ร้านเหล้า โดย ดากานดา
6,795
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ท้องฟ้าของสมาคมฟุตบอลฯ ถูกย้อมเป็นสีเทา ภายหลังการสละเก้าอี้ลูกหนังอีกครั้งของ วรวุธ ศรีมะฆะ

ผลการแข่งขันที่ไม่เป็นใจใน เอเชียนเกมส์ สร้างรอยแผลใหญ่ให้สมาคมฟุตบอล ไม่นับรวมความเห็นของ ประธานพัฒนาเทคนิคอย่าง วิทยา เลาหกุล กับ สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ประมุขลูกหนัง ที่กระเด็นไปคนละทิศทาง

คำถามที่น่าสนใจชั่วโมงนี้ ใครจะกล้าเข้ามารับสิ่งไม่มีชีวิตที่เรียกว่า “แรงกดดัน” บนเก้าอี้ทีมชาติไทยคนใหม่แทน “โค้ชโย่ง”

แม้ “ช้างศึก” ชุดนี้จะได้ “บัตรผ่าน” เข้าไปเล่นรอบสุดท้ายอัตโนมัติ ในฐานะทีมวางในโถแรก หลังจากที่ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย จิ้มประเทศไทยเป็นสังเวียนจัดการแข่งขัน ศึกลูกหนัง ยู-23 ชิงแชมป์เอเชียในปี 2020 ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์คัด 3 ชาติที่ดีสุด เข้าไปเล่นโอลิมปิกเกมส์ ณ กรุงโตเกียว

ทว่าสมาคมฟุตบอลฯ ไม่ต้องการให้ทีมชาติ ยู-23 ร้างแมตช์การแข่งขันไปจำนวน 1 ปี โดยที่ไม่มีเกมลับแข้ง จึงตอบรับเอเอฟซี ในการส่ง “ช้างศึก” ลงเล่นรอบคัดเลือก ที่รออยู่ช่วงต้นปีหน้า

นั่นหมายความว่า สมาคมฟุตบอลฯ มีเวลาทำการบ้านเตรียมทีม และหาเฮดโค้ชใหม่มานั่งเก้าอี้ในเวลาไม่กี่เดือน

นับนิ้วผิวเผิน อาจเป็นเวลาที่นานพอประมาณหนึ่ง แต่อย่าลืมว่าโจทย์ใหญ่คือผู้ที่มานั่งเก้าอี้ลูกหนังตัวนี้ ต้อง “พลิกวิกฤต” ทีมให้ดีขึ้นทันตาทันที

ย้อนกลับไปปีกลาย สมาคมฟุตบอลฯ เคยปลด วรวุธ ศรีมะฆะ ผู้พาทีมคว้าแชมป์ซีเกมส์ เปลี่ยนมาใช้ โซรัน ยานโควิช

ท้ายสุดเฮดโค้ชบัลแกเรีย พาทีม “สอบตก” แบบไร้ข้อแก้ตัวใดๆ

การตั้ง “โค้ชโย่ง” ขึ้นมาคุมทีมอีกคำรบ แทบไม่ต่างจากการถุยน้ำลายขึ้นฟ้า และหล่นมาใส่หน้าตัวเองของสมาคม สุดท้าย “ข้าวหม้อเก่า” ที่เคยเขี่ยทิ้งไป กลับไม่สามารถเติมเต็มเป้าหมายที่ต้องการ จนต้องแยกทางกันอีกครา

การสรรหา “กุนซือ” ชุดปรีโอลิมปิกครั้งนี้ จึงเป็นโจทย์หินที่สมาคมต้องรวมหัวกันอย่างหนัก ว่าจะใช้ใครมาแทนที่

หลังจาก “พายเรือวนในอ่างลูกหนัง” มา 1 ปี

ช่วงที่ผ่านมา หลายสื่อพยายามงัดแงะตัวเลือกที่มีออกมาวางกอง วิเคราะห์สมการลูกหนัง แทนค่าความเป็นไปได้ใส่ ชื่ออย่าง สมชาย ชวยบุญชุม, นฤพล แก่นสน, อิสสระ ศรีทะโร, อนุรักษ์ ศรีเกิด หรือ สะสม พบประเสริฐ โผล่ขึ้นมาเป็นตัวเลือก

หากแต่ถามฉันในฐานะที่เป็น “สื่อ” เหมือนกัน และเคยร่วมงานกับสมาคมฟุตบอลฯช่วงเวลาหนึ่ง ฉันเชื่อสนิทใจว่า บรรดารายชื่อกุนซือที่เอ่ยมา ไม่ถูกสเปกสมาคมฟุตบอลฯสักคน

ชอยส์เดียวที่เหลือในตัวเลือกจึงเป็น “กุนซือต่างชาติ”

ใครสักคนที่ตอบโจทย์ “ไทยแลนด์เวย์”

ใครสักคนที่เข้ามาทำงานร่วมกับ ฟุตบอลไดเรกเตอร์ (ชาวต่างชาติ) ที่สมาคมเตรียมเพิ่มเข้ามา และทีมชาติไทยชุดใหญ่ได้ลงตัว

ใครสักคนที่เสกให้ทีมผลิดอกออกผล มีผลงานไม่ขี้เหร่ในระดับเมเจอร์

ใครสักคนที่เป็นเหมือน “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” เปิดฝาใส่น้ำร้อน ยืนเท่รอไม่นาน ก็จับซดได้เลย

ฉันไม่เถียงเรื่องการใช้โค้ชสร้างเมล็ดพันธุ์ลูกหนังในระยะยาว หากแต่สิ่งที่แฟนบอลไทยต้องการสุดคือ การพัฒนาทีมที่จับต้องได้ รวมถึงเรียก “ศรัทธา” กลับคืนก่อน

ไม่ใช่เพียงการ “ขายฝัน” ไปวันวัน

เหลียวมามองเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม หลังลองผิดลองถูกอยู่พักใหญ่ในทีมชุด บาร์เซโลน่า ออฟ อาเซียน พวกเขาสามารถหาคนที่รีดศักยภาพทีมชุดนี้ได้สำเร็จ

พัค ฮัง-ซอ กลายเป็นฮีโร่ผู้ไม่สวมผ้าคลุม ของชาวเหงียน การเข้ามาวางระบบ งัดแงะแท็คติกใหม่ ส่งให้ทีม ยู-23 ผงาดง้ำคล้ำเอเชีย ในสองทัวร์นาเมนต์ใหญ่ล่าสุด

ฉันเชื่อว่าเด็กชุด ยู-23 ในเมืองไทย มีฝีตีนฉกาจในระดับหนึ่ง และพวกเขาสามารถเนรมิตผลงานได้ดีงามกว่าที่เป็น หากได้ “ใครบางคน” ที่เปรียบเสมือน กุนซือกึ่งสำเร็จรูป เข้ามาปรับจูนแบบแผน เปลี่ยนแปลงทัศนคติการเล่น ให้ดีเริ่ดกว่าที่เป็นอยู่

การบ้านของสมาคมฟุตบอลฯ…คือการหาใครคนนั้นให้เจอ


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด